Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1638 ไพ่ไม้ตายเป็นโมฆะ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1638 ไพ่ไม้ตายเป็นโมฆะ
ที่สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี
ตามปกติแล้วมักจะมีคนมากมายรวมกลุ่มกันอยู่ด้านนอกอาคาร แต่ในตอนนี้ลืมเรื่องนอกอาคารไปได้เลย ด้านในอาคารยังมีคนอยู่ไม่มากเลยด้วยซ้ำ
ขณะเดินเข้าไปในออฟฟิศอย่างรวดเร็ว แกล็ดสโตนเปิดระบบปฏิบัติการโฮโลแกรมบนโต๊ะทำงาน เขาผ่านขั้นตอนการตรวจสอบม่านตาและลายนิ้วมือถึงสองชั้น และกดปุ่มอีกสองสามปุ่มอย่างฉับไว
ไม่นานลำแสงโฮโลแกรมก็ถูกฉายมาที่กลางออฟฟิศ และชายสูงวัยคนหนึ่งที่ดูผ่านร้อนผ่านหนาวมามากแต่มีดวงตาคมกริบก็โผล่ขึ้นมาจากแสงโฮโลแกรม
ก่อนที่ชายสูงวัยคนนั้นจะได้พูด แกล็ดสโตนก็พูดขึ้นด้วยความหวั่นวิตก
“เป็นฝีมือพวกกองพลอากาศวงโคจรที่สาม! ความโกลาหลข้างนอกนั่นตกอยู่ในภาวะยุ่งเหยิง และกองกำลังในเมืองเทียนกงก็ถูกโค่นแล้ว! พื้นที่อยู่อาศัยมากกว่า 50% ตกอยู่ในการควบคุมของพวกเขา… เร็วๆ เข้าเถอะ คิดหาทางออก!”
ระหว่างรอให้ชายตรงหน้าเขาพูดจบอย่างเงียบๆ ลอว์เรนซ์ยิ้มนิดๆ และพูดอย่างนุ่มนวลว่า “ทำไมคุณรีบนักล่ะ? พวกเขาไม่ได้พุ่งมาหาคุณสักหน่อย”
“ก็ใช่ไง พวกเขาไม่ได้พุ่งมาหาพวกเรา แต่มันต่างกันตรงไหนล่ะ? ถ้าศาลากลางล่มและเมืองเทียนกงถูกยึด เรื่องของกองทัพกลุ่มพันธมิตรจะถูกเปิดเผย และพวกเขาจะต้องพุ่งมาหาพวกเราแน่ไม่ช้าก็เร็ว!”
ขณะมองไปที่แกล็ดสโตนที่กำลังหายใจแรง ลอว์เรนซ์ก็ครุ่นคิดอยู่สักพักและพูดอย่างมีเลศนัย “ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับกองทัพกลุ่มพันธมิตรจะแนบแน่นกว่าที่ผมคิด มันเป็นการแลกเปลี่ยนทางการเงินหรือเปล่า? หรือคุณเองก็เข้าไปเกี่ยวพันด้วย?”
“ก็แค่การลงทุนอย่างหนึ่ง ไม่เช่นนั้นทำไมคุณถึงคิดว่าแผนการของเราจะผ่านได้อย่างราบรื่นล่ะ?!” เมื่อมองไปยังดวงตาที่ไร้ความรู้สึก เหงื่อเย็นๆ ก็ผุดขึ้นมาบนหน้าผากของแกล็ดสโตนขณะที่เขาอธิบายอย่างประหม่า “อีกอย่างถ้าพวกเขาสามารถทำสำเร็จได้เอง เราก็จะมีสถานะทางกฎหมายบนดาวอังคารและอำนาจที่จะเทียบกับมัน—”
“โอเค ผมไม่สนเรื่องพวกนี้” ในตอนที่แทรกการอธิบายของแกล็ดสโตน ลอว์เรนซ์จ้องออกไปนอกหน้าต่าง มองดูแสงแวววาวที่อยู่ห่างไกลอย่างเงียบๆ “ดูเหมือนถ้าผมไม่ลงมืออีกครั้ง กองกำลังของเมืองเทียนกงก็คงจะไม่สามารถป้องกันการมาถึงของกำลังเสริมได้”
แกล็ดสโตนพูดว่า “พวกโง่นั่น… ถืออุปกรณ์ที่ล้ำสมัยที่สุดอยู่ในมือ แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยตอนอยู่ในช่วงวิกฤติ! ตอนนี้ทุกอย่างมันจบเห่แล้ว!”
“อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป พวกเขายังอยู่ไกลจากศาลากลาง ถึงพวกเขาจะมาถึงหน้าประตู แต่เราก็ยังไม่สิ้นหวังหรอก” ลอว์เรนซ์พูดพร้อมกับยิ้มบางๆ หลังจากจ้องมองมาที่แกล็ดสโตน “ยังไงก็แล้วแต่ เรายังมีไพ่ไม้ตายเก็บไว้อยู่”
วินาทีที่เขาได้ยินคำพูดพวกนั้น จู่ๆ ดวงตาของแกล็ดสโตนก็เกิดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเขาก็รีบถามขึ้นว่า “ไพ่ไม้ตายอะไร?”
