Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 224 พบสหายเก่า
ยี่สิบนาทีต่อมา ลู่โจวก็เอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเดินทาง
เขาถอดสายชาร์จออกแล้วกำลังจะเปิดวีแชท แต่แล้วจู่ๆ ก็มีสายโทรเข้ามา
ลู่โจวดูผู้โทรมาแล้วอึ้ง เขารีบรับสายอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่เขาจะทันได้พูด น้ำเสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากโทรศัพท์
“นายอยู่ไหน?”
เฉินยู่ซานยืนอยู่หน้าทางออกสนามบิน เธอกำลังมองดูคนที่สัญจรไปมา
“กำลังกินข้าว…ทำไมเหรอครับ?”
เฉินยู่ซานฉุนขาด
นาย นายกำลังกินข้าว!
ฉันมารอนายตรงนี้ทั้งยังหิวอยู่!
เฉินยู่ซานสูดหายใจเข้าลึกๆ “นายอยู่ฟีลาเดลเฟียแล้ว?”
“ครับ” ลู่โจวตอบ เขาฟังจากน้ำเสียงเธอแล้วรู้สึกถึงความผิดปกติ เขาจึงถาม “อย่าบอกนะ คุณก็มาแล้วเหมือนกัน…”
ในที่สุดลู่โจวก็รู้แล้วว่าทำไมเมิ่งฉีถึงพูด ‘โอเค!’
จะว่าไปเขาจำได้ เธอบอกว่าจะอยู่ฟิลาเดลเฟียช่วงนี้ เธอยังบอกอีกว่าพอมาถึงฟิลาเดลเฟียให้โทรหาเธอ
อย่างไรก็ตามลู่โจวงุนงงเล็กน้อย
มันนานแล้ว ใครจะไปจำได้?
เฉินยู่ซาน “ส่งโลเคชันมา”
จากนั้นเธอก็วางสาย
ลู่โจวรู้สึกปวดหัว
เขารู้สึกแย่เล็กน้อยที่ทำให้เธอรออยู่ที่สนามบินนานขนาดนี้ เขาเปิดวีแชทแล้วรีบส่งตำแหน่งไปให้เธอ
เธอไม่ได้ตอบกลับมาเลย
หลังจากผ่านมานาทีหนึ่ง ก็มีข้อความเข้ามา
[รอฉันก่อน ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย]
หลัวเหวินเซวียนพลิกดูหน้าเมนู เมื่อเขาเห็นสีหน้าตะลึงของลู่โจว เขาก็ถาม “มีอะไร?”
ลู่โจววางโทรศัพท์ลงแล้วกล่าว “ไม่มีอะไรครับ…ขอตะเกียบเพิ่มคู่หนึ่งครับ”
หลัวเหวินเซวียน “เพื่อนนายกำลังมาเหรอ?”
ลู่โจวกล่าว “ครับ เดี๋ยวมื้อนี้ผมจ่ายเอง ไว้รุ่นพี่เลี้ยงผมรอบหน้าไหม?”
หลัวเหวินเซวียนส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ฉันแค่สงสัยเฉยๆ เพื่อนนายชายหรือหญิง?”
“หญิง…” ลู่โจวตอบ “ทำไมเหรอครับ?”
หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจแล้วเงยหน้าขึ้น “ไม่มีอะไร ฉันแพ้อีกแล้ว”
ลู่โจว “???”
แพ้อะไรหว่า?
…
บางทีการจราจรบนถนนจะดี เพราะลู่โจวรอแค่สิบนาทีเท่านั้น เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามาแล้ว
เฉินยู่ซานเดินเข้ามาแล้วนั่งข้างลู่โจว สีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ขอโทษครับ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณอยู่ที่ฟิลาเดลเฟีย ผมเลยไม่ได้โทรบอกคุณ นอกจากนี้คุณรู้ได้ไงว่าผมนั่งไฟลต์นั้น?”
เฉินยู่ซาน “เมิ่งฉีบอกฉัน…ทำไมนายมาแล้วไม่ยอมบอกฉัน? นายไม่ยอมเปิดโทรศัพท์ด้วย!”
