Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1649 ประธานของเทาเซติ?
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1649 ประธานของเทาเซติ?
ขณะที่หลี่กวงหยากำลังรู้สึกปวดหัวกับทางเลือกของลู่โจว ลู่โจว จงจื้ออวี่ และคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่บนยานที่จะไปยังอู่ต่อยานของอีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์ พวกเขากำลังพูดคุยหัวเราะกันอยู่
ระหว่างจ้องไปที่อู่ต่อยานที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้านนอกช่องหน้าต่างและสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารที่เกาะอยู่บนที่จอดยาน ลู่โจวก็หรี่ตาลง
หลังจากนั้นสักพักเขาก็พูดเสียงเบาด้วยความตื่นเต้น “ก่อนหน้านี้ผมยังลังเลว่า มันจะเป็นความคิดที่แย่หรือเปล่าที่จะใช้เงินหลายร้อยล้านเครดิตพอยท์ซื้อยานอวกาศลำนี้?”
จงจื้ออวี่ซึ่งนั่งอยู่ข้างเขา ยิ้มแล้วพูดอย่างสบายๆ ว่า “แล้วตอนนี้ล่ะ?”
ลู่โจวเหลือบไปมองเขา
“คุณยังจำเป็นต้องถามจริงเหรอ?”
“ฮ่าฮ่า” จงจื้ออวี่พูดพร้อมกับยิ้ม “อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกดีใจมากที่คุณคิดว่าเงินส่วนนี้ใช้ได้คุ้ม!”
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้อู่ต่อยานมากขึ้นเท่าไร วิวสูงตระหง่านด้านนอกหน้าต่างทำให้พวกเขาต้องหยุดพูดคุย พวกเขาพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ยานอวกาศที่กำลังอยู่ระหว่างการสร้าง
ถ้าพูดอย่างไม่ลำเอียง เมื่อเทียบกับยานอวกาศทั่วไปแล้ว ยานลำนี้ดูเหมือนดาวเคราะห์มากกว่า
มันเป็นโครงสร้างทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความยาวมากกว่า 10 กิโลเมตร ตัวยานด้านนอกสีเงินสว่างส่องแสงแวววาวเย็นตาที่ชัดเจนออกมาภายใต้แสงอาทิตย์ เหมือนกับดาบที่แทงทะลุค่ำคืนอันหนาวเย็น ลอยอยู่ในอากาศด้วยเตาหลอมของเทพเจ้าแห่งไฟ
“เพราะขนาดที่ใหญ่ เรือโนอาห์จึงต้องสร้างทีละส่วน แล้วนำมาประกอบกันและเชื่อมกัน” จงจื้ออวี่พูดต่ออย่างฉะฉานขณะที่จ้องไปที่เรือโนอาห์ด้านนอกช่องหน้าต่าง “เพื่อที่จะสร้างยานอวกาศลำนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ อีสต์เอเชียเฮฟวีอินดัสตรีส์จึงออกแบบอุปกรณ์การสร้างยานเป็นพิเศษที่เรียกว่า ‘แท่นก่อสร้างการเชื่อมต่อหลายแกนที่ปรับเปลี่ยนได้’ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบยานที่ใหญ่เกินไปสำหรับหุ่นยนต์เชื่อมโลหะ”
ลู่โจวถามว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
จงจื้ออวี่ยิ้มและพูดว่า “ผมอ่านข้อมูลการประกันของพวกเขา… เอาล่ะ เรามาถึงแล้ว”
ขณะที่คานเชื่อมต่อเทียบท่า ยานก็เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นของอู่ต่อยานนี้ได้สำเร็จเรียบร้อย เมื่อลู่โจวผ่านประตูห้องกันชนเข้ามา จู่ๆ วิศวกรที่มาต้อนรับทุกคนก็เบิกตากว้าง เขาเป็นฝ่ายเริ่มยื่นมือขวามาแล้วทักทายลู่โจวด้วยความปีติยินดี
“คุณคือนักวิชาการลู่ใช่ไหมครับ? น่ายินดีเสียจริง! ผมชื่อเฟิงจื้อ เป็นคนดูแลที่นี่ครับ! คุณจะเรียกผมว่าเสี่ยวเฟิงหรือวิศวกรเฟิงก็ได้ครับ!”
“เฟิงจื้อแล้วกัน” ลู่โจวพูดพร้อมกับยิ้ม “วันนี้ผมมาที่นี่เพื่อมาตรวจดู ไม่ต้องกังวลนะครับ แค่โฟกัสงานของคุณก็พอ”
“ฮ่าฮ่า คุณวางใจได้เลย นักวิชาการลู่ เราจะไม่ทำงานของเราล่าช้าแน่นอน งานทั้งหมดกำลังดำเนินไปตามขั้นตอน!” วิศวกรสูงวัยซึ่งอายุประมาณ 50 ปี ก็ยิ้มออกมาอย่างเบิกบานแล้วพูดต่อไปว่า “และคุณไม่รู้หรอกว่าฝ่ายออกแบบชื่นชมคุณขนาดไหน! ดีไซน์ของเครื่องวาร์ปไดรฟ์นั่นน่าอัศจรรย์จริงๆ คุณคิดดีไซน์แบบนั้นออกมาได้ยังไง?”
