Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1645 การจัดการตลาด
ในวันต่อมา ภายในห้องประชุมที่โรงแรมสตาร์สกาย
ด้วยความช่วยเหลือของหวังเผิง ลู่โจวได้พบกับผู้บริหารอาวุโสที่เอไอไอบีส่งมาที่เมืองเทียนกงเพื่อจัดการเรื่องล้มละลายและการชำระบัญชีของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังก็คือคนที่มานั้นจริงๆ แล้วเป็นคนรู้จักของเขา จงจื้ออวี่ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้นั่นเอง
เมื่อปีที่แล้วเขาถูกส่งจากคณะกรรมการบริหารของอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้มายังสำนักงานใหญ่ของธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย ครั้งสุดท้ายที่ลู่โจวเจอเขา เขาก็ได้รับตำแหน่งประธานสาขาแล้ว
ลู่โจวไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเป็นคนรับผิดชอบการชำระบัญชีล้มละลายของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีจริงๆ
นี่เป็นการเลื่อนตำแหน่งหรือลดตำแหน่ง?
“สวัสดีครับ นักวิชาการลู่” ชายที่ดูภูมิฐานและท่าทางสบายๆ ยิ้มออกมาขณะที่เขามองลู่โจวที่ยืนอยู่ในห้องประชุม เขายื่นมือขวาออกไปและพูดว่า “เราเจอกันอีกแล้วนะครับ”
“ใช่ครับ บังเอิญจริงๆ…” หลังจากจับมือทักทายกับเขา ลู่โจวก็ถามด้วยความอยากรู้ว่า “คุณถูกส่งมาที่นี่ได้ยังไงครับ?”
จงจื้ออวี่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “มันไม่มีทางอื่นนี่ครับ เรื่องนี้สำคัญมาก และมันก็เกี่ยวพันกับหนี้เสียหลายหมื่นล้าน ผู้จัดการระดับล่างอาจจะไม่สามารถรับมือกับความกดดันได้ ขณะที่ผู้จัดการระดับสูงอาจจะทำงานได้ไม่ดี ดังนั้นคนระดับกลางอย่างผมก็เลยถูกส่งมา”
ลู่โจวถามว่า “งั้นคุณก็ถูกบังคับมา?”
“ก็ไม่เชิงบังคับหรอกครับ แต่ถ้าผมจัดการมันได้ไม่ดี มันก็คงยากที่จะได้รับการเลื่อนขั้นในอนาคต” จงจื้ออวี่ยิ้มแล้วพูดต่อ “แต่ถ้าคิดในอีกมุมหนึ่ง ถ้าผมสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ดี มันก็อาจจะเป็นโอกาสของผม ยกตัวอย่างเช่น สำนักงานใหญ่เลื่อนตำแหน่งผมจากผู้จัดการสาขาขึ้นมาเป็นผู้จัดการสาขาเทียนกงโดยตรง ซึ่งก็เท่ากับว่าข้ามไป 2 ขั้น”
ลู่โจวพูดว่า “ผมคิดเสมอว่าคนทำงานในอุตสาหกรรมการเงินน่าจะต้องพิจารณาความเสี่ยงอย่างระมัดระวังมาก”
“ความเสี่ยงและโอกาสดำรงอยู่ร่วมกัน” จงจื้ออวี่ยิ้มและพูดต่อว่า “จะว่าไปแล้ว ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับกองทุนสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีมา คุณอยากจะคุยเรื่องบางอย่างกับผมใช่ไหม?”
