Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1661 พันธมิตรมนุษย์
“เขาตอบกลับมาว่าอย่างไร?”
ณ กรุงปักกิ่ง
สำนักงานใหญ่สหการพาน-เอเชียน
พวกเขาเดินอยู่ในห้องโถงและกำลังมุ่งหน้าไปห้องประชุม เมื่อเจอคำถามของเลขาธิการอู๋ชูฮวา หลี่กวงหยาคิดอยู่สักพักก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“เขาไม่ได้ตอบอะไร”
เมื่อได้ยินคำตอบที่คาดไม่ถึง อู๋ชูฮวามองเขาโดยไม่คาดคิด
“เขาไม่ได้ตอบคุณเหรอ?”
“ใช่” หลี่กวงหยายักไหล่และยิ้มอย่างเสียไม่ได้ “เขาบอกว่าผมน่าจะคิดจัดการเส้นทางสู่อนาคตด้วยตัวเอง… เขาอาจจะสนใจในสิ่งนอกเหนือจากวิชาการ”
อู๋ชูฮวานิ่งไปสักพัก จากนั้นเขาพูดต่อ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราก็มาถึงจุดที่เราอยู่ในตอนนี้”
“ใช่” หลี่กวงหยาพยักหน้าอย่างสะเทือนอารมณ์ เขาเงยหน้าขึ้นและมองดูประตูกว้างใหญ่ที่อยู่ตรงปลายทางเดิน เขาพูดว่า “อนาคตจะตัดสินว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี”
…
วันที่ 6 มิถุนายน มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่สหการพาน-เอเชียน
เอาตามตรงมันไม่ใช่แค่สหการพาน-เอเชียน แต่เป็นชะตากรรมของโลกทั้งใบ
จากคำเชิญที่ปักกิ่ง หลายร้อยประเทศทั่วโลกได้วางความรับผิดชอบของพันธมิตรภูมิภาคไว้และส่งตัวแทนไปกลุ่มเมืองปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยเพื่อเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ และหารือประเด็นเกี่ยวกับอนาคตของมนุษยชาติ
หลังการประชุมเสร็จสิ้น ผู้จัดงานได้ปล่อยโครงการนำร่องความร่วมมือในการก่อตั้งชุมชนที่นานาชาติและใหม่ขึ้นมาโดยร่วมแบ่งปันอนาคตสำหรับมนุษยชาติ
พันธมิตรใหม่มีชื่อว่าสหพันธ์สัมพันธมิตรมนุษย์ซึ่งเหมือนกับองค์กรก่อนหน้าที่จบลงเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน
แต่ความแตกต่างคือคนในยุคใหม่ปฏิเสธกรอบการทำงานใหม่ภายใต้องค์กรเดิม
ภายใต้การรับรองโดยกลุ่มอำนาจและกองเรือชุดแรกที่จัดตั้งโดยช่องทางไฮเปอร์สเปซ พันธมิตรนี้จะน่าเชื่อถือมากกว่าทุกพันธมิตรที่เคยมีมาบนโลก
กลุ่มพันธมิตรทะเลเหนือ
ณ วิทยาเขตมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
ลีโอนาร์ดนั่งอยู่ในห้องสมุด และเตรียมการครั้งสุดท้ายสำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต
เพื่อนเก่าของเขาศาสตราจารย์เฟอเรนนั่งอยู่ตรงข้าม เขาเป็นเพื่อนร่วมงานคนเดียวที่นี่ที่ลีโอนาร์ดพูดคุยด้วย
เขาต้องจ่ายสำหรับการแหวกกระแสความเห็นสาธารณะ และไม่มีใครในภาควิชาโบราณคดีเคารพเขา ยกเว้นแต่ชายที่นั่งตรงหน้า
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะอายุห่างกัน 30 ปี พวกเขาก็คุยภาษาเดียวกัน
“พันธมิตรมนุษย์?… หืม ถ้าคุณใช้ชีวิตอยู่นาน อะไรก็เกิดขึ้นได้” นิ้วของเฟอเรนแตะหน้าจอโฮโลแกรมตรงหน้าเขาเบาๆ เขายิ้มและพูดว่า “ผมยังจำได้ว่าพ่อคุณพนันกับผมว่าการล่มสลายของพันธมิตรมนุษย์เป็นเพราะมันมีมาก่อนเวลา และมันจะถูกรื้อฟื้นสักวันหนึ่งในอนาคต… ตอนนี้เขาน่าจะชนะแล้ว”
ลีโอนาร์ดไม่ได้พูดอะไรตอบ จู่ๆ เฟอเรนนึกอะไรบางอย่างได้และพูดต่อด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ขอโทษครับที่พูดถึงเรื่องที่เจ็บปวด”
“มันไม่ใช่เรื่องที่เจ็บปวด พ่อของผมสอนมาเสมอว่าคนเราต้องมองไปข้างหน้า” ลีโอนาร์ดพูดต่อระหว่างที่ดันแว่นโฮโลแกรมตรงสันจมูก “พ่อของผมเป็นนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ และผมจะพิสูจน์เรื่องนี้ในไม่ช้า”
“ผมคิดแบบนั้นเช่นกัน มันเป็นแค่ความโง่เขลาของคนทั่วไปที่บดบังความสามารถของเขา”
เฟอเรนถอนหายใจเสียงเบาและมีร่องรอยของอารมณ์ปรากฏขึ้นบนดวงตาซึมน้ำตา ราวกับว่าเขารำลึกถึงอดีตอยู่
หลังจากนิ่งไปนานเขาก็เอื้อมมือไปแตะถ้วยชาและเขาพูดต่อ “ผมยังจำได้ เมื่อสามสิบปีก่อนตอนที่เราพูดคุยกันเรื่องอนาคตของอารยธรรมมนุษย์… ถึงแม้ว่าการพูดคุยเรื่องนี้โดยนักโบราณคดีสองคนจะฟังดูตลกไปหน่อย ผมรู้สึกว่าความรู้ของเขาไม่เหมือนนักโบราณคดีทั่วไป เขาฉลาดหลักแหลมมากกว่าผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลายคน”
ปากกาในมือลีโอนาร์ดนิ่ง จากนั้นเขาหันจากแถบโฮโลแกรมไปมองที่เฟอเรน
เมื่อเห็นว่าลีโอนาร์ดสนใจในประเด็นนี้ เฟอเรนยิ้มเบาๆ และพูดต่อ “ในความเห็นของเขา คนจีนพวกนั้นได้วางแผนสิ่งนี้มานานแล้ว”
“วางแผนมานานแล้ว?”
