Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1627 ข้อเสนอแนะที่ไม่สมบูรณ์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1627 ข้อเสนอแนะที่ไม่สมบูรณ์
“ผมเคยพูดเมื่อนานมาแล้วว่าการเจรจาไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เราต้องเปิดเผยตำแหน่งของเราล่วงหน้าก่อนที่กองทัพชุดแรกจะติดตั้งอุปกรณ์ใหม่! บังคับให้พวกเขาต้องจดจำสถานการณ์ปัจจุบันของเรา!”
สถานการณ์ปัจจุบันดังกล่าวนั้นเป็นความจริงที่ชาวดาวอังคารสามารถจะพัฒนามันให้ดีขึ้นได้ภายใต้กฎของพวกเขาเอง นับจากนี้ไปพวกเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องหาทุนในเชิงเศรษฐกิจให้กับ ‘ประเทศที่อยู่เหนือพวกเขา’ อีกต่อไปแล้ว และพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องขายแรงงานอุตสาหกรรมถูกๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคหลายหมื่นล้านคนอีกต่อไป พวกเขาจะกำหนดอัตราภาษีและนโยบายการเข้าเมืองเพื่อปกป้องสิทธิของชาวดาวอังคารแทนที่จะก้มหัวให้กับพวกผู้ทรงอิทธิพลของพาน-เอเชียนเหมือนแต่ก่อน…
ชื่อของบุคคลที่พูดขึ้นมานั้นคือ เการุ่ยหมิง เลขาธิการของสำนักงานของเสี่ยวหง อย่างน้อยเขาก็เป็นเหตุผลครึ่งหนึ่งที่ว่าทำไมเสี่ยวหงถึงสามารถที่จะขึ้นมาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองเทียนกงได้อย่างราบรื่นมาก
“เรายังต้องฝันอยู่ คุณเลขาธิการอนาคต มันน่าจะดีที่สุดถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงสงครามได้ ถ้าเราทำไม่ได้ อย่างน้อยเราก็ต้องมีความได้เปรียบทางศีลธรรม”
หลังจากได้อ่านคำตอบที่มาจากหน้าจอโฮโลแกรม โดยเฉพาะเมื่อเสี่ยวหงอ่านส่วนที่ว่ากองทหารรักษาการณ์ถูกส่งไป ความกังวลจางๆ ก็ลอยขึ้นมาในดวงตาของเขา
สิ่งที่เขากังวลนั้นไม่ใช่อนาคตส่วนตัวของเขาหรือชะตากรรมของสหการพาน-เอเชียน แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์เช่นนี้ มันมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่า
อย่างแรกคือด้วยการตั้งกองทัพป้องกันดาวอังคารและการขยายกองทัพด้วยวิธีการที่ยุติธรรม หลังจากนั้นพวกเขาก็จะรอจนกระทั่งกองทัพชุดที่สองสามารถจะเทียบได้กับกองทัพชุดแรกก่อนจะไปช่วยเหลือเมืองอื่นๆ ของดาวอังคารเพื่อกู้เอกราชมา ในที่สุดพวกเขาก็จะสามารถแสวงหาอิสรภาพของพวกเขาเองได้อย่างช้าๆ
แต่ดูเหมือนว่าหลี่กวงหยาจะไม่ได้ตั้งใจจะให้โอกาสนี้แก่พวกเขา
การซ้อมรบของทหารและการส่งกองทหารรักษาการณ์ไปก็เกือบจะเท่าๆ กับเป็นการปฏิเสธความคิดของเขา
“เห็นชัดๆ ว่าเราขว้างกิ่งมะกอกไปเพื่อแลกกับกุญแจมือบนแขนกับเท้าของเรา” นิ้วชี้ของเสี่ยวหงปัดไปบนหน้าจอโฮโลแกรม เขาปิดคำตอบจากเจ้าหน้าที่ของพาน-เอเชียนไปด้วยความเสียใจขณะที่เขาพูดว่า “ถ้าเพียงแต่เมื่อหนึ่งปีก่อน อุบัติเหตุนั้นจะสำเร็จ”
อุบัติเหตุดังกล่าวนั้นหมายถึงการจี้เที่ยวบินเอ็น-177 อย่างแน่นอน
หากกล่าวถึงแผนเดิมของพวกเขา เที่ยวบินเอ็น-177 ที่ถูกจี้นั้นก็คงจะชนเข้ากับสถานีอวกาศเทียนโจวตรงๆ และขยะอวกาศที่ตามมาก็คงจะลดปัจจัยด้านความปลอดภัยของวงโคจรพ้องคาบโลกทั้งหมดโดยตรงไปสองระดับ ในตอนนั้นสถานีอวกาศมูนพาเลซและแหล่งทรัพยากรสถานีอวกาศเลอเกรนจ์ก็อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ในเวลานั้นพวกเขาก็อาจจะแค่ต้องการควบคุมสายส่งของสถานีอวกาศเลอเกรนจ์ระหว่างที่ร้องขอให้เจ้าหน้าที่พาน-เอเชียนให้เสริมสร้างหน่วยลาดตระเวนในแถบดาวเคราะห์น้อยให้แข็งแกร่งขึ้น เจ้าหน้าที่พาน-เอเชียนอาจจะมีทางเลือกไม่กี่ทาง
