Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1668 ครั้งสุดท้ายสำหรับสิ่งอันตรายแบบนี้
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1668 ครั้งสุดท้ายสำหรับสิ่งอันตรายแบบนี้
“ปฏิสสาร?”
ที่สำนักงานใหญ๋สหการพาน-เอเชียน หลังจากหลี่กวงหยาได้ฟังรายงานจากเลขาเหว่ยที่กำลังร่างรัฐธรรมนูญสำหรับพันธมิตรมนุษย์แล้วอึ้งไป นิ้วที่แตะบนจอโฮโลแกรมหยุดชะงัก
“ครับ…” เหว่ยซงพยักหน้าอย่างขันแข็ง เขากลืนน้ำลายและรีบพูดต่อ “จากข่าวโดยเครื่องทำลายบนวงโคจรดาวอังคาร พวกเขาเห็นลำแสงพุ่งมาจากพื้นดินและยิงไปที่ดาวเทียมในวงโคจร ดาวเทียมดูเหมือนว่าจะสว่างขึ้นและเลเซอร์ก็หายไปกะทันหันในท้ายที่สุด พลังงานไม่ได้หายไปในอากาศ… จากการคำนวณโดยวิศวกรของยาน ถ้าพลังงานถูกเก็บไว้ในดาวเทียม ผมเกรงว่ามีแค่ความหนาแน่นพลังงานของปฏิสสารที่ตรงกับผลการคำนวณได้”
เมื่อได้ฟังจนจบหลี่กวงหยามีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเขาห็ถามต่อทันทีว่า “ดาวเทียมดวงนี้เป็นของแผนกไหน? เดี๋ยวนะ มันเป็นของเราเหรอ?”
“มันเป็นของเรา… แต่ไม่มีแผนกไหนเป็นเจ้าของ มันเป็นของนักวิชาการลู่”
นักวิชาการลู่เหรอ?
หลี่กวงหยาตะลึงกับชื่อที่เลขาพูดออกมา ผ่านไปไม่นานสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเหมือนว่าจะนึกอะไรบางอย่างได้
ถ้ามันเป็นงานของนักวิชาการลู่ ทั้งหมดนี้สมเหตุสมผล…
หลังจากถอนหายใจอย่างโล่งอก หลี่กวงหยามองดูเลขาเหว่ยซึ่งยืนอยู่หลังโต๊ะ และเขาพูดต่อ “แล้วยังไง? มีปัญหาอะไรกับการทดลองของนักวิชาการลู่งั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ปัญหาแบบที่คุณคิด… แต่มันมีปัญหาจำนวนมาก” เหว่ยซงพูดต่อด้วยสีหน้าอาย “กุญแจสำคัญอยู่ในกองพลังงานปฏิสสาร”
หลี่กวงหยาเลิกคิ้วขึ้น และหันไปมองเขาก่อนที่จะถามว่า “อ่อ จริงเหรอ?”
เมื่อเจอคำถามนี้เข้าไป เหว่ยซงพยักหน้าและพูดต่อ “จากการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชายจากกองทหาร พวกเขาคำนวณจากพลังงานที่ใส่เข้าไปและอัตราแปลงพลังงาน ซึ่งถ้าเกิดการระเบิดขึ้น พลังงานที่ถูกปล่อยในทันทีสามารถทำลายฐานอวกาศหรือยานขนยานอวกาศได้ทันที”
หลี่กวงหยาฟังคำตอบนี้แล้วนิ่งไปสักพัก
เวลาผ่านไปนาน เขาถอนหายใจและพูดขึ้นมา
“เดี๋ยวผมจะโทรหานักวิชาการลู่…”
เหว่ยซงพยักหน้าและพูดพร้อมรอยยิ้มแห้ง
“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
ถึงแม้ว่าพวกเขาเชื่อว่านักวิชาการลู่จะไม่ทำเรื่องอันตราย การนำระเบิดเวลาขนาดใหญ่ไปไว้ในอวกาศทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจ
ถ้าดาวเทียมถูกขโมยไปโดยโจรสลัดอวกาศในพื้นที่ใกล้เคียง กองพันหนึ่งทั้งหมดจะประสบต่ออันตรายได้
จากการทดลองนั้นกลุ่มยานจู่โจมทั้งหมดในวงโคจรดาวอังคารได้เข้าสู่สภาวะระวังภัยระดับสูงสุด…
ระหว่างที่กองพลังงานปฏิสสารที่ลอยอยู่ในวงโคจรทำให้หน่วยรักษาความปลอดภัยของแพน-เอเชียและเมืองอาณานิคมอื่นบนดาวอังคารกระวนกระวาย หอคอยพลังงานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเทียนกงเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองและความปลื้มปิติ
“เราทำได้แล้ว!”