ลู่โจวแอบถอนหายใจ
เป็นไปตามคาด นี่เป็นฝีมือของเมิ่งฉี
อย่างไรก็ตามนี่เป็นความผิดของเขา เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเฉินยู่ซานจะจำแม่นขนาดนี้
หลัวเหวินเซวียนนั่งอยู่อย่างกระอักกระอ่วนจนกระทั่งเอ่ยถามในที่สุด “เธอคือ?”
ลู่โจวนึกขึ้นได้ว่าทั้งสองคนไม่รู้จักกัน เขาเลยยิ้มแล้วแนะนำตัวทั้งสอง
“เธอชื่อเฉินยู่ซาน เรียน MBA จากโรงเรียนธุรกิจวอร์ตันของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ส่วนนี่หลัวเหวินเซวียน เรียนปริญญาเอกที่พรินซ์ตัน”
เฉินยู่ซานยิ้มอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ…” หลัวเหวินเซวียนเริ่มคิด
ลู่โจวสุดยอด
สาวในสวิสก็มี สาวในอเมริกาก็มี…
ทั้งสามคุยกันจนอาหารมาเสิร์ฟ
จากนั้นหลัวเหวินเซวียนก็ชวนทั้งสองทานข้าวอย่างอบอุ่น
เฉินยู่ซานหิวมาก ดังนั้นเธอจึงตักอาหารอย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอกัดเข้าไปคำแรก ลู่โจวก็เห็นแก้มเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
“เผ็ด!”
เธอไม่ได้ตั้งตัว เธอจึงเกือบสำลัก
เธอเผ็ดจนน้ำตาคลอ!
เฉินยู่ซานไอ เธอเช็ดปากแล้ววางตะเกียบลงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบน้ำอย่างรวดเร็ว
ลู่โจวรู้ว่าเธอไม่ถูกกับรสเผ็ด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะขนาดนี้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมิ่งฉีรู้ดีกว่ามาก
“คุณไหวไหม?”
เฉินยู่ซานดื่มน้ำเข้าไปอึกใหญ่แล้วตบหน้าอกตัวเอง ดวงตาของเธอยังริ้นด้วยน้ำตา “ฉันไม่เป็นไร…ทำไมมันถึงเผ็ดขนาดนี้ล่ะ?”
อาหารจีนส่วนใหญ่ในอเมริกาปรุงรสแบบตะวันตก ส่วนใหญ่จะหวานๆ เค็มๆ แม้แต่ร้านอาหารเสฉวนยังไม่มีรสเผ็ดเลย
เธออยู่ฟิลาเดลเฟียมาเป็นเดือนแล้ว แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอทานของเผ็ดขนาดนี้
หลัวเหวินเซวียนยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “เจ้าของร้านนี้เป็นคนจีน เพราะฉันรู้จักเถ้าแก่ร้าน ฉันเลยบอกให้เขาทำรสดั้งเดิม…ขอโทษ ลู่โจวไม่ได้บอกฉัน! ฉันบอกให้เถ้าแก่ทำอย่างอื่นให้คุณไหม?”
ลู่โจวมองเขาเงียบๆ
ทำไมถึงเป็นความผิดของฉันล่ะ?
“ไม่เป็นไร ฉันดื่มน้ำตามเอาก็ได้”
เฉินยู่ซานเติมน้ำใส่ถ้วยจากกาต้มน้ำ
ลู่โจวลังเลชั่วครู่ “ที่จริงนั่นเป็นถ้วยของผม”
เมื่อเขาพูดจบ เธอก็หยุดกาต้มน้ำ
เหตุการณ์เมื่อกี้มันกะทันหันไปหน่อย เธอจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
อย่างไรก็ตามหลังลู่โจวเอ่ยเตือน เฉินยู่ซานก็รู้ตัว
สีหน้าเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง
สุดท้ายเธอก็แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอลุกขึ้นยืนแล้วไปเอาถ้วยใหม่
“โอ้ ฉันจะเอาถ้วยใหม่ให้นาย…”
ลู่โจว “…”
เอาล่ะ…
อย่างน้อยคุณก็ดูเสียใจ
ในทางกลับกันหลัวเหวินเซวียนทานอยู่เงียบๆ
เขาเหมือนก้างขวางคอ
เขาอยากลุกขึ้นด่าลู่โจวจริงๆ
…………………………………