Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 208 สิทธิบัตร
วิธีที่ถูกต้องในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์คือการสะสมอารมณ์เชิงลบจริงหรือ?
ลู่โจวประหลาดใจกับการค้นพบที่คาดไม่ถึงนี้
อย่างไรก็ตามหลังจากทดลองหลายครั้ง เขาก็พบว่ามันไม่จริง
แถบความคืบหน้ากับอารมณ์ของเสี่ยวไอไม่ได้สัมพันธ์กัน เมื่อไหร่ที่เขาคุยกับเสี่ยวไอ แถบความคืบหน้าก็จะเติบโตขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนถ้ามันคืบหน้าระดับนี้ เขาคงต้องใช้เวลาเป็นชาติ
ความคืบหน้าของเสี่ยวไอขึ้นอยู่กับการสะสมข้อมูลและวิเคราะห์องค์ประกอบอารมณ์เชิงตรรกะอย่างการรวบรวมข้อมูลจากเว็บบอร์ด และค่อยๆวิเคราะห์ข้อมูลอย่างช้าๆ
แม้ลู่โจวจะไม่รู้ว่าทำไมการวิเคราะห์ข้อมูลถึงเกี่ยวข้องกับรูปอิโมติคอน แต่ดูเหมือนรูปอิโมติคอนจะมีประโยชน์เล็กน้อย
เขามีพื้นที่เก็บข้อมูล SSD อยู่มากมาย เขาจึงปล่อยให้เสี่ยวไอทำตามต้องการไป
หลังจากลู่โจวย้ายมาบ้านใหม่ เขาก็เล่นกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทุกวัน นอกจากนั้นเขาก็จะเข้าเน็ตดูว่ามีวิทยานิพนธ์ใหม่ๆมาใหม่ ไม่งั้นเขาก็จะไปศึกษาวิทยานิพนธ์ล่าสุดที่เกี่ยวกับข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค เวลาส่วนใหญ่ของเขาจะค่อนข้างสบายทีเดียว
วันที่สามก่อนไปอเมริกาก็มีข่าวดีเข้ามา
นายหน้าที่รับผิดชอบสิทธิบัตรให้เขาโทรมาแล้วบอกกับเขาว่าเอกสารสิทธิบัตรดำเนินการแล้ว เขาสามารถไปรับใบรับรองที่ออฟฟิศของนายหน้า
…
“…เอกสารทั้งสองอยู่นี่ครับ ลองตรวจสอบดูครับว่ามีปัญหาไหม”
หานเทียนอวี่เป็นนายหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ เขาหยิบใบรับรองออกมาแล้วมอบให้ลู่โจว
ลู่โจวมองเอกสารทั้งสองแล้วถาม “เร็วขนาดนี้เลย?”
พูดตามตรง เขาสงสัยเรื่องนี้เล็กน้อยตอนที่รับโทรศัพท์
จากการประเมินของเขา ขั้นตอนสิทธิบัตรจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปี หรืออาจเป็นปีด้วยซ้ำ
มันเป็นปาฏิหาริย์ที่สิทธิบัตรของเขาเสร็จเร็วขนาดนี้
หานเทียนอวี่ได้ยินคำถามลู่โจวแล้วตอบ “ช่วงนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาทำงานกันหละหลวมมาก โดยเฉพาะสิ้นปี พวกเขาดูผ่านๆเท่านั้น ถ้าไม่มีปัญหาอะไรสำคัญๆ พวกเขาก็จะให้ผ่าน”
ลู่โจว “…”
อืม…
มีเอกสารสิทธิบัตรอยู่สองใบ ใบหนึ่งคือการปรับปรุงวัสดุ PDMS[1] ส่วนอีกใบเป็นการปรับปรุงการใช้วัสดุ PDMS ในขั้วบวก
แกนหลักของเทคโนโลยีแบตเตอรี่อยู่ในสองส่วนนี้ อันที่จริงลู่โจวแบ่งสิทธิบัตรทั้งสองนี้แล้วคิดสิทธิบัตรเพิ่มได้อีก อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณางบที่จำกัด เขาจึงปัดความคิดนี้ทิ้งไป
ลู่โจวรับใบรับรองสิทธิบัตรทั้งสองแล้วอ่านอย่างระมัดระวัง เขายืนยันหมายเลขสิทธิบัตร ชื่อผู้ถือสิทธิบัตร และการคุ้มครองสิทธิ์ ทั้งหมดล้วนเขียนได้ชัดเจนและถูกต้อง
นอกจากนี้สิทธิบัตรของเขาคุ้มครองอยู่ยี่สิบปี
หลังจากผ่านไปยี่สิบปี เทคโนโลยีนี้จะนำมาใช้ได้ทุกคน
ลู่โจวถามหานเทียนอวี่ “สิทธิบัตรนี้มีผลในต่างประเทศไหม?”
