Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 174 ผ่านการฝึกงาน
การรายงานดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับการค้นพบของลู่โจว มันไม่มีอะไรน่าดูเลย
ไม่มีอะไรมาเทียบกับการค้นพบของลู่โจวได้
หลายคนคิดถึงการทดลองมิวออนนิวทริโนเมื่อสองสามปีก่อน ซึ่งพิสูจน์ว่าไม่ควรมีนิวทริโนในการคาดการณ์ของแบบจำลองมาตรฐาน อย่างไรก็ตามที่จริงมันมี! เนื่องจากการค้นพบที่น่าทึ่งนี้ แบบจำลองมาตรฐานแทบจะถูกผลักไสไป
หากมีอนุภาค 750 GeV ขาดหายไปจากแบบจำลองมาตรฐานจริงๆ ล่ะก็…
พูดอีกแง่หนึ่งก็คือ เบาะแสนี้มีศักยภาพล้มล้างมหาศาล
หลายคนมองดูนาฬิกา บางคนก็ถึงกับลุกออกจากห้องประชุม พวกเขาอดใจไม่ไหวที่จะกลับไปเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ใหม่
มันเห็นได้ว่าถ้าความเป็นไปได้ของการเกิดลักษณะสูงสุดนี้สูงจริง CERN ก็จะเริ่มใช้งาน LHC เพื่อตรวจสอบเบาะแสนี้เพิ่มเติมแน่นอน
ถ้าข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดย LHC พิสูจน์ได้ว่ามีลักษณะสูงสุดที่ 750 GeV จริง งั้นนี่ก็หมายถึงรางวัลโนเบล!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเบาะแสนี้มันมีค่า
ปิเตอร์ ฮิกส์กล่าวด้วยความประหลาดใจ “…น่าเหลือเชื่อ นี่คือการค้นพบที่น่าทึ่งที่คุณพูดถึง?”
“ใช่” แฟรงก์ วิลกเซคที่นั่งอยู่ข้างๆ กล่าวขึ้นมา เขายิ้ม “ฉันอ่านวิทยานิพนธ์ของเขาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ตอนนั้นวิทยานิพนธ์ยังไม่เสร็จ แต่ฉันมั่นใจว่ามันมีเบาะแสที่น่าสนใจ”
ปิเตอร์ ฮิกส์คิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะเอ่ยถาม “จากมุมมองทางคณิตศาสตร์ คุณคิดว่ามันเป็นไปได้ไหม?”
แฟรงก์ยิ้ม “ฉันคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะลอง”
“คุณพูดถูก ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ปิเตอร์ ฮิกส์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า เขาลุกจากที่นั่งแล้วกล่าว “ฉันมีทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับเบาะแสนี้…ฉันต้องไปแล้ว”
แฟรงก์หยุดเขาไว้ “เดี๋ยวก่อน”
ปิเตอร์ ฮิกส์ “มีอะไรอีกเหรอ?”
แฟรงก์ยิ้มแล้วลูบไม้ลูบมือ “คุณลืมเรื่องเงิน”
แฟรงก์เป็นคนชนะเดิมพันแน่นอน
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ผีพนันจะเป็นผู้ชนะ
ปิเตอร์ ฮิกส์ชะงักชั่วครู่ จากนั้นเขาก็โยนแฟรงคลินที่ยับยู่ยี่บนโต๊ะก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
…
อีกด้านหนึ่งของห้องประชุม ศาสตราจารย์หรูกล่าว “เด็กคนนี้น่าสนใจทีเดียว สมกับเป็นศิษย์ของฉัน”
เหยียนซินเจวี๋ยอดถามไม่ได้ “แต่ศาสตราจารย์บอกว่านี่เป็นการกวัดแกว่งทางควอนตัมไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นเลย” ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนกล่าว เขากล่าวต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันแค่บอกว่ามันเป็นไปได้”
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่ามันเป็นไปได้
นี่เป็นเบาะแสสำคัญ แต่ไม่ว่ายังไงการทดลองก็ยังต้องทำ
เหยียนซินเจวี๋ยถามต่อ “แต่ถ้าเกิดมีคุณสมบัติสูงสุดที่ 750 GeV เรื่องนี้จะอธิบายยังไงด้วยควอนตัมโครโมไดนามิกส์?”
ศาสตราจารย์หรูพยักหน้า “มันอธิบายไม่ได้ เพราะมันเกินกว่าแบบจำลองมาตรฐานไปแล้ว”
“งั้นทำไม…”
“ไม่มีเหตุผลว่าทำไม” ศาสตราจารย์เกากล่าวขัดจังหวะ เขายิ้ม “ฟิสิกส์ไม่ได้เป็นไปตามที่เราปรารถนา มันมีตัวตนของมันเอง เราจำเป็นต้องค้นหาปริศนาใหม่เพื่อให้ทฤษฎีของเราสมบูรณ์แบบ”
ไม่ว่าจะเป็นข้อสรุปทางฟิสิกส์ใดก็ไม่สมบูรณ์แบบ มันขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าและการสังเกตของมนุษย์
ดังนั้นแม้ว่าไอน์สไตน์จะพิสูจน์ทฤษฎีสัมพัทธภาพ แต่ก็ไม่มีใครก้าวออกมาพูดว่าไอน์สไตน์พลาด
ในทำนองเดียวกันถ้าวันหนึ่งมีคนก้าวเท้าลงบนจักรวาลอันไกลโพ้นแล้วพบว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพใช้ไม่ได้ในจุดหนึ่งของจักรวาล ก็ไม่มีใครคนไหนออกมาพูดว่าไอน์สไตน์ผิดอยู่ดี ฟิสิกส์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นี่ก็เป็นเหมือนกับแบบจำลองมาตรฐาน
เหยียนซินเจวี๋ยกลั้นหายใจแล้วถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “งั้นศาสตราจารย์จะบอกว่าการค้นพบของลู่โจวอาจทำให้เกิดทฤษฎีฟิสิกส์ใหม่ๆใช่ไหม?”
