Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 163 รอบคอบ
ทีมศาสตราจารย์หรูเสินเจียนพรีเซนต์ตามกำหนดการ
ทีมผู้ตรวจสอบของ SHCb นั่งอยู่แถวหน้า พวกเขารอเริ่มการพรีเซนต์อย่างอดทน
ทีมวิจัยทีมอื่นก็กำลังนั่งอยู่ในห้องประชุมเช่นกัน
เคอเรลล่ามีโน้ตบุ๊คอยู่บนโต๊ะ เธอถือวิทยานิพนธ์แน่นพลางสอดสายตาจ้องมองไปที่โพเดียม
เมื่อเธอเห็นคนเดินขึ้นไปบนโพเดียม เธอก็ยิ้มมุมปาก
ดี
เธอเชื่อว่าเขาคงกลัวมาก
แต่ดูเหมือนเขาจะมีความกล้าอยู่บ้าง
การพรีเซนต์พาวเวอร์พอยนต์ก็เริ่มต้นขึ้น
ลู่โจวไม่ได้สังเกตเห็นเคอเรลล่า กลับกันเขาจับไมโครโฟนแล้วเริ่มพูด
เขาพูดไปสามสิบนาที
สิบห้านาทีสุดท้ายเป็นช่วงถามคำถาม
ลู่โจวมองผู้ชมแล้วถาม “สถานการณ์ปกติเป็นเช่นนี้ ข้อมูลของ B1 ได้รับการยืนยันว่าปกติและแผนภูมิดาลิทส์อยู่บนพาวเวอร์พอยนต์ ทุกท่านมีคำถามอะไรไหม?”
ห้องประชุมเงียบ
ไม่มีใครยกมือสักคน
อันที่จริงมีบางคนที่อยากจะถาม แต่พวกเขาไม่รู้จะถามอะไร
ลู่โจวคิดว่าทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยซีราคิวส์คงสร้างปัญหาให้เขา แต่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าทำไม
เพราะยังไงเสียการประมวลข้อมูลแบบนี้ไม่ได้จำเป็นต้องใช้วิธีการใหม่ๆ ดังนั้นทุกคนจึงรู้ข้อสรุปอยู่แล้ว มันไม่มีปัญหากับข้อมูล B1 และการมีอยู่ของเพนตาควาร์ก…
ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาข้อผิดพลาดจากการพรีเซนต์
พวกเขาได้แต่หาข้อผิดพลาดจากข้อมูลการคำนวณ
ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาเมื่อวานทั้งวันเพื่อตรวจทานงานกับเหยียนซินเจวี๋ย พวกเขาไม่พบปัญหาอะไรเลย
ลู่โจวมั่นใจว่ามันไม่มีข้อผิดพลาด
…
หลังจากรอไปห้านาทีก็ไม่มีใครยกมือสักคน
ผู้ตรวจสอบจาก LHCb เดินขึ้นไปบนโพเดียมแล้วสรุปการพรีเซนต์สั้นๆ เขาขอบคุณนักวิจัยแล้วประกาศการยอมรับ
วิทยานิพนธ์นี้จะถูกรวมอยู่ในห้องเก็บเอกสารวิจัยของ LHCb
หลังพรีเซนต์เสร็จ ผู้คนก็เริ่มออกจากห้องประชุม
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ในนั้น
“เป็นไปไม่ได้…”
เคอเรลล่าจ้องมองวิทยานิพนธ์ เธอไม่อยากจะเชื่อเลย
ตั้งแต่ช่วงถามคำถามมาถึงจบ
LHCb ก็ประกาศการยอมรับแล้ว
แต่เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะไม่พบข้อผิดพลาดแม้แต่จุดเดียว
“มันต้องมีจุดผิดบ้าง แต่เราแค่ยังหาไม่เจอ…” เคอเรลล่าพึมพำขณะจ้องมองข้อมูลบนกระดาษเอสี่ เธอใช้คอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบคำตอบซ้ำ
อย่างไรก็ตามเธอไม่พบข้อผิดพลาดอะไรเลย
ไม่เพียงแค่เธอจะไม่พบข้อผิดพลาดเท่านั้น เธอยังอดชื่นชมตรรกะที่ใช้ในวิทยานิพนธ์ของคู่แข่งไม่ได้
นี่เป็นปฏิกิริยาในจิตใต้สำนึกของนักวิจัยที่มีให้วิทยานิพนธ์ที่เขียนมาอย่างสวยงาม
วิทยานิพนธ์นี้พิถีพิถันมาก
เธอยังนั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งมีนักวิจัยจากทีมเธอเดินมาหา
“ช่างมันเถอะเคอเรลล่า ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง แต่ถ้าคุณอยากหาข้อผิดพลาดในส่วนคำนวณจากเขา มันคงเป็นไปไม่ได้”
เขาชื่อเนลสัน เขาเป็นเหมือนเธอ เป็นนักศึกษาปริญญาเอกภายใต้ศาสตราจารย์บรูนอส ทิศทางวิจัยของเขาคือฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ และเขาก็คำนวณร่วมกับเคอเรลล่า
แม้เคอเรลล่าจะรู้ว่าเธอแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เธอก็ยังไม่พอใจกับความพยายามไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
เธอดูวิทยานิพนธ์แล้วถาม “ทำไม?”