เมื่อว่าเฟอเรนจะรู้สึกมหัศจรรย์กับหอคอยพลังงานตรงหน้า เขายังไม่อาจจะอินไปกับวิศวกรที่นี่ได้เต็มที่
เขามองดูผู้คนที่ส่งเสียงดีใจและกอดกัน แล้วเขาพูดกระซิบว่า “ทำไมพวกเขาถึงตื่นเต้นกันจัง…?”
วิศวกรคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเฟอเรนบังเอิญได้ยินประโยคนี้ และเขามองเฟอเรนด้วยสายตาดูหมิ่นทันทีแล้วพูดว่า
“ทำไมพวกเราถึงตื่นเต้นงั้นเหรอ? กล้าถามอะไรโง่ๆ แบบนี้ออกมาได้ยังไง? มันเป็นช่วงเวลาหน้าประวัติศาสตร์ ช่างมันเถอะ ถึงผมบอกคุณไป คุณคงไม่เข้าใจ”
เฟอเรอนหายใจฟึดฟัดและไม่ได้พูดตอบ
ศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดที่ยืนอยู่ข้างเขา เงยหน้ามองดูโดมที่เปิดออก จากนั้นเขาหันไปมองลู่โจวทันที
“กองพลังงานปฏิสสาร… อยู่บนท้องฟ้าเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ” ลู่โจวพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เขาพูดต่อ “เราใช้แสงเลเซอร์เพื่อส่งพลังงานนิวเคลียร์ที่ผลิตโดยเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้รุ่นที่สองไปยังตัวรับพลังงานบนดาวเทียมปฏิสสารในวงโคจร จากการใช้กระบวนการฟิสิกส์ที่ซับซ้อน พลังงานตรงนี้ถูกแปลงเป็นสนามแม่เหล็กในที่สุดซึ่งกักปฏิสสารและสร้างปฏิยานุภาคพลังงานสูง”
ลีโอนาร์ดพูด “สรุปได้ว่ากองพลังงานปฏิสสารไม่ใช่เครื่องผลิตพลังงานแต่ว่าเป็นเครื่องเก็บพลังงานใช่ไหม?”
“คุณแบบนั้นก็ได้ครับ” ลู่โจวพยักหน้าและยิ้มให้เขาก่อนที่จะพูดต่อ “มันเป็นเหมือนแบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่า”
เมื่อพูดถึงแบตเตอรี่ เขารู้สึกคิดถึงอดีตเล็กน้อย เขายังจำได้ว่าการวิจัยสาขาประยุกต์ที่เขาทำเสร็จครั้งแรกคือการแก้ปัญหาเดนไดรต์ลิเธียมแล้วสร้างแบตเตอรี่ลิเธียมที่แท้จริงขึ้นมา
เขาไม่เคยคิดว่าในอีกร้อยปีต่อมา คอขวดด้านความหนาแน่นพลังงานนี้จะถูกแก้ไขโดยเขาอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าศาสตราจารย์ลีโอนาร์ดนิ่งไป ลู่โจวคิดอยู่สักพักและอยู่ดีๆ เขาพูดว่า “จำคำถามที่คุณเคยถามผมก่อนหน้านี้ได้ไหม?”