ศาสตราจารย์เกาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะให้คำตอบที่คลุมเครือ “อาจจะ”
นั่นถูกแล้ว มันเป็นแค่อาจจะ
สำหรับนักศึกษาปริญญาโทอย่างลู่โจว ‘อาจจะ’ก็น่าประทับใจแล้ว
…
ลู่โจวมาอยู่นี่ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภา และเขาก็อยู่มาสองเดือนครึ่งแล้ว
เมื่อเขาจ้องมองปฏิทิน เขาก็อดครุ่นคิดไม่ได้
ถ้าเขาจำไม่ผิด ตอนนี้เพื่อนเขาจากหอสองศูนย์หนึ่งคงสอบปลายภาคเสร็จแล้ว มีแต่นักศึกษาที่อ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าปริญญาโทเท่านั้นที่ยังอยู่ในมหาวิทยาลัยจินหลิง
ถ้าวิถีชีวิตของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป งั้นอีกสองเดือนเขาก็จะเป็นนักศึกษาปีสาม เขาจะต้องคิดถึงการทำงานหรือเรียนต่อ
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่ต้องคิดถึงปัญหาที่ไม่สลักสำคัญอะไรพวกนี้แล้ว
สองอาทิตย์ก่อน งานประชุมสุดยอดงานวิจัยเพื่อพัฒนานิวเคลียร์ยุโรปจบลง และนักวิจัยจากกลุ่มการร่วมมือประเทศจีนก็กลับประเทศไปแล้ว
ลู่โจวควรบินกลับไปพร้อมกับเหยียนซินเจวี๋ยและศาสตราจารย์หรูเสินเจียน แต่ศาสตราจารย์ทิ้งเขาไว้และบอกให้เขาบินกลับเอง
ส่วนเหตุผลนั้น เรื่องมันยาว
หลังลู่โจวจบการรายงาน ลินน์ อีแวนส์ก็ได้ให้สัญญาใหม่แก่เขาแล้วมอบคำเชิญให้เขา
ก่อนหน้านี้ลู่โจวเป็นเด็กฝึกงานของ CERN แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักวิจัยของ CERN แล้ว
พูดสั้นๆก็คือ เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
สำหรับสถาบันวิจัยนานาชาติแบบนี้ อัตราการออกงานของนักวิจัยนั้นสูงมาก ยกตัวอย่างห้องปฏิบัติการนานาชาติอาร์กอนที่มีชื่อเสียง อัตราส่วนของพนักงานชั่วคราวต่อพนักงานถาวรแทบจะเป็น 1:1
CERN อาจมีอัตราการออกงานสูงที่สุดในบรรดาสถาบันวิจัย
CERN มีสัญญาการจ้างพนักงานแตกต่างจากที่อื่น
สัญญาเหล่านี้ไม่ได้พูดถึงเงินเดือน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ข้อตกลงการจ้างงาน มันเป็นเหมือนหลักฐานพิสูจน์ตัวตนมากกว่า
ยกตัวอย่างเหยียนซินเจวี๋ยและศาสตราจารย์หรูเสินเจียนต่างก็มีหลักฐานพิสูจน์ตัวตน
ส่วนประโยชน์ของตัวตนเหล่านี้นั้น…
นอกจากขอวีซ่าได้ง่ายและเข้าสู่พื้นที่วิจัย มันค่อนข้างไร้ประโยชน์
นอกจากนี้ถ้าเขาอยากหารายได้พิเศษ เขาสามารถใช้ตัวตนนี้ในการเซ็นสัญญากับแล็บอื่น
แน่นอนลู่โจวไม่ได้อยู่’ทำงานภาคฤดูร้อน’ เขาอยู่เพราะ CERN แก้ไขข้อตกลงการทดลองเพื่อตรวจสอบเบาะแสที่เขาพบ
ลู่โจวอยากอยู่เป็นสักขีพยานการค้นพบของตัวเอง
แน่นอนนี่เป็นเหตุผลหนึ่งเท่านั้น
อีกเหตุผลก็คือเนื่องจากระบบยังไม่ได้จบภารกิจ เขาจึงต้องทำงานอยู่นี่ต่อ
ลู่โจวกลัวว่าระบบจะยกเลิกภารกิจเอา เขาจึงไม่อยากไปไหน
แถมการทดลองแบบนี้ยังกวัดแกว่งสูง มันอาจใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือกระทั่งหนึ่งปี
ดังนั้นศาสตราจารย์หรูเสินเจียนจึงทิ้งลู่โจวอยู่นี่
ท้ายที่สุดแล้วเวลาของนักวิชาการก็มีค่า ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนจะอยู่รอฟังผลการวิจัยอยู่เฉยๆก็ไม่ได้
อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์หรูไม่ได้ทิ้งลู่โจวเลยซะทีเดียว เขายังให้เงินลู่โจวไว้ใช้สามพันยูโร แถมเขายังจ่ายค่าโรงแรมให้จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
เพราะยังไงเสียการค้นพบนี้ก็ได้รับการยอมรับ มันเป็นข่าวดีของกลุ่มวิจัย LHCb ประเทศจีน
ศาสตราจารย์หรูเสินเจียนก็รอดูผลการวิจัยอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน
…………………………………