“จริงๆ มีเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะหารือคุณ” ลู่โจวผายมือเชิญให้เขานั่งลง แล้วยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า “นั่งก่อนครับแล้วค่อยคุยกัน”
จงจื้ออวี่เลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็น เขานั่งลงที่โต๊ะประชุมโดยที่มือทั้งสองและนิ้วมือวางไขว้กันอยู่บนเข่า เขารออยู่อย่างเงียบๆ ให้ลู่โจวพูดออกมา
ด้วยความสัตย์จริง เขาไม่มีไอเดียที่ชัดเจนและเป็นไปได้ที่จะแก้ปัญหาความยุ่งเหยิงของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี อย่างไรก็ตาม มันมีสิ่งต่างๆ มากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมันมากกว่าเงินแค่หมื่นล้านเครดิตพอยท์ที่อยู่บนฉากหน้า
ความเห็นปัจจุบันของรักษาการนายกเทศมนตรีซึ่งได้รับแต่งตั้งจากสหการพาน-เอเชียนให้ควบคุมศาลากลางเมืองเทียนกง นั่นก็คือเมืองเทียนกงจำเป็นต้องสร้างขึ้นใหม่ ดังนั้นเงินทุนจำนวน 5 พันล้านที่ถูกส่งมายังบัญชีศาลากลางแล้วจึงไม่สามารถส่งคืนได้ อย่างมากที่สุดพวกเขาก็สามารถคืนมันในรูปแบบของหุ้นกู้
อย่างไรก็ตามการจัดอันดับเครดิตของเมืองเทียนกงปะทะกับความล้มเหลวของสงครามกลางเมืองและหุ้นกู้ที่ออกมานั้นก็ไม่ต่างอะไรจากกระดาษที่ไร้ประโยชน์ เมื่อรักษาการนายกเทศมนตรีลาออก นายกเทศมนตรีคนถัดมาก็อาจจะไม่ได้รับรู้เรื่องหุ้นกู้
เว้นแต่จะมีการรับประกันของสหการพาน-เอเชียน…
แต่สหการพาน-เอเชียนไม่ได้โง่ ทำไมพวกเขาจะต้องให้การรับประกันนั่นโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย!
ดังนั้นแล้วเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับจงจื้ออวี่ที่จะเห็นด้วยกับข้อเสนอเช่นนั้น
นอกจากหนี้เสีย 5 พันล้านเครดิตแล้ว ยังมีเงินที่ถูกนำไปลงทุนในโปรเจกต์ ‘เรือโนอาห์’ ในตอนนี้แกล็ดสโตนถูกจับแล้ว การดำเนินการปกติของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีต้องหยุดชะงัก และโปรเจกต์ทั้งหมดก็ต้องปิดโดยสมบูรณ์ ตามสัญญาแล้วพวกเขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรื้อถอนสำหรับอู่ซ่อมยานด้วยซ้ำ
เว้นแต่จะมีใครที่เต็มใจจะเข้ามาคุมโปรเจกต์…
แต่นี่มันดูไม่สมจริงยิ่งกว่าการที่เจ้าหน้าที่สหการพาน-เอเชียนก้าวขึ้นมาช่วยเรื่องการเงินของเมืองเทียนกงด้วยซ้ำ ดังนั้นแล้วจงจื้ออวี่จึงไม่มีความหวังในเรื่องนี้เลย
แต่…
คำแรกที่ลู่โจวพูดหลังจากนั่งลงก็ทำให้เขาถึงกับอึ้ง
ชายผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดของมนุษยชาติ จิบชาและค่อยๆ โยนข้อเสนอออกมา
“ผมต้องการซื้อมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรี”
หลังจากนั่งอึ้งอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน จงจื้ออวี่ก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ทันทีและพูดอย่างสุขุมว่า
“คุณหมายถึง… คุณกำลังวางแผนที่จะมาคุมโปรเจกต์ของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีเหรอครับ?”
ถ้าคนอื่นมาพูดแบบนี้กับเขา เขาก็คงจะคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่เพราะว่าลู่โจวเป็นคนพูด เขาจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามลู่โจวนั้นร่ำรวย รวยยิ่งกว่าพวกประเทศเล็กๆ บางประเทศ
ขณะที่มองดูอีกคนที่พูดไม่ออกไปแล้ว ลู่โจวก็กระแอมแล้วพูดว่า
“ใช่ครับ นั่นแหละคือสิ่งที่ผมพูด…”
“โอ้ ขอโทษด้วยครับ…” จงจื้ออวี่ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วรีบพูดต่อว่า “แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลย เราได้ทำการประเมินทรัพย์สินของพวกเขาไว้คร่าวๆ แล้ว คุณเพียงแค่ต้องใช้เครดิตประมาณห้าร้อยล้านเพื่อซื้อทั้งบริษัท แต่…”
ลู่โจวพูดขึ้น “แต่อะไรเหรอครับ?”