ลีโอนาร์ดถามว่า “คุณพูดถึงคำถามไหนอยู่ล่ะ?”
“ที่มาของฟอสซิลชิ้นนั้น”
ลีโอนาร์ดรู้สึกอึ้งเล็กน้อยและเขามองลู่โจวอย่างไม่เชื่อสายตา
“คุณจะ… บอกผมเหรอ?”
“ครับ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้นะ” ลู่โจวยิ้มและเงยหน้ามองท้องฟ้า “อย่างนานสุดก็หนึ่งปี หรืออาจจะครึ่งปี เมื่อผมเดินทางไปเทาเซติ ผมจะบอกสถานที่ตั้งที่ชัดเจนของอดีตอารยธรรมดาวอังคาร ความลับจากหลายพันล้านปีก่อนจะถูกเปิดเผยให้คุณได้รู้”
เมื่อได้ฟังสัญญานี้ ลีโอนาร์ดมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา
“จริงเหรอ? ซากอารยธรรมดาวอังคารมีอยู่จริงใช่ไหม? อย่าลืมสัญญาของคุณนะ…”
“ไม่ต้องห่วงหรอก” ลู่โจวพยักหน้าและยิ้มต่อ “ผมไม่ลืมแน่นอน… เดี๋ยวนะ มีสายโทรมาหาผม”
เมื่อแสงเทอร์มินัลส่วนตัวของลู่โจวสว่างขึ้นกะทันหัน เขาเดินไปที่มุมด้านข้าง
ไม่จำเป็นต้องดูว่าใครโทรมา เขารู้ว่าสายนี้น่าจะมาจากหลี่กวงหยา
เมื่อเขากดปุ่มรับสาย สีหน้าคุ้นเคยปรากฎขึ้นที่หน้าจอวิดีโอทันที
ก่อนลู่โจวจะได้พูดทักทาย ประธานหลี่กวงหยาจากปลายสายชิงพูดขึ้นมาก่อน
“คุณสร้างดาวเทียมปฏิสสารดวงนั้นขึ้นมาใช่ไหม?”
“คุณหมายถึงดาวเทียมในวงโคจรเหรอ?” ลู่โจวมองดูหลี่กวงหยาในหน้าจอวิดีโอ เขายิ้มให้และพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ในทางเทคนิคแล้วมันคือกองพลังงานปฏิสสาร”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ หลี่กวงหยาก็สูดลมหายใจเข้าลึก ผ่านไปสักพักเขาก็พูดพร้อมกับรอยยิ้มขุ่นเคือง
“ทำไมผมไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงมันมาก่อนเลย?”
“ผมไม่เคยพูดถึงงั้นเหรอ? ผมจำได้ว่าผมเคยโพสต์บทความบน LSPM มาก่อน…” หลังจากที่เกาหัวตัวเอง ลู่โจวครุ่นคิดอยู่สักพักและพูดว่า “ช่างมันเถอะครับ ไม่ต้องไปสนใจรายละเอียดพวกนี้ ตอนนี้… คุณอยากรู้อะไรล่ะ?”
“จะมีเรื่องไหนอีกนอกจากดาวเทียมดวงนั้น?” หลี่กวงหยาถอนหายใจและพูดต่อ “เอาตามตรงนะ ถ้าดาวเทียมระเบิด มันจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ถ้ามันเต็มไปด้วยพลังงาน มันอาจจะเทียบเท่าได้กับระเบิดไฮโดรเจนทั่วไปมากกว่าหนึ่งโหล… มันเป็นที่กักเก็บปฏิสสาร คุณจะไประเบิดมันทำไมล่ะ?”
เมื่อหลี่กวงหยาได้ยินว่ามันเทียบเท่ากับระเบิดไฮโดนเจนมากกว่าหนึ่งโหล เขาแทบจะอาเจียนออกมาตรงนั้น
“นั่นหมายความว่าคุณเอาระเบิดไฮโดรเจนกว่าสิบสองลูกไปไว้ในวงโคจรรอบดาวอังคาร?”
“คุณไม่เข้าใจที่ผมบอกเหรอ?” ลู่โจวถอนหายใจและพูดอธิบาย “ภายใต้สถานการณ์ปกติ สิ่งนี้จะไม่ระเบิด และเมื่อเทียบมันกับระเบิด มันมีการใช้งานและมูลค่ามากกว่า”
ถึงจะพูดแบบนี้ออกไป ลู๋โจวก็ไม่ได้ปฏิเสธพลังของสิ่งนี้
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพวกเขาเติมพลังงานให้เต็มดาวเทียมและระเบิดมันที่เซเรส ดาวเคราะห์น้อยจะถูกระเบิดไปทั้งส่วน และมันอาจจะทำให้ดาวเคราะห์น้อยเบี่ยงเบนจากวงโคจรดั้งเดิม
“ผมไม่ได้วางแผนจะใช้มันเป็นระเบิด” หลี่กวงหยาไอเบาๆ เขาพูดด้วยความประหม่า “ผมแค่หวังว่าครั้งหน้าที่คุณทำอะไรอันตรายแบบนี้ อย่างน้อยก็บอกผมล่วงหน้าก่อน”
“ไม่ต้องห่วงครับ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะทำเรื่องอันตรายแบบนี้” ลู่โจวพูดพร้อมรอยยิ้ม เขาไม่ได้ให้หลี่กวงหยาคิดคำนึงกับประโยคนี้นานมาก และเริ่มพูดต่อ “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ผมมีอะไรอยากจะถามคุณ”
หลี่กวงหยาพูดว่า “เรื่องไหน…?”
“ถ้าผมจำไม่ผิด การเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างเมืองเทียนกงและโลกน่าจะเจอกับปัญหาทางเทคนิคใช่ไหม?”
หลี่กวงหยาฟังแล้วรู้สึกช็อก ดวงตาเขาเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ
“คุณรู้ได้อย่างไร?”
ลู่โจวได้แต่ยิ้มและไม่อธิบายอะไร
เขาไม่อาจพูดได้ว่าระบบจากอารยธรรมที่เหนือกว่าบอกเขามา
หลังจากภารกิจเลื่อนขั้นของวิทยาศาสตร์พลังงาน ขั้นต่อไปคือวิทยาการสารสนเทศ…
ผ่านไปสักพักลู่โจวก็พูดต่อ “โมเดลการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบดั้งเดิมไม่อาจปรับใช้กับยุคอินเตอร์สเตลลาร์ได้อีกแล้ว… ลืมเรื่องยุคอินเตอร์สเตลลาร์ไปก่อน ตอนที่ผมอยู่บนโลก ผมก็รู้สึกอยู่แล้วว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายตกยุคและไม่อาจรับมือการแลกเปลี่ยนข้อมูลของโลกได้ไหว”
หลี่กวงหยาถามทันทีว่า “มีทางแก้แล้วเหรอ?”
การแก้ปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างดาวอังคารและโลกเป็นหนึ่งในสัญญาที่เขาให้ไว้ในการประชุมสภาครั้งแรกของพันธมิตรมนุษย์
เขาไม่คาดคิดว่าลู่โจวจะเป็นฝ่ายริเริ่มช่วยเขาแก้ไขปัญหานี้ ในเมื่อโอกาสหายากอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาไม่อาจละเลยมันได้แน่นอน
ระหว่างที่ลู่โจวมองประธานหลี่กวงหยาที่กระตือรือร้น เขายิ้มบางๆ และพูดต่อ “ทางแก้คือสร้างเครือข่ายควอนตัมขึ้นมาใหม่โดยมีรากฐานจากกรอบการทำงานของเทคโนโลยีการสื่อสารควอนตัม ภายใต้ระบบใหม่นี้เราจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่า การอธิบายวิธีการเป็นเรื่องซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนทั่งไป… แค่รู้ไอเดียพื้นฐานก็พอ…”
“เรื่องรายละเอียดให้ผมจัดการแล้วกัน”