Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1673 เครือข่ายการสื่อสารควอนตัม
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1673 เครือข่ายการสื่อสารควอนตัม
“เจ้านาย!”
หลังจากจัดการอะไรหลายอย่าง ลู่โจวย้ายเซิร์ฟเวอร์ของเสี่ยวไอมาไว้ในมิลกี้เวย์ในที่สุด
เสี่ยวไอไม่อาจเก็บความโหยหาไว้ในใจได้อีก เธอควบคุมร่างหุ่นยนต์ทันทีและบินไปหาอ้อมกอดของลู่โจว แล้วกอดคอลู่โจวเหมือนสลอธ
“พระเจ้าช่วย เสี่ยวไอคิดถึงเจ้านายมากเลย!”
“นี่ ใจเย็นก่อน ฉันอยู่กับเธอแล้วตอนนี้ แล้วฉันก็ไม่ได้ไปไหนไกล… ฉันจะไม่ทิ้งเธอไว้ข้างหลังนานๆ อีกแล้ว”
ลู่โจวลูบหัวขนาดเล็กที่อยู่ในอ้อมอกเขาเบาๆ หลังจากลู่โจวปลอบเสี่ยวไอที่อารมณ์พลุ่งพล่านลง เธอผละออกจากคอเขา
แม้ว่าหุ่นยนต์น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ไม่หนักมากในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ แต่มันเป็นเรื่องค่อนข้างน่าอายที่ให้คนอื่นเห็นภาพแบบนี้
โดยเฉพาะเมื่อเขารู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมองเขาจากด้านหลัง
“อย่าทำตัวแบบนี้โดยไม่มีเหตุผลนะ” น้ำเสียงเวร่าทั้งอิจฉาและริษยา เธอจ้องมองเสี่ยวไอที่กระโดดออกจากคอลู่โจว แล้วกระซิบว่า “ตรงนี้มีคนอยู่เยอะ ถ้าเธอทำตัวแบบนี้ เธอจะกวนศาสตราจารย์นะ”
เสี่ยวไอส่งเสียง “เอ๊ะ? จริงเหรอเนี่ย? งั้น… เจ้านาย ถ้าไม่มีใครอยู่กวนใจ เรามา…(///ω///)”
เวร่า “…!”
“หยุดเลย!” ลู่โจวพูดขึ้นขณะที่เขาเคาะหัวหุ่นยนต์เด็กน้อย สีหน้าของเสี่ยวไอเปลี่ยนไปทันที และเธอกุมหัวตัวเองด้วยท่าทีเศร้าใจ ลู่โจวทนเห็นเธอแบบนี้ไม่ได้ เขาจึงถอนหายใจและพูดว่า “ทำตัวให้ปกติกว่านี้หน่อย เรากำลังจะทำธุระกันนะ”
“โอเค เสี่ยวไอรออีกหน่อยก็ได้…”
ลู่โจว “…”
หวังเผิงยืนรออยู่ด้านข้าง เขามองลู่โจวที่กำลังตำหนิเสี่ยวไอและหญิงสาวผมบลอนด์ที่ดูอิจฉา หวังเผิงมีสีหน้าอายเล็กน้อยและเขากระแอมในลำคอเบาๆ
“เราควรไปที่อื่นกันไหม…?”
จงจื้ออวี่ที่ยื่นอยู่ข้างเขาก็พยักหน้าพร้อมสีหน้าประหลาดเช่นกัน
ลู่โจวยิ้มขอโทษให้สองคนนี้ เขาหันไปหา กระแอมในลำคอและพูดว่า
“จริงๆ แล้ว ผมขอให้พวกคุณมาที่นี่วันนี้เพราะว่าผมมีเรื่องสำคัญจะประกาศ”
จงจื้ออวี่รู้สึกอึ้ง เขาถามด้วยความลังเล “เรื่องอะไรครับ?”
