Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1643 เกิดอะไรขึ้นตอนที่ผมหายไป?
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1643 เกิดอะไรขึ้นตอนที่ผมหายไป?
ความจริงมักจะเปิดเผยตัวมันเองเสมอ
โดยเฉพาะท่ามกลางการโกหกคำโต
สี่วันหลังจากสงครามจบลง ตอนที่ยานฉินหลิ่งที่คุ้มกันตัวอาชญากรสงครามออกจากท่าอวกาศยานในวงโคจรรอบดาวอังคารไป ข่าวที่ว่าสหการพาน-เอเชียนจะรวมมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีไว้ในการสอบสวนก็แพร่กระจายออกไปเหมือนไฟป่า
ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้า ทางเข้าอาคารของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีก็เต็มไปด้วยฝูงชนแล้ว
สิ่งที่ต่างไปจากในอดีตก็คือความตื่นเต้นและความกระตือรือร้นบนใบหน้าของผู้คนที่รายล้อมอาคารแห่งนี้ไว้นั้นกลับกลายเป็นความโกรธแค้นแทน
พวกเขากำลังถือป้ายไว้ในมือแล้วตะโกนสโลแกน และพวกเขาก็มีคำอยู่คำเดียวในหัว
ซึ่งก็คือ…
คืนเงิน!
“แกล็ดสโตนน่าจะรู้สึกว่าตัวเองโชคดี” ระหว่างที่ยืนอยู่ภายในออฟฟิศหนึ่งในตึก หวังเผิงผู้ซึ่งรับผิดชอบในการควบคุมการสืบสวน ก็พูดขึ้นขณะที่มองดูฝูงชนด้านนอกหน้าต่าง
“อ๋อเหรอ?” ขณะยืนอยู่ข้างหวังเผิง ซิงเปียนก็เลิกคิ้ว แสดงสีหน้าสนอกสนใจ
เขาเพิ่งได้มาที่นี่เมื่อวานนี้เอง
ในฐานะผู้อำนวยการของสำนักงานปฏิบัติการพิเศษที่รับผิดชอบการสืบสวนองค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาลที่สำนักงานความมั่นคง เขามีอำนาจสูงสุดในการสืบสวนเรื่องนี้
เมื่อพิจารณาถึงปัญหาเรื่องระยะทางในการสื่อสาร เพื่อที่จะเข้าใจสถานการณ์ในที่เกิดเหตุให้มากขึ้น เขาจึงรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่เมื่อเขามาถึงที่นี่ งานสืบสวนก็มาถึงขั้นสุดท้ายแล้วจริงๆ…
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หวังเผิงก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แสดงอารมณ์ออกมาแบบสุดๆ
“ถ้าเราไม่ควบคุมที่แห่งนี้และปล่อยให้เขาเผชิญกับเจ้าหนี้ที่กำลังตะโกนร้องเพื่อขอเงินคืน ผมเกรงว่าร่างของเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ”
หมื่นล้านเครดิต
หากแลกเปลี่ยนเป็นเงินหยวนจีนเมื่อศตวรรษที่แล้ว น่าจะเท่ากับอย่างน้อยล้านล้านหยวนที่ใช้ซื้อขายอำนาจ
กลุ่มแผนการร้ายนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในครอบครัวชนชั้นกลาง มูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีซึ่งให้การสนับสนุนศาลากลางได้ทำข้อตกลงกับธนาคารและสถาบันการลงทุนหลายแห่ง รวมถึงเอไอไอบีด้วย
ไม่มีใครคิดว่าหลังจากที่องค์กรเหล่านั้นเข้ามาลงทุน แกล็ดสโตนจะซื้อหุ้นกู้พิเศษที่ไม่มีหลักประกันซึ่งออกโดยศาลากลาง ซึ่งโดยพื้นฐานเป็นการจัดหาเงินทุนให้กับการทหารของพวกเขา
ในตอนนี้สหการพาน-เอเชียนได้รับชัยชนะแล้ว และเสี่ยวหงก็ตกอยู่ภายใต้กฎหมายเรียบร้อยแล้ว เห็นได้ชัดว่าหนี้สงครามนี้ไม่สามารถจะชดใช้ได้