“ไวรัสอัลฟ่า” ลอว์เรนซ์พูดเสียงเบาตอนที่เขาเห็นควันปืนที่เห็นได้ชัดด้านนอกหน้าต่าง “แม้ว่าโดยทั่วไปอุปกรณ์ที่ติดเชื้อบนโลกจะถูกทำความสะอาดไปแล้ว แต่ผมยังไม่ได้กดปุ่มบนดาวอังคาร”
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน ไวรัสอัลฟ่าเกือบจะกวาดล้างระบบระหว่างโลกกับดวงจันทร์ทั้งหมดไป และคำสั่งบนโลกก็มีแนวโน้มจะพังครืน
ถ้าลู่โจวไม่ได้ปล้นยานอวกาศที่ขน ‘รหัสวิวัฒนาการ’ ไป และสร้างไวรัสร้ายกาจใน ‘ออราเคิล’ ของเขาขึ้นมา เขาก็อาจจะเกือบทำสำเร็จ
แต่โชคดีที่เขายังแผนสำรอง
ซึ่งก็คือดาวอังคารอันห่างไกล!
เมื่อไวรัสอัลฟ่าแพร่กระจายบนโลก การแพร่กระจายบนดาวอังคารก็เริ่มดำเนินการด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแทบจะมุ่งความสนใจไปที่การเสาะหาพวกคนที่ตื่นขึ้นมาบนโลกทั้งหมด ‘ผู้ศรัทธา’ ที่ภักดีของเขาก็แอบซุ่มอยู่ในทุกมุมของเมืองอาณานิคมใหญ่ๆ อยู่แล้ว อย่างเช่น เมืองเทียนกง นิวเวอร์จิเนีย เป็นต้น
พวกเขาแสดงบทบาทแทบจะเหมือนกับหุ่นยนต์ปกติในเวลาปกติและจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาในตอนที่เขาต้องการพวกเขาเท่านั้น
เดิมแล้วลอว์เรนซ์ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ไพ่ไม้ตายนี้ อย่างไรก็ตาม โลกใหม่นั้นต้องการแรงงานในการก่อสร้าง และพวกที่ตื่นขึ้นมาพวกนั้นซึ่งภักดีต่อเขา
แต่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ได้มาถึงจุดที่เขาต้องตัดสินใจแล้ว
แต่ว่า…
ก่อนที่ ‘เรือโนอาห์’ จะเสร็จสมบูรณ์ ศาลากลางเมืองเทียนกงจะโค่นลงมาไม่ได้!
“ให้ผมช่วยคุณออกไปเถอะ”
ระหว่างที่กระซิบ ลอว์เรนซ์ซึ่งยืนอยู่ในการฉายแสงก็แสดงรหัสข้อมูลสีเขียวกลุ่มหนึ่งขึ้นมาแวบหนึ่งในลูกตาของเขา แต่ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ลูกตาของเขาก็หดลงเล็กน้อย และเขาก็ทำสีหน้าแบบไม่อยากเชื่อ
“เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจากปฏิกิริยาบนใบหน้าของลอว์เรนซ์ แกล็ดสโตนก็วิตกกังวลในทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีใครบางคนซ่อมโปรแกรมที่ผมสร้าง”
“ซ่อมเหรอ? คุณหมายความว่า…”
ลอว์เรนซ์เหลือบมองเขาอย่างเฉยเมยโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ร่างของเขาพร้อมกับแสงโฮโลแกรมก็หายไปอย่างเงียบๆ
เมื่อเห็นว่าชายสูงวัยหายไปต่อหน้าเขา แกล็ดสโตนก็อึ้งไปในทันที เขารีบไปที่โต๊ะทำงานอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนออกไปที่ช่องสื่อสารที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ว่า “เดี๋ยวก่อน เฮ้! คุณหมายความว่าอะไร! คุณแค่จะทิ้งพวกเราไว้ลำพังงั้นเหรอ?”
แสงสีเขียวของช่องสื่อสารยังส่องแสงวูบวาบอยู่ แต่ไม่มีการตอบรับ
ขณะที่เขานั่งพิงกับเก้าอี้ทำงาน เหงื่อเย็นๆ ก็ไหลลงมาจากหน้าผากแกล็ดสโตน
อืม…
เขาเห็นสถานการณ์ตกฮวบลงมาแล้วเขาก็ทิ้งไปเพื่อช่วยตัวเขาเอง
“ไอ้เวร!”