พวกเขาสามารถจะใช้อุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างอิสรภาพของอาณานิคมดาวอังคารทีละน้อย ขยายขนาดของกองทัพป้องกันดาวอังคาร และในที่สุดก็ได้ก้าวไปถึงอิสรภาพที่แท้จริง
เสี่ยวหงถึงกับมีชื่อสำหรับกองทัพของพวกเขาเองด้วยซ้ำ แต่ใครจะคิดว่าวัตถุโบราณที่นอนหลับไปเป็นร้อยปีจะขึ้นเครื่องมือจริงๆ โดยใช้พาสปอร์ตปลอม
ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็คงจะไม่เป็นไร ปัญหาใหญ่ก็คือว่าชายคนนี้สามารถสังหารโจรจี้เครื่องบินได้
ผลก็คือ แผนของพวกเขาไม่เพียงแต่จะถูกขัดขวางแต่พวกเขายังถูกบังคับให้พ่ายแพ้ไปตลอดทั้งปี ถ้าไม่ใช่เพื่อวิกฤตทางปัญญาซึ่งโจมตีเศรษฐกิจโลกอย่างหนักและเป็นสาเหตุให้สหการพาน-เอเชียนเพิ่มความเชื่อมั่นเชิงอุตสาหกรรมบนดาวอังคารขึ้นไปอีก พวกเขาอาจจะต้องรอไปอีกสองสามปี…
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถจะรอต่อไปได้แล้ว
เทคโนโลยีความเร็วแบบวาร์ปถูกค้นพบแล้ว เมื่อการสื่อสารที่เร็วกว่าแสงและการเดินทางที่เร็วกว่าแสงเป็นจริงขึ้นมา ข้อได้เปรียบเรื่องระยะห่างของดาวอังคารก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป และสหการพาน-เอเชียนก็จะได้อิสรภาพของดาวอังคารกลับคืนไปอย่างแน่นอน
หรืออย่างน้อย พวกนั้นก็อาจจะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นโซนเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่เหมือนกับเมืองก่วงฮั่น
“เปล่าประโยชน์ที่จะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว พวกเขาจ่อมีดอยู่ที่คอพวกเราแล้ว” เการุ่ยหมิงจ้องไปที่นายกเทศมนตรีที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าเราไม่ลงมือตอนนี้ เราจะเป็นฝ่ายถูกกระทำ”
เสี่ยวหงครุ่นคิดอยู่สักพัก เขามองมาที่เลขาธิการประจำสำนักงานของเขาและถามว่า “การเตรียมการเป็นยังไงบ้าง?”
ในที่สุดเการุ่ยหมิงก็ยิ้มออกมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ “ต้องขอบคุณความต้องการลิฟต์อวกาศ เราสามารถที่จะขยายปริมาณการผลิตได้แล้ว พร้อมกับการดำเนินการเรื่องเงินทุนการตั้งอาณานิคม เราสามารถที่จะสร้างยานในวงโคจรพ้องคาบโลกและเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพของเราได้ จากผลตอบรับจาก ‘ผู้การ’ จำนวนของยานอวกาศที่เรามีนั้นขึ้นไปถึง 50 ลำแล้ว แม้ว่ามันจะห่างไกลจากสมรรถภาพของกองทัพชุดแรก ด้วยข้อได้เปรียบของการจัดหาและช่องทางของเรา รวมถึงการสนับสนุนของโจรสลัดอวกาศอื่นๆ ตราบใดที่เราเปลี่ยนสงครามนี้ให้เป็นสงครามที่ยืดเยื้อออกไป ก็คงจะเป็นเราที่จะเป็นผู้มีชัยในท้ายที่สุด”
เสี่ยวหงถอนหายใจอย่างเงียบๆ ส่ายหัว และพูดว่า “จำนวนไม่มีความหมาย เรื่องสำคัญคือคุณภาพ ยานอวกาศที่มีวาร์ปไดรฟ์ที่กำลังเผชิญกับยานอวกาศที่ติดตั้งเครื่องยนต์แบบดั้งเดิมก็เหมือนกับเครื่องบินเจ็ตที่เผชิญกับเครื่องบินใบพัด คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม? เราต้องใช้เทคโนโลยีวาร์ปไดรฟ์ นั่นคือโอกาสชนะเดียวของเรา ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องการขอยืนยันตอนนี้คือโรงงานของอีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์บนดาวอังคารเริ่มผลิตออร์เดอร์จากกองทัพชุดแรกแล้วหรือยัง ถ้าเริ่มแล้วจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่เครื่องยนต์วาร์ปไดรฟ์เวอร์ชั่นที่สองจะเสร็จสมบูรณ์?”
เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการเดินทางของเวอร์ชันเต็มหลายครั้งนั้นเร็วกว่าเวอร์ชันสาธิต และมันสามารถที่จะไปได้เกินกว่าความเร็วของแสงอย่างสมบูรณ์ ข้ามระยะห่างของ 1~2AU ภายในไม่กี่วินาที
ถ้ายานอวกาศของกองทัพชุดแรกติดตั้งด้วยเครื่องยนต์แบบนั้นทั้งหมด พวกเขาก็จะสามารถลืมเรื่องการกำจัดการควบคุมของสหการพาน-เอเชียนไปได้เลย ในตอนนั้นแม้แต่โลกที่อยู่นอกระบบสุริยะก็อาจจะมาอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา
เมื่อเห็นความกลัวในดวงตาของนายกเทศมนตรีเสี่ยว เการุ่ยหมิงก็พยักหน้านิดๆ
“ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร”
“ดี” นายกเทศมนตรีเสี่ยวพยักหน้า “คุณคงรู้ว่าต้องทำอะไร”
…
ณ บ้านพักส่วนตัวที่ขอบเมืองเทียนกง
ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อโค้ทกันฝนสีน้ำตาลพูดขึ้นระหว่างที่ส่งบัตรสีดำให้หวังเผิง
“ผมคัดแยกข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการแล้ว สถานการณ์เหมือนกับที่ผมบอกคุณคราวที่แล้ว จนถึงตอนนี้ เรามีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าองค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาลได้ย้ายฐานของพวกเขาบนโลกมาที่นี่ ผมได้ติดตามเบาะแสต่างๆ ในพื้นที่นี้… แต่เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้ไปค้นพบบางสิ่งที่น่าสนใจ”
หวังเผิงรับบัตรที่บรรจุข้อมูลสำคัญมาและเหลือบมองมาที่เขาอย่างสงสัยใครรู้
“อะไรล่ะ?”
“จำเหตุเครื่องบินชนปีก่อนได้ไหม?”
หวังเผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจว่า “คุณหมายถึง… เที่ยวบินเอ็น-177 เหรอ?”
“ใช่”
“แน่นอน ผมจำได้ มันเกี่ยวอะไรกัน?”
มันเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาในยุคนี้
หวังเผิงยังจำได้ว่าตอนที่ผู้อำนวยการหลี่มาเยี่ยมเขา พวกเขาเห็นข่าวเกี่ยวกับการจี้เที่ยวบินเอ็น-177 บนหน้าจอโทรทัศน์โฮโลแกรม
ในตอนนั้นเองที่เขาได้ยินข่าวว่าลู่โจวยังมีชีวิตอยู่
ชายในชุดเสื้อโค้ทกันฝนสีน้ำตาลพยักหน้า จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ไวท์บอร์ดที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายและถูกแขวนไว้บนกำแพง พร้อมกับทำสีหน้าวิตกกังวล
“บางทีผมอาจจะแค่คิดมากเกินไป แต่ตอนที่ผมกำลังตรวจสอบบันทึกการเข้าและออกดาวอังคาร ผมก็เจอชื่อมากมายที่ไม่ควรจะปรากฏอยู่ในนั้น และพวกสินค้าต่างๆ ที่ผ่านศุลกากรเข้ามาโดยไม่ได้ตรวจสอบ และตอนที่ผมแกะรอยเบาะแสเหล่านี้ไป พวกมันก็เชื่อมโยงกับเอ็น-177”
“คุณหมายความว่า… การจี้เที่ยวบินเอ็น-177 เป็นฝีมือขององค์กรจริงๆ น่ะเหรอ?”
“ถ้าเพียงแต่มันจะง่ายขนาดนั้น” ชายในชุดเสื้อโค้ทกันฝนสีน้ำตาลส่ายหัวและพูดด้วยท่าทีที่เข้าใจยาก “ผมเจอชื่อหนึ่งที่เซ็นอยู่ในเอกสารซึ่งมันไม่ควรจะอยู่ในนั้น”
หวังเผิงถามว่า “ใครกัน?”
“นายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน” ชายคนนั้นมองมาที่เขาต่อขณะที่พูดว่า “ผมตรวจสอบประวัติเขาแล้ว ช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว เขาเป็นหัวหน้าสำนักงานศุลกากรอาณานิคม”
สีหน้าเคร่งขรึมปรากฏขึ้นในดวงตาของหวังเผิง
“รับทราบ ผมจะจำเรื่องนี้ไว้”
“ครับ ขอบคุณ” ชายคนนี้ทำสีหน้าหมดหวัง เขายักไหล่และพูดต่อว่า “ยังไงก็แล้วแต่ ผมไม่มีคุณสมบัติที่จะสืบสวนบุคคลสำคัญขนาดนั้น อีกอย่าง ผมก็มีคำแนะนำที่ยังไม่สมบูรณ์”
หวังเผิงมองมาที่เขาอย่างจริงจังและพูดว่า “ว่ามา”
“เป็นการดีที่สุดที่จะหาตัวนักวิชาการลู่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ชายคนนี้ครุ่นคิดต่อก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ “ถ้าเที่ยวบินเอ็น-177 เกี่ยวข้องกับนายกเทศมนตรีเสี่ยวจริง… สถานะของเขาก็ค่อนข้างจะประหลาด”