“นับตั้งแต่วันนี้ ผมจะทำหน้าที่เป็นกัปตันยานมิลกี้เวย์ ซึ่งจะรับผิดชอบการสำรวจอาณานิคมนอกระบบสุริยะเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์มนุษย์…” ชายสองคนนี้ยังมีสีหน้าเหมือนเดิม ลู่โจวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขากะพริบตาและพูดด้วยความเขินอาย “เอ่อ ทำไมพวกคุณถึงไม่เซอร์ไพรส์เลย?”
“เพราะว่ามันมีข่าวลือมานานแล้ว…” จงจื้ออวี่ถอนหายใจและพูดว่า “ทุกคนบนโลกอินเทอร์เน็ตรู้ว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีซื้อยานโนอาห์อาร์กและเปลี่ยนจุดหมายปลายทางจากอัลฟ่าเซนทอรี่ไปที่เทาเซติ คนจำนวนมากพูดคุยในโลกออนไลน์ว่าคุณจะไปกับยานลำนี้หรือเปล่า”
เมื่อเห็นว่าหวังเผิงไม่ได้พูดอะไร เขาพยักหน้าเงียบๆ
แต่เมื่อสังเกตจากสีหน้า เขาไม่อยากให้เพื่อนเก่าแก่คนนี้เดินทางไปที่ห่างไกล
ลู่โจวมีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก เขายักไหล่และพูดว่า “โอเค… ดูเหมือนว่าครั้งหน้าที่ผมตัดสินใจเรื่องใหญ่แบบนี้ ผมน่าจะทำให้มันดูลึกลับหน่อยจะได้ประกาศแบบที่ตื่นเต้นกว่านี้”
“ไม่หรอก ผมว่ามันโอเค อย่างน้อยคนที่เขาใส่ใจคุณจะได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าก่อน” จงจื้ออวี่ถอนหายใจและพูดต่อ “เอาตามตรง คุณไม่รู้สึก… ลังเลในใจบางเลยเหรอ?”
ลู่โจวยิ้มให้และพูดว่า “ก็มีบ้าง แต่ผมไม่ค่อยแสดงออกมา แล้วผมไม่คิดว่ามันคือการจากลา หนทางยังอีกยาวไกล วันหนึ่งเราอาจจะพบกันอีกที่สุดขอบจักรวาลหรือมุมอื่นบนโลก… เก็บคำพวกนี้ไว้ใช้ที่งานแถลงดีกว่า”
ลู่โจวมองดูหวังเผิงที่แทบไม่ได้พูดอะไรแล้วถามเขาว่า “แล้วคุณล่ะ? ถ้ามีอะไรอยากจะบอกกับผม ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีนะ… หรือคุณรอถึงวันออกเดินทางก็ได้”
หวังเผิงเงียบไปสักครู่ จากนั้นเขาพูดพร้อมกับถอนหายใจ “เอาจริงๆ ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร…”
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “พูดอะไรก็ได้”
“คุณพาผมไปด้วยได้ไหม?”
“คือ… ผมเกรงว่าน่าจะไม่ได้” ลู่โจวพูดด้วยความเขินอายในขณะที่เขาเกาหัวตัวเอง “มีเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ แต่มันไม่เหมาะที่จะบอกตอนนี้… คุณแค่ต้องรู้ว่าคุณต้องอยู่บนโลก คุณจะคิดว่ามันเป็นภารกิจชีวิตก็ได้”
หวังเผิงส่ายหน้าและพูดว่า “ผมมีภารกิจชีวิตเดียวนั่นคือการปกป้องคุณ ถ้าคุณไม่ต้องการให้ผมตามคุณไป ภารกิจของผมจะจบลงเมื่อคุณจากระบบสุริยะไป”
ลู่โจวพูดตอบ “นั่นก็ดีเหมือนกัน คุณควรจะได้พักบ้างหลังจากทำงานมานาน คุณน่าจะคิดถึงตัวเองให้มากในอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ”
“น้ำเสียงที่คุณพูดทำให้ผมไม่ค่อยสบายใจ” จงจื้ออวี่กระแอมเสียงเบาและพูดต่อ “มันเหมือนว่าคุณกำลังจะบอกลาพวกเรา คุณกำลังจะไปเทาเซติที่ห่างออกไปไม่กี่ปีแสงใช่ไหม คุณไม่ได้จะเดินทางไปหลายล้านปีแสงถึงแอนโดรเมด้าใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า ไม่ใช่แน่นอน! หลายล้านปีแสงมันไกลไป อย่างน้อยที่สุดมันก็ไกลไปสำหรับผมในตอนนี้ แต่ผมอาจจะมีโอกาสในอนาคต”
ด้วยเหตุบางประการ จงจื้ออวี่ได้ยินสิ่งนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจ ตาของเขาเริ่มกระตุก
มีโอกาสที่จะไปในอนาคต?