หานเทียนอวี่เป็นตัวแทนสิทธิบัตร ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างรวดเร็ว “มีผลแค่ในจีนเท่านั้น สิทธิบัตรสากลต้องไปทำต่างหาก วิธีหลักคือส่งสิทธิบัตรไปอนุสัญญากรุงปารีสหรือสนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร”
“มีค่าธรรมเนียมต่างกันในแต่ละประเทศ นี่เป็นราคาของแต่ละประเทศ เอาไปดูได้ตามต้องการเลยครับ”
เมื่อลู่โจวดูราคา เขาก็ช็อก
มันไม่ถูกเลย
ของอเมริกาสองหมื่นหยวน ของยุโรปสองหมื่นหยวน…แม้แต่เกาหลีใต้ก็ต้องใช้หมื่นเก้าพันหยวน…
มันต้องใช้ถึงสี่แสนหยวนสำหรับประเทศหลักๆทั้งหมด
สิทธิบัตรสองใบ งั้นก็หมายถึงแปดแสนหยวน?
โชคดีที่ราคานี้เป็นสกุลหยวน ถ้าเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ เขาคงไม่มีปัญญาจ่าย
หานเทียนอวี่เห็นลู่โจวเงียบ เขาจึงถาม “เขาวางแผนจดของประเทศไหน?”
ลู่โจววางแผ่นราคาไว้บนโต๊ะแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด “ทุกประเทศในแผ่นนี้เลย”
เพื่อความปลอดภัย มันง่ายกว่าถ้าจะจดของทุกประเทศในคราวเดียว
ท้ายที่สุดแล้วลู่โจวก็คาดหวังกับสิ่งประดิษฐ์นี้ไว้สูง
หานเทียนอวี่อึ้ง “…ทุกประเทศ?”
ลู่โจวพยักหน้า “มีปัญหาเหรอครับ?”
“ไม่มี ไม่มีปัญหาเลยครับ”
สีหน้าของหานเทียนอวี่เปล่งประกายขณะมองดูลู่โจวด้วยรอยยิ้ม
เงินสดแปดแสนหยวน!
ค่าคอมมิชชั่นของงานนี้มากกว่าเงินเดือนเขาอีก!
ชายคนนี้รวยมาก!
แม้แต่บริษัทที่เคยมาใช้บริการจดสิทธิบัตรสากลยังต้องช็อกกับราคา ส่วนบริษัทเล็กๆ ไม่จดด้วยซ้ำ ปกติจะจดเป็น’ความลับทางการค้า’แทน
บริษัทเล็กๆ จะจดเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น ตอนที่มีคู่แข่ง
มันหาได้ยากที่จะได้เจอกับลูกค้าใจป้ำอย่างลู่โจว
นายหน้าพาลู่โจวไปแผนกการเงินเพื่อจ่ายเงิน
ก่อนที่ลู่โจวจะออกไป นายหน้าก็ส่งนามบัตรให้ลู่โจวแล้วกล่าว “ถ้าคุณมีสิทธิบัตรอยากจดอีกก็มาหาผมได้เลย!”
สัญชาตญาณนายหน้าบอกกับเขาว่าในอนาคตเขาจะมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก
“ไว้คุยเรื่องอนาคตทีหลัง คุณช่วยจัดการงานนี้ให้เสร็จก่อน” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ถาม “แล้วมันต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
หานเทียนอวี่กล่าวอย่างมั่นใจ “ช้าสุดมิถุนาปีหน้า! ผมสัญญาว่าผมจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแก่คุณ!”
มิถุนาปีหน้าเขาคงอยู่พรินซ์ตันแล้ว
เมื่อเอกสารสิทธิบัตรมาถึงมือเขา เขาก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีก
จู่ๆ ลู่โจวก็ไม่รู้สึกเศร้ากับเงินแปดแสนหยวนที่เพิ่งใช้ไปอีก กลับกันเขายิ้มแล้วกล่าว “งั้นผมจะรอฟังข่าวดีจากคุณ”
“ครับ! เดินทางดีๆ นะครับ!”
หานเทียนอวี่กระตือรือร้นเป็นพิเศษ เขากระทั่งเดินมาส่งลู่โจวถึงหน้าประตู
เขาจะไปก็ต่อเมื่อเห็นลู่โจวขึ้นรถไปแล้วเท่านั้น
………………………………..
[1] เป็นพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยไดเมทิลซิลิโคนออกไซด์เป็นหน่วยมอโนเมอร์ เป็นน้ำมันที่ไม่มีสี มีลักษณะข้นหนืด ไม่ละลายในน้ำ