Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1625 การบิดเบือนความจริง
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1625 การบิดเบือนความจริง
ภายในโลกเสมือนจริง ที่ทางเข้าไปยังคาลานเอ็มไพร์ที่เลียนแบบมา
ผู้เล่นต่างๆ ที่กำลังนั่งอยู่บนยานเพื่อรอเริ่มเกมนั้นไม่ได้สนใจตัวละคร NPC ที่นั่งอยู่ข้างพวกเขาเลยเพราะพวกเขาเริ่มที่จะพูดคุยในหมู่ของพวกเขาเอง
ทันใดนั้นผู้เล่นคนหนึ่งที่สวมหมวกกันน็อกสีเงินก็เงยหน้าขึ้นและพูดถึงข่าวในชีวิตจริง
“พวกคุณรู้หรือยัง? นิทรรศการภาพวาดของจอห์น กริฟฟิน!”
ผู้เล่นที่สวมชุดเกราะพลังซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้เล่นที่สวมหมวกกันน็อกสีเงินเอามือแตะที่ท้ายทอยและพูดว่า
“จิตรกรที่อ้างว่าเป็นศิลปินแนวเซอร์เรียลิสม์น่ะเหรอ? ชาวดาวอังคารผู้นิยมอนาธิปไตยใช่ไหม?”
“คุณหมายความว่าไงที่ว่า ‘อ้าง’? เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักในโลกศิลปะ โอเคไหม? สำหรับมุมมองทางการเมืองของเขา ผมไม่สน ผมได้ยินแค่ว่าดูเหมือนเขาจะท่องเที่ยวเตร็ดเตร่อยู่รอบดาวอังคาร”
“ผมไม่รู้หรอก ผมไม่เข้าใจเรื่องศิลปะ แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ?”
“เมื่อวานนี้เขาได้จัดนิทรรศการภาพวาดที่พิพิธภัณฑ์กลางเพื่อระดมทุนสำหรับโปรเจกต์อาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี และเขาก็จัดแสดงผลงานของเขาซึ่งใช้เวลาหนึ่งปีในการทำให้นิทรรศการเสร็จสมบูรณ์! เห็นได้ชัดว่างานศิลปะที่จัดแสดงและแผนผังของนิทรรศการเป็นการปฏิวัติ… แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น!”
ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลและเสื้อผ้าทันสมัยซึ่งนั่งอยู่ข้างเขาอดที่จะพูดอย่างร้อนใจไม่ได้ว่า “ประเด็นคืออะไร? บอกมาเลยสิ!”
“ประเด็นก็คือลู่โจวไปที่นั่นด้วย!”
ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาล แต่ทุกคนที่นั่งข้างเขาก็ตกตะลึงไปเช่นกัน
แม้แต่เจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวละคร NPC ซึ่งยังเช็ดปืนไรเฟิลแม่เหล็กไฟฟ้ายังทำสีหน้าประหลาดใจ ราวกับว่าเขาคุ้นกับชื่อของลู่โจวมากๆ
“คุณหมายถึง… นักวิชาการลู่น่ะเหรอ?” ระหว่างที่หันไปมองผู้เล่นที่สวมหมวกกันน็อกสีเงินด้วยความตกตะลึง ชายที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า “นักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 21 ใช่ไหม?”
“ไม่ใช่แค่ศตวรรษที่ 21!” เขาเบี่ยงมองไปทางชายคนนั้นราวกับว่าเขาปัญญาอ่อน ผู้เล่นที่สวมหมวกกันน็อกสีเงินพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น “เขาแก้ปัญหาฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองและเทคโนโลยีที่เร็วกว่าแสง แม้ว่าศตวรรษที่ 22 จะเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็คงจะไม่มีนักวิชาการคนใดของศตวรรษนี้ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าเขา!”
เมื่อพูดออกมาแล้วเขาก็ยิ้มออกมาอย่างมีเงื่อนงำ เขาเหลือบมองไปรอบๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ข้างเขา เขาลดเสียงลงและพูดว่า “และผมได้ยินมาว่าในนิทรรศการนั้น นักวิชาการลู่ประเมินภาพวาดและไอเดียทางศิลปะของมิสเตอร์กริฟฟินไว้สูงและยังแสดงความเห็นชอบแผนการตั้งอาณานิคมบนระบบดาวด้วย คุณรู้ไหม การประเมินของเขาแทบจะไม่ผิดเลย พูดได้เลยว่าจนตอนนี้เขาก็ยังไม่เคยผิด”
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนในห้องโดยสารก็อึ้งไปและจู่ๆ บรรยากาศก็กลับมามีชีวิตชีวา
“บ้าเอ๊ย! จริงเหรอเนี่ย?!”
“เขาไม่ได้โกหกใช่ไหม?!”