ชายคนนี้มีแผนจะเดินทางไปหลายล้านปีแสงจริงๆ เหรอ?
ถ้าคนอื่นพูดแบบนี้ เขาคิดว่าคงเป็นการพูดโม้หรือเล่นตลก
แต่คนตรงหน้าเขาคือนักวิชาการลู่ เขาเลยไม่อาจมองว่ามันเป็นเรื่องตลกได้
เนื่องจาก ‘เรื่องตลก’ ของชายคนนี้ในอดีตได้กลายเป็นความจริง…
“ทำไมคุณมองผมแบบนี้ล่ะ?”
“เปล่าครับ” จงจื้ออวี่ที่จ้องลู่โจวอยู่นาน ส่ายหน้าและตอบอย่างจริงใจ “ผมแค่อยากถามว่าคุณวางแผนจะไปแอนโดรเมด้าเมื่อไหร่”
ลู่โจวแทบสำลักน้ำลายตัวเอง เขากระแอมในลำคอและพูดต่อ
“ผมแค่พูดเฉยๆ อย่าจริงจังกับมันเลย…”
จงจื้ออวี่พยักหน้าอย่างจริงใจ
“ผมเชื่อทุกอย่างที่คุณพูด… คุณสะดวกที่จะเปิดเผยไหม? เมื่อไหร่ที่วาร์ปไดร์ฟที่เดินทางได้หลายล้านปีแสงจะเกิดขึ้นได้”
ลู่โจวถอนหายใจและพูดว่า “อย่าคิดถึงอะไรแบบนี้เลย คุณจะไม่เห็นมันในชั่วชีวิตนี้หรอก”
หนึ่งศตวรรษ?
หรืออาจจะสองศตวรรษ?
เขาเชื่อว่ามันต้องมีทางลัดที่สะดวกกว่าช่องทางไฮเปอร์สเปซในจักรวาลนี้ และเขามั่นใจว่าเขาจะหามันเจอในสักวัน…
แต่เขาน่าจะเป็นคนเดียวที่มีเวลาหาทางลัดนี้ได้
“โอเค อย่าพูดถึงแอนโดรเมด้าเลย… เอาจริง มันมีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง ผมวางแผนไว้ในตอนแรกว่าจะจัดงานแถลงหลังจากพวกคุณกลับไปดาวอังคาร”
จงจื้ออวี่ถามว่า “แล้วตอนนี้ล่ะ?”
ลู่โจวตอบว่า “ตอนนี้ผมวางแผนว่าให้คุณช่วยผมจัดงานแถลง เนื่องจากว่าผมจะอยู่บนมิลกี้เวย์สักสองสามวันแล้วก็ไปเซเรส… คือผมมีงานต้องทำเยอะ”
จงจื้ออวี่ถอนหายใจและพูดว่า “อืม… มันคือเรื่องอะไรล่ะ?”
“มันเป็นเรื่องการวิจัยเครือข่ายสื่อสารควอนตัมระหว่างดาว” ลู่โจวมองชายสองคนตรงหน้าซึ่งสีหน้าค่อยๆ แสดงความประหลาดใจมากขึ้น ลู่โจวมีรอยยิ้มบางๆ ระหว่างที่เขาพูด “การวิจัยของผมเสร็จช่วงประมาณเมื่อวาน”
…………………………………………………………….