เนลสันถอนหายใจ “คุณไม่เห็นเหรอว่าเด็กฝึกงานคนนั้นเป็นใคร?”
เคอเรลล่าถามอย่างเฉยเมย “ชาวเอเชีย แล้ว?”
เนลสันส่ายหน้า “ไม่ ฉันรู้ว่าเขาเป็นชาวเอเชีย เขาชื่อลู่โจว ฟังดูคุ้นหูไหม?”
เคอเรลล่าขมวดคิ้ว “คุ้นหูงั้นเหรอ?”
“ก็ได้ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่สนใจสาขาคณิตศาสตร์นัก” เนลสันกล่าว เขายักไหล่แล้วกล่าวต่อ “ต้นปี เขาพิสูจน์ข้อคาดการณ์จำนวนเฉพาะคู่แฝด มีหลายคนบอกว่าเขาอาจได้รับรางวัลโคลสาขาทฤษฎีจำนวนในปีนี้ แถมเขายังอาจได้รับเหรียญฟิลด์ของปี 2018 อีกด้วย…คู่แข่งของคุณคือผู้มีโอกาสได้เหรียญฟิลด์ส คุณคิดว่าเรามีโอกาสเหรอ?”
ถ้านี่เป็นโปรเจกต์วิจัยอย่างอื่น อย่างการวิเคราะห์สเปกตรัม เนลสันคงไม่เห็นเด็กฝึกงานคนนี้อยู่ในสายตานัก
อย่างไรก็ตามสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบนี้นั้น…
พวกเขาไม่มีโอกาสชนะเลย
ท้ายที่สุดแล้วเขารู้ว่าลู่โจวเป็นสัตว์ประหลาดจากพรินซ์ตัน
เนลสันเห็นว่าเคอเรลล่าเงียบ เขาจึงพยายามปลอบเธอ
“อันที่จริงมันไม่สำคัญหรอกว่าแพ้หรือชนะ คุณก็รู้ว่าบนโลกนี้มีอัจฉริยะอยู่มากมาย เราไปดื่มกันไหม?”
“…ฉันรับเรื่องนี้ไม่ได้”
“คุณบ้าไปแล้ว”
เนลสันส่ายหน้าแล้วเดินจากไป
…
ณ เฮลล์ไฟร์บาร์…
เพลงเฮฟวี่เมทัลแทบระเบิดแก้วหูลู่โจว แสงไฟสีสันสดใสสาดส่องเข้ามาในวิสัยทัศน์
ถ้าลู่โจวรู้ว่าเสียงมันดังขนาดนี้ เขาคงไม่มาแน่ เขาอยากผ่อนคลาย แต่นี่มันทำให้เขาเหนื่อยขึ้นมากกว่า
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขามาแล้ว จะให้ไปเลยมันก็ใช่เรื่อง
เพราะยังไงเสียเขาก็บอกแล้วว่าเขาจะเลี้ยงเครื่องดื่มหลัวเหวินเซวียนเป็นการขอบคุณ
“ขอกิ๊บสันสองแก้ว”
หลัวเหวินเซวียนสั่งเหล้ากับบาร์เทนเดอร์อย่างชำนาญก่อนจะกลับมาคุยกับลู่โจว
เขาอยู่ที่นี่นานกว่าลู่โจว ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับทุกอย่างที่นี่
“…CERN เป็นเหมือนมหาวิทยาลัย มันมีทุกอย่างที่มหาวิทยาลัยพึงมี”
ลู่โจวชำเลืองมองบาร์เทนเดอร์ชงเหล้าแล้วถาม “อย่างเช่น?”
หลัวเหวินเซวียนยิ้ม “ยกตัวอย่างชมรมต่างๆ และวงดนตรีสองวง ครั้งก่อนฉันพลาดการแสดงพวกเขา แต่ครั้งนี้ฉันไม่พลาด”
“ทำไม?”
“เพราะพวกเขาแสดงตอนวันสุดท้ายของการทดลอง”
บาร์เทนเดอร์วางกิ๊บสันสองแก้วบนโต๊ะ
ลู่โจวมองดูของเหลวสีใสก่อนจะยกแก้วขึ้นมาด้วยสีหน้างงๆ
มันคืออะไร?
เขาจิบไปนิดหน่อย
จากนั้น…
เขาไอ
“แค่กๆ!”
ลู่โจววางแก้วบนโต๊ะและไอไม่หยุด
บัดซบ!
เหล้าอะไรเนี่ย?
…………………………………