“แต่ผมไม่แนะนำให้คุณทำแบบนี้จริงๆ” จงจื้ออวี่ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดต่อ “อย่างไรก็ตามเราโกหกคุณไม่ได้… นอกจากยานอาณานิคมขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้สร้าง ยังมีหนี้ที่คลุมเครือที่ทิ้งไว้อีกเยอะด้วย คุณจำหุ้นกู้หมื่นล้านที่พวกเขาเคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ได้ไหม? เงินทุนส่วนใหญ่ถูกใช้หมดไปแล้ว และที่เหลือก็ไม่พอที่จะจ่ายหนี้ให้พวกเขา”
“ผมเข้าใจแล้ว…” ลู่โจวแสดงสีหน้าเสียดาย “น่าเสียดาย ผมกำลังวางแผนจะซื้อยานอวกาศและสร้างมันต่อ”
จงจื้ออวี่อึ้งไปชั่วครู่ ทันใดนั้นเขาก็กลับมาสู่ความจริงแล้วยืนขึ้นโดยใช้มือยันกับโต๊ะประชุม
“เดี๋ยวก่อน คุณหมายความว่า… คุณวางแผนที่จะทำโปรเจกต์เรือโนอาห์เหรอ?”
“ใช่” ลู่โจวพูดต่อพร้อมกับมองมาที่เขาแปลกๆ “ไม่อย่างนั้นผมจะซื้อบริษัททำไมล่ะ?”
เขาเคยเห็นแผนการออกแบบยานอวกาศของมูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีมาก่อน และเขาก็เห็นความฉลาดหลักแหลมได้เลยเพียงแค่ดูภาพวาดแนวคิดนี้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นผลงานชิ้นเอกของนักวิชาการหยางฉงผิง วิศวกรชั้นแนวหน้าในแวดวงวิชาการและอุตสาหกรรมของดาวอังคาร ทัศนคติของแกล็ดสโตนต่อโปรเจกต์นี้นั้นจริงจัง ดังนั้นคงจะน่าเสียดายที่จะทิ้งโปรเจกต์นี้ไปแล้วรอให้มันขึ้นสนิม
“ผมคิดว่าคุณแค่ต้องการจะซื้อบางอย่างที่มันได้ไม่คุ้มทุน” จงจื้ออวี่ยิ้มด้วยความอาย ขณะที่มองสีหน้าที่งุนงงของลู่โจว เขาก็รีบพูดต่อว่า “ถ้าคุณมองโปรเจกต์เรือโนอาห์ในแง่ดีและวางแผนจะทำมันให้สำเร็จจริงๆ… ผมสามารถหาทางให้คุณประหยัดเงินไปได้เยอะ”
“โอ้ จริงเหรอ?” ลู่โจวเลิกคิ้วแล้วพูดขึ้นอย่างสนใจ “ว่ามาเลย”
แม้เขาจะไม่ได้สนใจเรื่องทำเงินเป็นพิเศษ แต่เขาก็ยังสนใจเรื่องการประหยัดเงิน
เมื่อเห็นว่าลู่โจวมีท่าทีแปลกใจ จงจื้ออวี่ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วเอียงตัวมาใกล้เขามากขึ้นเพื่อกระซิบ
หลังจากได้ฟังคำพูดของชายคนนี้แล้ว ลู่โจวก็เงียบไปสักพัก จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ
“ผมเดาว่าพวกนายธนาคารนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจัดการตลาดจริงๆ”
“ทำไมคุณพูดอย่างนั้น?” จงจื้ออวี่พิงหลังกับเก้าอี้และพูดอย่างอารมณ์ดี “นี่เป็นแค่การใช้กฎหมายที่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่งเพื่อที่จะจัดสรรทรัพยากรทางสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ”