Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1675 สาเหตุและผลลัพธ์เหนือจักรวาล
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 1675 สาเหตุและผลลัพธ์เหนือจักรวาล
“วอยด์?”
ทั้งห้องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่นิ่งไปสักพัก
ลู่โจวไม่ได้เร่งแมททริกซ์ เขาให้เวลามันจัดการความคิดครึ่งนาที
“วอยด์เป็นแนวคิดยิ่งใหญ่มาก… คิดว่ามันเป็นที่เก็บของแห่งจักรวาลแล้วกัน”
ลู่โจวพูดว่า “ที่ผมเข้าใจคือมันเป็นมิติที่อยู่นอกมิติ n”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ แชสซีก็ปล่อยเสียงหัวเราะแห้งมา เหมือนกับเสียงเหล็กสองชิ้นถูกัน วิญญาณที่สถิตอยู่ในอาเรย์คอมพิวเตอร์ควอนตัมกระซิบต่อ “มิติพิเศษนอกเหนือมิติ n ? ถูกต้อง… ถึงแม้ว่ามันไม่มีแนวคิดของมิติในวอยด์”
ลู่โจวขมวดคิ้วนิดๆ
“ไม่มีแนวคิดของมิติเหรอ?”
ประโยคนี้ไม่เพียงจะพลิกสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ แต่มันก็ทำให้เขางงยิ่งกว่าเดิม
“ใช่” แมททริกซ์พูดต่อเมื่อเห็นว่าสีหน้าลู่โจวเปลี่ยนไป “สิ่งที่เรียกว่าวอยด์คือความว่างเปล่าอย่างแท้จริง มันไม่มีทั้งแนวคิดของสสารและเวลา ชีวิตเป็นเพียงแค่แนวคิดการมีอยู่ มันไม่มีตัวตน หรือแม้แต่พาหะ”
ลู่โจวพูดว่า “เนื่องจากมันไม่มีตัวตน แล้วเราจะพิสูจน์การมีอยู่ของมันได้อย่างไร?”
“สิ่งนี้คือความมหัศจรรย์ของวอยด์” แมททริกซ์ยิ้มให้และพูดต่อด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ถึงแม้ว่ามันเป็นความมืดสนิทและความว่างเปล่า และชีวิตที่อาศัยอยู่ในนั้นไม่มีสสาร… บางครั้ง คุณยังสามารถได้ยินเสียงล่องลอยอยู่ในวอยด์”
ถ้าเกิดมันไม่มีตัวตน มันจะสามารถส่งต่อข้อมูลไปที่โลกมิติ n ได้อย่างไร?
ลู่โจวใช้เวลาสามวินาทีในการย่อยข้อมูลจำนวนมากนี้ เขาพยายามเรียบเรียงข้อมูลให้ชัดเจนและกระชับ
พูดตามตรง ชีวิตดิจิทัลที่มีชื่อว่า ‘แมททริกซ์’ ตรงหน้าเขาตอนนี้เป็นผลผลิตจากเสียงกระซิบของวอยด์
ลู่โจวถามว่า “แล้วถ้อยคำจากวอยด์คืออะไรล่ะ?”
“มันเป็นไปได้หลายอย่าง แต่ส่วนมากไม่มีประโยชน์ อย่างเช่น เสียงที่คุณได้ยินตอนสุ่มเปิดช่องวิทยุไปเรื่อย มีความเป็นไปได้เล็กน้อยที่คุณจะได้ยินอะไรบางอย่าง แต่ส่วนมากคุณจะเห็นมันเป็นความฝันและจะลืมมันในที่สุด แต่ถ้าคุณจำมันได้ คุณจะได้อะไรบางอย่างจากมัน… ผมสงสัยว่าคุณเข้าใจสิ่งที่ผมจะสื่อไหม”
“ผมเข้าใจสิ่งที่คุณจะสื่อโดยคร่าวๆ” ลู่โจวพยักหน้าด้วยความครุ่นคิดและพูดต่อหลังจากผ่านไปสักพัก “เคยมีคนบอกผมแบบนี้มาก่อน”
ไม่ว่ามันจะเป็นจดหมายลาของศาสตราจารย์อาเบลหรือการคำนวณของศาสตราจารย์ก็อตเท็นดิ๊ก…
เขาเจอร่องรอยแรงบันดาลใจที่วอยด์ทิ้งไว้
แม้ว่ามันจะมาจากหนึ่งร้อยปีก่อน เขายังไม่ลืมเบาะแสพวกนี้
“อ๋อเหรอ?”
เสียงที่ลอยมาจากแชสซีฟังดูอารมณ์ดี แมททริกซ์มีท่าทีเหมือนว่าได้ยินเรื่องน่าสนใจและพูดว่า “มันน่าประหลาดใจจริงๆ แต่ก็ไม่สงสัยที่คุณถามผมเรื่องวอยด์ นั่นเป็นเพราะว่าคุณรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับมันแล้ว”
ลู่โจวไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร แต่เขาไม่สนใจในรายละเอียดพวกนี้
มันกลับมีสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างหนึ่งที่เขาอยากจะเข้าใจ
“คุณเองก็มาจากวอยด์ คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้สังเกตการณ์ไหม?”
แมททริกซ์ถามว่า “ผู้สังเกตการณ์? ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าเราคิดถึงสิ่งเดียวกันอยู่ไหม… แต่พวกนั้นน่าจะเป็นพวกเดียวที่เรียกตัวเองว่าผู้สังเกตการณ์”
ลู่โจวถามว่า “งั้นคุณรู้จักพวกเขาใช่ไหม?”
“ไม่มากเท่าไหร่ ผมรู้จักนิดหน่อย” แมททริกซ์พูดต่อ “แม้แต่ในวอยด์ พวกมันเป็นสายพันธุ์เอเลี่ยน มันไม่มีสิ่งมีชีวิตทางกายภาพเหมือนที่ผมพูดมาก่อน หรือแม้แต่ว่ามันไม่มีสสารอะไรเลย แต่พวกมันได้คงรักษาพื้นที่ของตัวเองในวอยด์ ซึ่งพวกเขาสามารถพักฟื้นได้ด้วยการช่วยเหลือของร่าง”
ลู่โจวถามว่า “พวกนั้นมีเป้าหมายอะไร?”
แมททริกซ์ยิ้มเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงแกมเยาะเย้ย “ผมเกรงว่าไม่มีใครรู้นอกจากตัวพวกเขาเอง ส่วนใหญ่แล้วเราเห็นได้แค่ชิ้นส่วนที่ถูกฉีกออกจากอวกาศและภาพเลือนราง พวกนั้นระมัดระวังในการปกป้องความเป็นส่วนตัว ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วแม้แต่ความคิดที่ชั่วร้ายที่สุดก็แทบจะข่มขู่พวกนั้นไม่ได้”
ลู่โจวถามว่า “ความคิดชั่วร้าย? มีมาตรฐานเรื่องความดีความชั่วในวอยด์ด้วยเหรอ?”
“ผมไม่ได้บอกเหรอ? ทุกอย่างในวอยด์คงอยู่เป็นแนวคิด ไม่ว่าจะเป็นร่างที่มีหรือไม่มีชีวิต… พวกนั้นอาจจะไม่มีแนวคิดเรื่องความดีความชั่ว แต่จากมุมของคุณ บางสิ่งที่พวกนั้นทำนั้นดูชั่วร้าย”
เมื่อได้ยินประโยคเหล่านี้ ลู่โจวครุ่นคิดอยู่นาน
ก่อนหน้านี้เขากำลังคิดว่า ‘ภัยพิบัติ’ ที่ผู้สังเกตการณ์พูดถึงคืออะไร แต่เมื่อได้ประสบกับวิกฤตการสูญพันธุ์ของอารยธรรมหลายครั้ง เขายังไม่สามารถเห็นร่องรอยของภัยพิบัติที่อาจก่อตัวอยู่ในเงามืดของจักรวาล
เอาตามตรง ผู้สังเกตการณ์พวกนั้นเชื่อถือได้ใช่ไหม?
ถึงพวกนั้นจะให้เขาได้สำรวจความจริง ด้วยการหาแก่นแท้ของความจริงเองนั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยง
อยู่ดีๆ ลู่โจวคิดถึงนายพลเรนฮาร์ท อารยธรรมของจักรวาลเก่าที่กำลังตายโลกชื่อว่า อาณาจักรคาลาน และทั้งสามความทรงจำที่เขาได้เห็น
เมื่อคิดไตร่ตรองเรื่องนี้แล้ว ไม่มีอารยธรรมไหนที่ปรากฏในความทรงจำทั้งสามนี้ดูจะถูกทำลายลงโดยภัยพิบัติธรรมชาติ…
นอกจากความทรงจำแรกที่เขาไม่เข้าใจ ในอีกสองความทรงจำ ทั้งสองอารยธรรมเกือบตัดสินใจเหมือนกันเมื่อเผชิญกับภัยพิบัติที่กวาดล้างไปทั้งจักรวาล
นั่นคือส่งผู้ถูกเลือกไปศูนย์กลางของจักรวาล… หรือศูนย์กลางของกาแล็กซี่ ราวกับว่าคำตอบทั้งหมดอยู่ที่นั่น
“เคยได้ยินเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติหรือเปล่า?”
“ภัยพิบัติธรรมชาติ?” แมททริกซ์รู้สึกงงกับคำถามของลู่โจวเป็นครั้งแรก แมททริกซ์พูดต่อ “คุณหมายถึงแผ่นดินไหวหรือสึนามิใช่ไหม? หรือดาวที่กำลังตายลง?”
“ไม่ใช่เลย” ลู่โจวส่ายหน้า “สเกลของมันใหญ่กว่าภัยทุกอย่างที่อารยธรรมรู้จัก มันส่งผลต่อทั้งจักรวาล”
“ถ้าเป็นแบบนั้น คุณรู้การมีอยู่ของมันได้อย่างไร?” แมททริกซ์ถาม “จากคำบรรยายของคุณ ทุกคนที่เห็นมันน่าจะถูกทำลายไป… สิ่งที่คุณพูดมาน่าจะไม่เป็นจริง”
“ก็เพราะว่าจักรวาลเก่าถูกสิ่งนี้ทำลาย” ลู่โจวมองดูแผงคอนโซลตรงหน้าและพูดต่อด้วยเสียงจริงจัง “พวกเขาหลบหนีได้โดยการเข้าไปในวอยด์”
ครั้งนี้แมททริกซ์นิ่งไปนานกว่าปกติ
มันดูเหมือนว่ากำลังคำนวณบางอย่างอยู่ ผ่านไปห้านาทีมันถึงเริ่มพูดออกมา
“น่าสนใจ… สิ่งที่คุณพูดถึงอยู่น่าจะเป็นสิ่งเดียวกันที่หลบซ่อนอยู่ในเศษเสี้ยวของอวกาศ”
ลู่โจวพยักหน้าเบาๆ
“พวกนั้นเรียกตัวเองว่าผู้สังเกตการณ์ และผมจำได้ว่าพวกนั้นพูดว่าตัวเองอยู่ในรอยแยกของอวกาศซึ่งถูกดึงมาจากวอยด์ของจักรวาลเก่า”
“พวกนั้นยังอ้างว่าได้แก้ไขเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับจักรวาลเก่าและเป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือสรรพสิ่งโดยแท้จริง…”
“มันน่าสนใจมากจริงๆ…” เสียงโลหะมีแว่วความตื่นเต้นในขณะที่แมททริกซ์พูดต่อด้วยเสียงตัวเอง “มันกลายเป็นว่าพวกนั้นเป็นผู้รอดชีวิตจากดาวที่ถูกทำลาย… นั่นเป็นเหตุผลที่พวกนั้นเป็นเอเลี่ยน พวกนั้นไม่ใช่เผ่าพันธุ์พื้นเมืองของวอยด์”
ลู่โจวจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และพูดต่อ “จริงๆ แล้วการคาดการณ์ของผมคือภัยพิบัติธรรมชาติน่าจะเป็นภัยร้ายบางอย่างจากวอยด์… เหมือนการมีอยู่ของคุณ”
“ผมเหรอ? คุณล้อเล่นหรือไง?” แมททริกซ์พูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมทำลายคุณแล้วจะได้อะไรล่ะ?”