“บ้าเอ๊ย! รู้อย่างนี้ฉันน่าจะเก็บตั๋วไว้สองใบ!”
“คุณคิดมากเกินไป! เว้นแต่ว่าคุณจะไปดาวอังคารล่วงหน้าหรือหาตัวแทนที่เชื่อถือได้ มันน่าจะช้ากว่าโลกเกือบ 20 นาที ในตอนที่เว็บไซต์โหลดขึ้นมา ตั๋วก็คงจะหมดไปแล้ว!”
เมื่อมองผู้คนที่กำลังคุยกันอยู่ ผู้เล่นที่สวมหมวกกันน็อกสีเงินก็ไอแห้งๆ แล้วยกมือแสดงสัญญาณให้พวกเขาเงียบ จากนั้นก็ทำการวิเคราะห์ข่าวซุบซิบนั้นต่อ
“ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องโกหก! ยังไงก็แล้วแต่ ประธานธนาคารเทียนกงก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ต่อมาเขาก็อนุมัติการใช้เงินหนึ่งแสนล้านเครดิตพอยท์ในหุ้นกู้ที่มูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีออกมา พวกเขาใช้ที่ดินของโลกใหม่เป็นหลักประกันเงินกู้ พวกเขาสามารถแลกสิทธิในที่ดินของพื้นที่ที่สอดคล้องกันแบบถาวรได้ และพวกเขาก็สามารถเปลี่ยนหุ้นส่วนหรือแลกผลประโยชน์ได้โดยตรง! ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าพวกเขาจะทำกำไรได้หรือไม่ แต่ผมมั่นใจว่าด้วยการสนับสนุนของนักวิชาการลู่ พวกเขาจะสามารถขับยานไปถึงที่นั่นได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่โน้มน้าวใจนี้ หลายคนที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารก็กลั้นหายใจ
ผู้เล่นหลายคนถึงกับออฟไลน์และหยุดเล่นเกมเลยด้วยซ้ำ
ตั๋วยานอวกาศไม่ได้หาซื้อง่ายๆ แต่ก็น่าจะยังมีโอกาสที่จะได้เงินหนึ่งแสนล้านเครดิตพอยท์ในหุ้นกู้ที่มีการการันตีด้วยที่ดินของโลกใหม่
ถึงแม้ว่ายักษ์ใหญ่ทางการเงินและนายธนาคารเหล่านั้นจะสนใจในหุ้นกู้เหล่านี้ด้วย แต่พวกเขาก็อาจจะไม่กินเค้กนั้นหมดก้อน มันอาจจะมีเศษเค้กหลงเหลืออยู่บ้างเสมอ
มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาครุ่นคิดว่าศาสตราจารย์ลู่มองแผนการตั้งอาณานิคมบนระบบดาวในแง่ดีอย่างไรบ้าง ความกังวลที่พวกเขามีอยู่ก็หายไปกับสายลม…
ภายนอกคาลานเอ็มไพร์ในโลกเสมือนจริง พายุที่พัดผ่านโลกทางการเงินได้ก่อตัวขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว
เหล่าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของธนาคารท้องถิ่นต่างๆ บนโลก ประกอบด้วยธนาคารพาน-เอเชียน ธนาคารเซี่ยงไฮ้ แคปปิตอล และอื่นๆ หยุดทำงานไปชั่วคราวเพราะปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
แม้ว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขในเวลาที่เหมาะสมและไม่ได้ก่อให้เกิดเหตุด้านความปลอดภัยทางข้อมูลใดๆ แต่มันก็ยังทำให้ผู้จัดการต่างๆ ที่รับผิดชอบเรื่องตัวแทนขายตราสารหนี้ภาคเอกชนเหล่านี้ต้องตกตะลึง
ก่อนหน้านี้แม้พวกเขาจะคาดไว้ว่าหุ้นกู้หนึ่งแสนล้านอาจจะถูกแย่งชิงไปในทางเดียวกับตั๋วที่ออกมาแล้วล่วงหน้า แต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าความกระตือรือร้นของผู้คนจะแผ่ขยายออกไปมาก
สหการพาน-เอเชียนร่ำรวยมากเกินไปจริงๆ ตราสารหนี้หนึ่งแสนล้านยังไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะแบ่งด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่บริษัทต่างๆ ของพาน-เอเชียน แต่ยังมีครอบครัวอีกหลายร้อยล้านครอบครัวด้วย หลังจากมีการพัฒนาทรัพยากรด้านอวกาศมาเป็นเวลาเกือบศตวรรษ ความมั่งคั่งของสังคมทั้งหมดก็ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือบุคคล ไม่ว่ามันจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม พวกเขาก็ได้เก็บสะสมทรัพย์สินมหาศาลมาไม่มากก็น้อย