แม้ว่าลู่โจวจะได้ยินว่าวิศวกรสูงวัยกำลังชมเขาจากก้นบึ้งของหัวใจมากกว่าที่จะเลียแข้งเลียขาเขา แต่การถูกชมแบบนี้กะทันหันมันทำให้เขารู้สึกเขินนิดหน่อย
“แค่ใช้ทฤษฎีฟิสิกส์… สำหรับดีไซน์พิเศษเฉพาะ ครึ่งหนึ่งก็คิดมันออกอย่างช้าๆ ส่วนครึ่งที่เหลือก็ได้มาจากความช่วยเหลือมากมาย” ลู่โจวยิ้มขณะที่เขาเปลี่ยนหัวข้อ “เราขอไปชมเรือโนอาห์ได้ไหมครับ?”
“ไม่มีปัญหา! เชิญตามผมมาเลยครับ!”
เฟิงจื้อเดินไปข้างหน้าแล้วนำกลุ่มนี้ไปยังส่วนด้านในของเรือโนอาห์
เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ของยานอาณานิคมที่เป็นแบบเรียบง่ายและซ้ำซากแล้ว พื้นที่ภายในของยานอวกาศลำนี้แตกต่างออกไปอย่างคาดไม่ถึง
แม้ว่าลู่โจวจะได้เห็นความใหญ่โตของยานอาณานิคมนี้จากพิมพ์เขียวมาแล้วก่อนมาถึงที่นี่ แต่เมื่อเขาได้ก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนนี้จริงๆ เขาก็ยังรู้สึกประหลาดใจกับทุกอย่างที่อยู่ภายใน
“ผมคิดว่าดีไซน์ด้านในคงจะกะทัดรัดมาก” ลู่โจวมองไปรอบๆ แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจนิดๆ “ผมไม่คาดคิดว่าด้านในจะกว้างขวางมากๆ”
“คุณยังไม่ได้เห็นส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจ” เฟิงจื้อยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความภาคภูมิใจ “ผมพนันได้เลยว่าคุณจะต้องตะลึง!”
หลังจากผ่านประตูโลหะผสม ทันใดนั้นกลิ่นดอกไม้และต้นไม้ก็ปะทะเข้ากับจมูกของพวกเขา วูบหนึ่ง ลู่โจวคิดว่าเขาได้กลับมาบนโลก เขามองไปที่ดินใต้ฝ่าเท้าของเขาและพืชพรรณที่อยู่รอบๆ แล้วเขาก็เอื้อมมือออกไปสัมผัสมัน
หลังจากที่ยืนยันว่ามันไม่ใช่ทัศนียภาพที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีโฮโลแกรม ลู่โจวก็พึมพำกับตัวเองว่า
“นี่มัน…”
เขาตกตะลึงจริงๆ
เฟิงจื้อยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เป็นโซนระบบนิเวศ ผู้ผลิตออกซิเจนธรรมชาติบนยานอาณานิคม มันครอบคลุมพื้นที่ 500 ตารางเมตร แยกออกเป็นชั้นบน ชั้นกลาง และชั้นล่าง ติดต่อกับพื้นที่ชุ่มน้ำ มหาสมุทร และสภาพแวดล้อมที่เป็นป่า มีตัวอย่างของสัตว์ พืช และแมลงหลายร้อยชนิดที่เก็บไว้ในโซนระบบนิเวศ นี่ไม่ใช่แค่ตัวอย่างที่เก็บไว้สำหรับนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้ดำเนินการสำรวจทางชีววิทยาให้สำเร็จเท่านั้นแต่ยังเป็นสวนสำหรับไว้ให้ชาวอาณานิคมได้ผ่อนคลายด้วย”
ลู่โจวพยักหน้าแต่ไม่ได้ตอบอะไร
เขาเคยเห็นดีไซน์ที่คล้ายกันนี้ในริงเวิร์ลของคาลาน สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีสามารถกระตุ้นอารมณ์ให้กับผู้อยู่อาศัยได้
ไม่ว่านักออกแบบจะยืมแนวคิดมาจาก ‘เกมออนไลน์’ ที่ชื่อคาลานเอ็มไพร์ ซึ่งควบคุมโดยเสี่ยวไอหรือไม่ ลู่โจวก็ยอมรับว่าเขารู้สึกทึ่งจริงๆ เมื่อเขาเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามขนาดนี้บนสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น
จงจื้ออวี่มองไปรอบๆ เขายื่นมือออกไปสัมผัสใบไม้ด้านข้าง เขายิ้มแล้วพูดติดตลกว่า “ผมไม่คาดคิดว่าชีวิตบนยานจะหรูหราได้มากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะงานของผม ผมคงจะซื้อตั๋วแล้ว”
ลู่โจวยิ้มแล้วพูดเล่นกลับไป “แล้วเรื่องไปเทาเซติในฐานะประธานสาขาล่ะ? หรือประธานสาขาดาวอัลฟาเซนทอรีล่ะ?”