หมัดของแกล็ดสโตนที่ค้างอยู่ที่โต๊ะกำแน่นขณะที่ดวงตาของเขาที่จับจ้องมาฉายแววความบ้าคลั่งโหดร้าย
เราจะแค่นั่งรอความตายไม่ได้…
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกและนั่งพิงเก้าอี้ทำงาน หลังจากนั้นเขาก็ใช้นิ้วชี้ปัดผ่านหน้าจอโฮโลแกรมและกดหมายเลขพิเศษ
ไม่นานก็มีการเชื่อมต่อสาย
เสียงแหบห้าวเสียงหนึ่งดังมาจากหน้าจอโฮโลแกรมที่นิ่งอยู่
“คุณต้องการให้ผมทำอะไร?”
“จับตาดูแนวหน้า” ขณะที่พิงหลังไปกับเบาะของเก้าอี้ทำงาน แกล็ดสโตนก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ถ้ากองพลอากาศวงโคจรที่สามข้ามแนวป้องกันสุดท้ายเข้ามาก็ลงมือที่ฝั่งคุณได้เลย”
มีความเงียบเกิดขึ้นช่วงหนึ่งที่ปลายสายอีกด้านก่อนที่คนคนนั้นจะตอบว่า “พวกเราคงจะไม่ใช่คู่ปรับที่คู่ควรกับคนพวกนั้น”
“ผมไม่ได้ขอให้คุณสู้กับกองพลอากาศวงโคจรที่สาม เป้าหมายของคุณคือนายกเทศมนตรีเสี่ยวกับคนของเขา” ดวงตาของแกล็ดสโตนฉายเจตนาในการฆ่าขณะที่เขาพูดต่อไปอีกว่า “ฆ่าพวกนั้นซะ
“อย่าปล่อยให้พวกมันตกไปอยู่ในมือของสหการพาน-เอเชียน!”
…
ในขณะเดียวกันที่มุมหนึ่งของเมืองเทียนกง หญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ในโรงแรมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจอย่างช้าๆ หลังจากถอดปลั๊กสายดาต้าเคเบิลที่เชื่อมกับสมองของเธอออก เธอก็โยนมันเข้าไปในกระเป๋าเดินทาง
“มันน่าจะโอเคแล้ว”
ถ้าลู่โจวอยู่ที่นี่ เขาจะต้องประหลาดใจแน่ๆ
เพราะนี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก “เทล” ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยไว้
หลังจากเกิดหายนะ พาน-เอเชียได้ร่วมประกาศกฎหมายว่าด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์และจำแนกระหว่างชีวจักรกลอัตโนมัติและชีวจักรกลแบบที่ไม่ใช่อัตโนมัติในทางกฎหมาย ตั้งแต่นั้นมาเทลก็ใช้ชีวิตอยู่แบบลับๆ กับลิลลี
เหตุผลที่เธอมาปรากฏตัวอยู่บนดาวอังคารในเวลานี้…
เหตุผลหลักก็คือ เสี่ยวไอไม่อาจหยุดกังวลเรื่องลู่โจวได้ ดังนั้นเธอจึงไว้วางใจมอบหมายให้เทลคอยติดตามไปด้วย
โชคดีที่เธอผ่านมาพอดี
ทันทีที่เธอมาถึงเมืองนี้ เธอก็สังเกตเห็นความผิดปกติของที่นี่ คนที่ตื่นขึ้นมาหลายคนซึ่งถูกรหัสอันตรายฝังเข้าไปกำลังซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน
เธอสามารถสัมผัสได้จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของพวกเขาว่าอารมณ์ของพวกเขาถูกบิดเบือนไปอย่างจงใจ
เมื่อนึกถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นบนโลก เธอก็รายงานสถานการณ์ให้เสี่ยวไอฟังทันทีและเธอก็ก๊อปปี้รหัสอารมณ์ของเธอเข้าไปในหุ่นยนต์ที่ ‘ถูกเปลี่ยน’ เหล่านี้ด้วย
และในตอนนี้ ในที่สุดเธอก็ทำโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่และกินเวลาไปมากนี้เสร็จสิ้น
“ดูเหมือนจะมีการต่อสู้ด้านนอก…” เทลลุกขึ้นและเดินไปที่ริมระเบียง ขณะที่เธอมองไปยังกลุ่มควันหนาที่ลอยขึ้นมาจากถนนที่ห่างไกล เธอก็อดแสดงความกังวลขึ้นมาบนสีหน้าของเธอไม่ได้
ลู่โจวไม่ได้อยู่แถวนี้มาสองสามวันแล้ว
เธอแทบจะไม่รู้สึกถึงระลอกคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เป็นของหลิง
อย่างไรก็ตามหลิงก็เป็นหุ่นยนต์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นถ้าเขาอยู่กับลู่โจว ก็คงจะไม่มีอะไรผิดพลาด
ในทางตรงกันข้าม เธอกลับเป็นห่วงลิลลีมากกว่า
เธอไม่ได้เจอลิลลีมาหลายวันแล้ว และเธอก็สงสัยว่าลิลลีจะได้กินอะไรดีๆ และนอนหลับตรงเวลาหรือเปล่า…