สิ่งเดียวที่พวกเขาหวังในตอนนี้ก็คือพวกเขาจะได้เงินเล็กๆ น้อยๆ คืนมาก่อนที่กองทุนสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีจะประกาศล้มละลาย
“องค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาล… ถูกทำลายแล้วใช่ไหม?” ในใจหวังเผิงรู้สึกไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรนักตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา
“ใช่ ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผยแล้ว และคำถามที่ค้างคาอยู่ก็กำลังจะถูกคลี่คลายออกมาอย่างต่อเนื่อง” ซิงเปียนยิ้มนิดๆ และพูดต่อไปว่า “ตัวตนที่แท้จริงของแกล็ดสโตนคือเกรย์โคลก และหมวกของเขาเป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ของเขา… ตอนที่เราค้นหาบ้านบรรพบุรุษของเขาบนโลก เราพบบางอย่างที่คุณอาจจะสนใจ”
เขาหมุนข้อมือแล้วค่อยๆ ผลักหน้าจอโฮโลแกรมมาที่ตรงหน้าหวังเผิง
ขณะที่จ้องมองหน้าจอโฮโลแกรมที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา หวังเผิงก็อึ้งไปเล็กน้อย เขาอ่านข้อความบนนั้น
“เรือสำราญออโรรา โบเรียลลิส เป้าหมายคือนักวิชาการลู่… ดังนั้น…”
“เกรย์โคลกคนสุดท้าย ซึ่งเป็นปู่ของแกล็ดสโตนเป็นผู้บงการการโจมตีเรือสำราญ” ซิงเปียนพยักหน้าและพูดต่อไป “จากเบาะแสที่เราได้รวบรวมมา เขาเสียชีวิตไปเมื่อ 50 ปีก่อน”
“ด้วยเหตุทางธรรมชาติเหรอ?”
“ใช่”
สีหน้าของหวังเผิงอ่านยากเล็กน้อย
หลังจากที่เงียบอยู่นาน เขาก็พูดว่า
“ผมไม่อยากเชื่อว่าในที่สุดเขาก็หลีกหนีกฎหมาย”
“ผมไม่คิดอย่างนั้น”
หวังเผิงเงยหน้าขึ้นมองซิงเปียนและส่งสายตาเป็นคำถามไปที่เขา
ซิงเปียนยิ้ม เขามองไปยังเมืองที่กำลังฟื้นคืนนอกหน้าต่างและพูดต่อไปว่า “ระยะเวลาการลงโทษของเขาเป็นขั้นรุนแรงสูงสุด ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความหวาดกลัว ในแง่นี้การถูกจับจึงเป็นการบรรเทา และจากข้อมูลที่เราได้ทำการสืบสวน ราวยุค 2030 เพื่อเลี่ยงการติดตามของหน่วยข่าวกรองต่างๆ เขาไม่เพียงแต่ทำให้หน้าของตัวเองเสียโฉม แต่เขายังขายบริษัทของเขาและย้ายจากในเมืองไปอยู่ที่ชนบทอันห่างไกล ตอนที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงยุค 2050 กลุ่มพันธมิตรภูมิภาคก็เริ่มปรากฏตัวขึ้น ฝ่ายความมั่นคงค่อยๆ ผ่อนคลายการติดตามองค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาลลงไป และในที่สุดเขาก็เลิกเก็บตัวเงียบ อย่างไรก็ตาม เขามีชีวิตอยู่เพียงสองสามปีก่อนที่จะเสียชีวิต”
หวังเผิงพูดว่า “เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นนิดหนึ่ง… ยังไงก็แล้วแต่ ประเด็นหลักก็คือว่าในที่สุดเกรย์โคลกก็ถูกจับแล้ว”
ซิงเปียนยื่นหมัดไปชนที่ไหล่ของหวังเผิง
“ใช่ ทั้งหมดนี่ก็ต้องขอบคุณคุณ ทั้งหมดนี่เป็นผลงานของคุณ”
“จริงๆ มันไม่สำคัญหรอกว่ามันเป็นงานของใคร… ว่าแต่ลู่โจวอยู่ไหน? มีข่าวอะไรบ้างไหม?”