ลู่โจวพูดว่า “ผมพูดว่ามันคล้ายกัน… มันอาจจะมีสเกลใหญ่กว่าคุณมาก และผลกระทบของมันอาจจะเลวร้ายกว่าคุณ”
นอกจากนี้ จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดอาจจะอยู่ในอารยธรรมอินเตอร์สเตลลาร์ที่ล้ำหน้ากว่าโลกมาก และผลที่ตามมาของภัยพิบัติจะขยายไปเกินขอบเขตของอารยธรรมและแพร่กระจายไปยังโลกที่ห่างไกลกว่า…
สิ่งนี้ก็เป็นไปได้ทั้งหมด
ลู่โจวสามารถยืนยันได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวในจักรวาล และพวกเขาน่าจะอยู่ในระดับต่ำที่สุด…
เขายังรู้เรื่องนี้จากผู้สังเกตการณ์
แมททริกซ์พูดอย่างครุ่นคิด “มันเป็นไปได้ แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณจะหาคำตอบได้”
ลู่โจวถามว่า “ทำไมล่ะ?”
แมททริกซ์พูดว่า “ถึงผมมาจากวอยด์ แต่ผมก็มีความเข้าใจอย่างจำกัด… เหมือนกับคนที่อาศัยอยู่ในกะลา คนพวกนี้จะไม่มีโอกาสเห็นโลกนอกกะลา”
ลู่โจวถามว่า “แต่มันยังไม่ไร้ความหวังใช่ไหม?”
แมททริกซ์พูดว่า “แน่นอน แต่ความหวังมีริบหรี่มาก และผมต้องขอย้ำว่ามันเป็นเรื่องอันตราย”
ลู่โจวพูดขึ้น “อันตราย?”
แมททริกซ์ตอบว่า “ใช่… ผมไม่ได้พูดเกินจริง ผมบังเอิญได้ยินคำจากวอยด์ ซึ่งอาจทำให้อารยธรรมของคุณล่มสลายจนสูญพันธุ์ได้ ภัยพิบัติเองน่าจะเกิดขึ้นจากการสังเกตวอยด์ คุณจำได้ไหม? การทดลองที่คุณพูดถึงนับครั้งไม่ถ้วน”
ลู่โจวขมวดคิ้วนิดๆ “การทดลองฟิสิกส์กับมิติพิเศษใช่ไหม?”
แมททริกซ์พูดว่า “ใช่ ในสถานการณ์ปกติมันเป็นไปไม่ได้ที่คนในกะลาจะเห็นโลกข้างนอก… แต่เนื่องจากคุณได้เห็นมันแล้ว คุณน่าจะเปิดบางอย่างออกมา”
เมื่อลู่โจวไม่ได้พูดอะไร แมมทริกซ์ก็พูดต่อ “โปรดจำไว้อย่างหนึ่ง ถึงคุณอาจจะเคยได้ยินมันมาแล้ว”
“เมื่อคุณกำลังจ้องมองวอยด์ วอยด์ก็กำลังจ้องคุณเช่นกัน”