“ใช่” เฟอเรนพยักหน้าและพูดพร้อมรอยยิ้ม “แผนที่จะสร้างชุมชนที่แบ่งปันอนาคตสำหรับมนุษยชาติรอบโลก… ในความเป็นจริง พวกนั้นได้เริ่มจัดการไปแล้วเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน”
“แต่ถึงแม้ว่าจะเตรียมตัวมาเพียงพอ มันก็ยังเป็นโปรเจกต์ที่ยากมาก มันมีระยะเวลายาวหลายชั่วอายุคนและต้องใช้คนหลายยุคในการทำงานหนักและอุทิศตนเพื่อมัน สิ่งนี้ต้องการให้พวกเขาต้องทุ่มเทต่อกลุ่มที่มีร่วมกันอย่างสุดกำลัง มันเป็นเรื่องยากที่เราจะทำแบบนั้น”
“นี่เป็นความเห็นเฉพาะตัว” ลีโอนาร์ดคิดถึงเรื่องนี้อยู่สักพัก แล้วหันไปมองเขาและพูดว่า “ในความเห็นของคุณ พวกเขาทำอย่างไรเหรอ?”
“มันดูเหมือนว่าคุณยังไม่เข้าใจความชาญฉลาดของสิ่งนี้ สิ่งที่พวกเขาทำไม่ใช่เรื่องเจาะจง แต่เป็นสัญญาที่ได้รับการเติมเต็มโดยกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมจิตไร้สำนึก”
ลีโอนาร์ดถาม “สัญญาอะไรเหรอ?”
“สันติภาพ”
เมื่อเห็นว่าลีโอนาร์ดมีสีหน้าเซอร์ไพรส์ เฟอเรนยิ้มให้และพูดต่อด้วยน้ำเสียงชื่นชม “คิดคำนวณมาอย่างดีตลอดศตวรรษ ในช่วงศตวรรษนี้พวกเขาไม่ได้เริ่มสงครามต่างชาติแม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ในช่วงที่ยากเข็ญที่สุดในช่วงปี 2050 นับตั้งแต่ศตวรรษที่สิบแปดไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน”
สงครามเป็นตัวเลือกที่ยาก แต่มันก็เป็นทางออกที่ง่าย
ไม่มีวิธีไหนสามารถขนย้ายความขัดแย้งภายใน วิกฤตการณ์ และความผิดพลาดไปยังประเทศอื่นได้เร็วกว่าสงคราม
“คุณไม่ได้สังเกตเหรอ? การประชุมครั้งนี้ไม่ได้รับเสียงต่อต้านเยอะมาก”
นิ้วชี้ของเฟอเรนแตะหน้าจอโฮโลแกรม เขามองดูข่าวตรงหน้าเขาและพูดต่อ “มันดูเหมือนว่าสหการพาน-เอเชียนใช้กองพันและสตาร์เกทเพื่อแบล็กเมลพันธมิตรภูมิภาคอื่นๆ แต่ในความเป็นจริง ระหว่างการประชุม เรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น”
“สิ่งนี้ค่อนข้างมหัศจรรย์ มันราวกับว่า… โลกพร้อมต้อนรับเจ้าของคนใหม่ พันธมิตรที่เคยเป็นของเรากำลังหันหลังให้เร็วกว่าที่เราคิด”
เมื่อเห็นว่าลีโอนาร์ดไม่ได้พูดอะไรตอบ เฟอเรนถอนหายใจเล็กน้อยและพูดด้วยความฉงนใจ “ถ้าเรามีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาลก็คงจะดี… ชีวิตนั้นแสนเส้นจนพวกเราแทบไม่มีโอกาสได้เห็นวันที่งานวิจัยของเราได้เจิดจรัส ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคนยุคต่อๆ ไปจะประเมินประวัติศาสตร์ตอนนี้อย่างไร”
ลึโอนาร์ดพูดแซวว่า “บางทีคุณอาจจะมีลูกแล้วเขาก็ได้ประจักษ์อนาคตเพื่อคุณ” เขามองดูนาฬิกาข้อมือและพูดต่อ “งานสัมมนาของผมใกล้จะเริ่มแล้ว…”
เฟอเรนถาม “เอาจริงๆ นะ การวิจัยแมลงพวกนั้นมีประโยชน์สำหรับพวกเราจริงๆ เหรอ?”
“ประโยชน์คือพวกเราสามารถเรียนรู้จากการถดถอยของพวกมัน” ลีโอนาร์ดพูดเสียงเบาหลังจากปิดแผงโฮโลแกรมที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา เขาพูดเสริม “เราก็จะได้หลีกเลี่ยงจุดจบที่คล้ายกับพวกมัน”
……………………………………………………………