ดังนั้นแล้วคนเหล่านั้นที่ได้ลิ้มรสความหวานของพายชิ้นนี้ก็กลัวว่าพวกเขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะร่ำรวยขึ้นมานี้ซึ่งมันอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ไม่ถึงสองชั่วโมงหุ้นกู้หนึ่งแสนล้านก็ถูกแย่งชิงไปหมดแล้ว
เมื่อไม่กี่วันก่อน การสร้าง ‘เรือโนอาห์’ นี้ยังเป็นงานของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี แต่ตอนนี้ความฝันนี้ได้ถูกยึดไปโดยพลเมืองและบริษัทต่างๆ ของสหการพาน-เอเชียน
ทุกคนหวังว่ายานลำใหญ่นี้จะถูกสร้างขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทุกคนก็หวังว่าชาวอาณานิคมที่เปิดโลกใหม่ขึ้นมาจะเริ่มเดินทางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อนำทรัพย์สมบัติทั้งทองและเงินที่ไม่มีวันหมดสิ้นจากดินแดนแห่งดวงดาวกลับมา…
ในตอนที่ลู่โจวได้เรียนรู้เรื่องราวทั้งหมดจากอีเมลที่เสี่ยวไอส่งมา มันก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว…
…
ณ โรงแรมสตาร์สกาย
หลังจากได้ชมข่าวของดาวอังคารบนหน้าจอโฮโลแกรม ลู่โจวก็ยื่นมือออกไปและบีบดั้งจมูกของเขาด้วยอาการปวดหัว
“ผมไม่เคยพูดว่าผมมองแผนการตั้งอาณานิคมของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี ในแง่ดีอย่างมากผมก็แค่พูดว่าผมเห็นด้วยกับอุดมการณ์ทางศิลปะของมิสเตอร์กริฟฟินเท่านั้นเอง”
เมื่อมองไปที่ลู่โจวที่กำลังปวดหัวอยู่ ศาสตราจารย์อู๋ฉิงหลายที่กำลังยืนสั่นอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาก็ทำสีหน้าอับอาย
“ขอโทษด้วยครับ… ดูเหมือนผมจะสร้างปัญหาให้คุณ”
ตอนที่เขาคิดเรื่องที่ว่าชายคนนี้ดูเหมือนจะซื้อตั๋วยานไว้หลายใบได้อย่างไร ลู่โจวก็เงยหน้าขึ้นและมองมาที่เขา
“ผมมั่นใจว่าคุณทำเงินได้เยอะ”
สีหน้าของเขามีความกระดากอายอยู่นิดหน่อย
“เอ่อ ผมแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่งก็ได้นะครับ” อู๋ฉิงหลายพูดพร้อมกับไอแห้งๆ
“ไปไกลๆ เลย”
เมื่อเห็นว่านักวิชาการลู่แสดงสัญญาณแห่งความโกรธออกมา อู๋ฉิงหลายซึ่งรู้ว่าตัวเองผิดก็รีบปิดปากเงียบและหันไปรอบๆ เพื่อเตรียมจะออกไปข้างนอก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ก้าวไปสักสองก้าว ลู่โจวก็เรียกเขาไว้
“เดี๋ยวก่อน”
รีบหยุดเดิน เขาถามพร้อมกับยิ้มอย่างอายๆ ว่า “เอ่อ มีอะไรเหรอครับ?”
“ใครขายตั๋วนิทรรศการศิลปะให้คุณ?”
อู๋ฉิงหลายอึ้งไปเล็กน้อย แล้วเขาก็ส่ายหัว
“จริงๆ แล้ว… ผมไม่ได้ใช้เงินซื้อมา ผมได้มาตอนที่ผมซื้อตั๋วยานอวกาศ”
ลู่โจวเลิกคิ้วขึ้น
“ได้มางั้นเหรอ?”
“ใช่ครับ…” เมื่อเห็นว่าลู่โจวมีท่าทีสงสัย ศาสตราจารย์อู๋ฉิงหลายก็กระซิบว่า “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า คุณไปเถอะ”
อู๋ฉิงหลายหมุนตัวแล้วออกจากห้องไป และปิดประตูด้านหลังเขา
ภายในห้องที่ว่างเปล่า ลู่โจวแตะคางและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานเขาก็พิจารณาใคร่ครวญ
ถ้าเขาจำไม่ผิดนิทรรศการภาพวาดมีเป้าหมายอยู่ที่พลเมืองชั้นสูงของดาวอังคาร เขาไม่เห็นพลเมืองที่แต่งตัวแบบธรรมดาๆ เลยที่พิพิธภัณฑ์
เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมตั๋วสำหรับนิทรรศการประเภทนี้ถึงถูกมัดรวมมากับตั๋วยานอวกาศ…
…………………………….