“ฮ่าฮ่า นั่นก็ดี… การได้เป็นประธานที่นั่น แต่ไม่ล่ะ ขอบคุณครับ”
โซนระบบนิเวศเป็นแค่มุมหนึ่งของเรือโนอาห์ทั้งหมด การออกแบบอันน่าทึ่งมากมายทั้งหมดถูกนำเสนอต่อลู่โจวทีละส่วน
ในที่สุดทั้งหมดก็มาถึงลานโถงใหญ่ของยานอาณานิคมทั้งลำ
นี่น่าจะเป็นจุดดึงดูดความสนใจหลักของยานอาณานิคมทั้งหมด
พื้นที่ภายในอันกว้างขวางมีการจัดสรรการใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ลิฟต์และสายพานลำเลียง ผู้คนที่นี่จึงสามารถเดินทางไปยังมุมใดก็ได้ของยานอาณานิคมลำนี้อย่างรวดเร็วภายในสิบนาที
ไม่ว่าจะเป็นสะพานด้านหน้า หรือห้องพลังงานที่ส่วนท้าย หรือห้องโดยสารที่มุมที่อยู่ห่างไกล…
“มันสมบูรณ์แบบอย่างที่ผมคิดไว้เลย” ลู่โจวพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นมากหลังจากที่ได้ชมรอบๆ “มันไม่ได้เหมือนยานอวกาศสักเท่าไร แต่มันเหมือนกับที่พักอาศัยประจำวงโคจรที่มีทั้งฟังก์ชันการผลิตและการอยู่อาศัย”
“อย่างไรก็ตามในแนวคิดการออกแบบเดิม เราคิดว่าชาวอาณานิคมไม่สามารถจะลงจอดบนพื้นผิวของดาวได้ในทันที” เมื่อมองไปที่หอคอยสูงตรงกลางลานโถงใหญ่ เฟิงจื้อก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ด้วยความสัตย์จริง อย่างมากที่สุดเราคงจะทำให้มันเสร็จสมบูรณ์ได้ในอีกปีหนึ่ง น่าเสียดายที่ต้องรื้อและหลอมมัน…”
“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้” ลู่โจวยิ้มนิดๆ ตอนที่เขาได้ยินคำพูดพวกนั้น เขาพูดต่อไปว่า “คงไม่ต้องรื้อหรอก”
เฟิงจื้ออึ้งไป เขาพูดด้วยท่าทีที่งุนงง “ไม่ต้องรื้อเหรอครับ? แต่ผมได้ยินว่ามูลนิธิสำรวจอาณานิคมดาวอัลฟาเซนทอรีถูกบริษัทฟู่ซิงมายนิ่งซื้อไป ซึ่งตั้งใจที่จะรื้อมันออกเป็นเหล็ก…”
จงจื้ออวี่ยิ้มแล้วพูดว่า “แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทฟู่ซิงมายนิ่ง?”
เฟิงจื้อมองมาที่กลุ่มคนตรงหน้า เขาพูดด้วยความงุนงง “ใครครับ?”
“ยังไม่มีการประกาศหรอกครับ แต่คงจะได้รู้ในอีกไม่กี่วัน” จงจื้ออวี่ดึงตัวลู่โจวมาข้างๆ แล้วถามขึ้นพร้อมกับยิ้ม “คุณคิดว่าไงล่ะ? พื้นที่ด้านในนี่น่าพึงพอใจเท่ากับด้านนอกไหม?”
“ผมพอใจมาก มันสมบูรณ์แบบเลย” ลู่โจวพูดต่อหลังจากคิดอยู่สักพัก “แต่เมื่อพิจารณาว่าคงจะมีการติดตั้งเครื่องวาร์ปไดรฟ์ในอนาคต บางพื้นที่จึงยังจำเป็นต้องปรับปรุง”
จงจื้ออวี่ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณสามารถหารือกับนักวิชาการหยางฉงผิงได้ครับ เขาเป็นคนออกแบบยานลำนี้”
ลู่โจวถามว่า “เขาอยู่ที่ไหน?”
จงจื้ออวี่มองนาฬิกาข้อมือแล้วพูดว่า “อีกสักครู่เขาจะมาถึงที่นี่”