ซิงเปียนส่ายหัว
“เรายังไม่เจอตัวเขา ทีมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของเราแทบจะพลิกเมืองเทียนกงหา แต่ยังไม่เจอเบาะแสใดๆ… บางทีเขาอาจจะไปอนาคตเพียงลำพัง”
“มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง…”
หวังเผิงอยากจะพูดต่อแต่จู่ๆ เขาก็ชะงักไป
เพราะในตอนนั้นเอง จู่ๆ เขาก็นึกออกว่าเรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ถ้าลู่โจวเจอแคปซูลหลับชั่วคราวที่ไหนสักแห่งจริงๆ แล้วยัดตัวเองเข้าไปและหลับไปเป็นเวลาร้อยปีก็อาจจะไม่มีเรื่องอะไรในตอนนี้ที่ต้องกังวล
“ยังไงก็แล้วแต่ ภารกิจที่คุณนำมาจากอดีตก็นับว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วตอนนี้”
เมื่อเห็นว่าหวังเผิงยังเงียบอยู่ ซิงเปียนก็ยิ้มอย่างโล่งใจแล้วเปลี่ยนหัวข้อ
“ตัวตนของเกรย์โคลกถูกเปิดเผยแล้ว จากคำสารภาพของแกล็ดสโตน พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของกันและกัน เจ้าหน้าที่สายลับจำเป็นจะต้องได้หมายเลขบัญชีที่มีการติดต่อกันหรือหมวกเพื่อที่สามารถจะหาตัวพวกเขาได้ ตอนนี้เราจับปลาตัวใหญ่ที่สุดได้แล้ว เหลือแต่รอเวลาเท่านั้นก่อนที่สมาชิกที่เหลือจะถูกจับและถูกนำตัวมาดำเนินคดี”
“สำหรับพวกที่เหลือ ปล่อยให้เวลาพิพากษาพวกเขา”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทันใดนั้นซิงเปียนก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาจึงพูดต่อไปว่า “เออนี่ สภาพเละเทะของมูลนิธิดาวอัลฟาเซนทอรียังไม่ได้เก็บกวาด ผมวางแผนจะส่งคุณไปที่เมืองเทียนกงเพื่อไปช่วยพวกเขาสักช่วงหนึ่ง และก็ช่วยดูแลเศษซากขององค์กรจิตวิญญาณแห่งจักรวาลด้วย”
หวังเผิงมองมาที่ซิงเปียนแล้วพยักหน้า
“ขอบคุณ”
“อ้อ ไม่ต้องกังวล” ซิงเปียนพูดต่อไปว่า “ถึงผมจะไม่ได้ทำให้คุณได้อยู่ที่นี่ แต่ผมก็มั่นใจว่าคุณไม่อยากจะออกไปหรอก”
หวังเผิงไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าของเขาชัดเจน
มันเป็นเช่นนั้น
ยังไม่มีใครรู้ที่อยู่ของลู่โจว และไม่มีใครรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เมื่อศตวรรษก่อนเขาก็เคยทำผิดพลาดแบบเดียวกันมาแล้ว
ครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้ลู่โจวหายไปอีก
หวังเผิงหันหลังไปแล้วออกจากออฟฟิศของแกล็ดสโตน เขายืนอยู่ในลิฟต์ กดปุ่มไปที่ชั้นโรงรถ จากนั้นก็ก้าวออกไปที่ลานจอดรถ
ในตอนที่เขากำลังจะโทรไปสั่งงานกับลูกน้องของเขา เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
ตอนที่หวังเผิงกำลังจะเปิดสมุดที่อยู่เพื่อยืนยันว่าใครโทรมา แสงโฮโลแกรมก็ฉายขึ้นมาตรงหน้าเขาแล้ว
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในหน้าต่างวิดีโอ เขาถึงกับอึ้งไปเลย
หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจในทันที
ลู่โจวมองมาที่เพื่อนเก่าของเขาด้วยสีหน้าที่สับสนแล้วพูดว่า
“เฮ้ เกิดอะไรขึ้น?
“เกิดอะไรขึ้นตอนที่ผมหายไป?”