Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 232 ข่าวร้าย
ยิ่งประโยคสั้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความสำคัญเท่านั้น
หลังงานประชุมฟิสิกส์เชิงทฤษฎีนานาชาติที่บรัสเซลส์ ลู่โจวก็คาดการณ์ว่าศาสตราจารย์แฟรงก์อาจมีอะไรจะพูด
เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว
[ผมว่างตลอด คุณว่างตอนไหน?]
เขารออยู่สักครู่ แต่ศาสตราจารย์แฟรงก์ก็ไม่ได้ตอบกลับ
ลู่โจวดูเวลาแล้วเดาว่าแฟรงก์อาจหลับอยู่ เขาลุกขึ้นยืนแล้วไปอาบน้ำก่อนจะเข้านอน
คืนนั้นพวกเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก
เช้าวันต่อมา ลู่โจวลุกจากเตียงแล้วปิดนาฬิกาปลุก จากนั้นเขาก็เช็กกล่องขาเข้าแล้วเห็นอีเมลตอบกลับมา
[ฉันจะไปมหาวิทยาลัยสโตนี่โบรควันมะรืน ฉันจะอยู่ที่นั่นราวสามวัน ถ้าคุณว่าง เราก็มาพบกัน]
ลู่โจวดูปฏิทิน
เขามีบรรยายในอีกสองวัน แต่เขาขอศาสตราจารย์เดอลีงย์หยุดแล้ว
จากนั้นเขาก็ตอบ
[โอเคครับ เจอกันวันมะรืน ผมจะติดต่อคุณไป]
คำตอบของแฟรงก์สั้นมาก
[โอเค]
…
นิวยอร์กตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออก มันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของโลก และเป็นหนึ่งในศูนย์เทคโนโลยีที่สำคัญของอเมริกา
ผู้คนมากมายรู้จักวอลสตรีทและเทพีเสรีภาพ อย่างไรก็ตามมีคนน้อยนิดเท่านั้นที่รู้เรื่องหนึ่งในห้องปฏิบัติการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกอยู่ในลองไอแลนด์ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติบรูคเฮเวน
รางวัลโนเบลมากมายรวมทั้งการค้นพบอนุภาค J ของหลี่เจิ้งเต้าและหยางเจิ้นนิ่งถือกำเนิดที่นี่ มีนักวิจัยและวิศวกรอยู่กันราว สามพันคน และมีนักวิชาการมาทำงานที่นี่ทุกปีไม่ต่ำกว่าสี่พันคน
แม้ว่ามันจะไม่ก้าวหน้าเท่า CERN แต่มันก็ยังน่าประทับใจ
พูดกว้างๆก็คือเครื่องชนอนุภาคตั้งอยู่ที่นี่ ดูจากภายนอกการค้นพบอนุภาคใหม่ๆดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมันไม่ได้เปลี่ยนชีวิตของคน อย่างไรก็ตามการทดลองได้ดึงดูดนักวิชาการมากมายและได้สร้างเครื่องมือที่ก้าวล้ำและก่อให้เกิด’ระบบนิเวศการวิจัยทางวิทยาศาสตร์’
ยกตัวอย่างวงแหวนเก็บข้อมูลของเครื่องชนอนุภาคสภาวะสุญญากาศที่รุนแรง นี่ทำให้เกิดการพัฒนาของเทคโนโลยีสุญญากาศระดับสูงมากซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมและการแพทย์มากมาย
เทคโนโลยีมากมายพัฒนาขึ้นเพราะวิธีนี้
ห้องปฏิบัติการเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงพลังงาน แต่มันถูกจัดการโดยสมาคมวิทยาศาสตร์บรูคเฮเวน ที่ก่อตั้งโดยมหาวิทยาลัยสโตนี่บรูค
เมื่อลู่โจวขับรถมาที่นิวยอร์ก มันก็เป็นวันจันทร์
เขานัดกับศาสตราจารย์แฟรงก์ที่ร้านกาแฟใกล้กับมหาวิทยาลัยสโตนี่บรูค ลู่โจวไม่รู้ว่าทำไม แต่ศาสตราจารย์ทุกคนที่เขาพบชอบกาแฟ
ราวๆ เที่ยง ที่ร้านกาแฟ ศาสตราจารย์แฟรงก์ก็มาถึงพร้อมกับโน๊ตบุ๊คในมือ
“ขอโทษที่มาสาย ฉันมีประชุม”
ลู่โจวยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ผมก็พึ่งมาถึง”
ศาสตราจารย์แฟรงก์นั่งตรงข้ามลู่โจวแล้วกล่าวกับพนักงาน “ฉันขออเมริกาโน่กับแซนด์วิชทูน่า”
พนักงาน “น้ำตาลไหมครับ?”
“ไม่ล่ะ ขอบใจ”
ศาสตราจารย์แฟรงก์วางโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะแล้วเปิดเอกสารก่อนจะกล่าวกับลู่โจว “คุณเอา USB มาใช่ไหม?”
ลู่โจวพยักหน้า จากนั้นเขาก็หยิบ USB ออกมาจากกระเป๋าแล้ววางบนโต๊ะก่อนจะถาม “ผมเอามา…คุณบอกผมได้ไหมว่ามันเป็นเรื่องอะไร? แม้ว่าผมจะไม่รังเกียจที่จะดื่มกาแฟกับคุณ แต่ถ้าเราจะคุยกันแค่เรื่องข้อมูลการทดลอง ทำไมเราไม่ส่งอีเมลเอาล่ะ?”
ศาสตราจารย์แฟรงก์ไม่ได้ตอบคำถามเขา เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการใช้โน๊ตบุ๊ค เขาเปิดกราฟแล้วหันโน๊ตบุ๊คมาให้ลู่โจวดู
เมื่อลู่โจวเห็นกราฟ เขาก็ถาม “มันคือ?”
ศาสตราจารย์แฟรงก์ขยับเก้าอี้มาใกล้ลู่โจวแล้วชี้ไปที่กราฟ
“นี่เป็นข้อมูลการทดลองครั้งล่าสุดของ CERN สองกราฟบนเป็นเส้นโค้งการกระจายและกราฟสถิติของขอบเขตพลังงานที่รวบรวมโดย ATLAS และ CMS คุณควรเห็นว่าทำไมกราฟนี้ถึงมีความหมาย”
ลู่โจวจ้องมองกราฟอยู่ครู่นึงก่อนจะกล่าว “ระดับความมั่นใจลดลง?”
ศาสตราจารย์แฟรงก์ถอนหายใจ “ใช่ ไม่ว่าเราจะทดลองกี่ครั้ง เราก็ไม่ถึงระดับความมั่นใจสามซิกม่า และคุณสมบัติสูงสุด 750 GeV ที่เราเห็นตอนปีที่แล้วก็หดหายไป…เพราะงั้นระดับความมั่นใจถึงลดลง”
ลู่โจวจ้องกราฟพักใหญ่และไม่ได้พูดอะไร
เขาเดาได้แล้วว่าทำไมศาสตราจารย์แฟรงก์ถึงอยากมาคุยกับเขาด้วยตัวเอง
ศาสตราจารย์แฟรงก์เห็นว่าลู่โจวไม่พูดอะไร เขาจึงกล่าวต่อ
“งานประชุมทฤษฎีเชิงทฤษฎีในบรัสเซลส์นั้นยิ่งใหญ่มาก น่าเสียดายที่คุณพลาด…”
“…รายงานการค้นพบล่าสุดเกี่ยวกับตัวเร่งความเร็วทำโดยประธานสภา CERN ที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ คุณฟลาบลิโอล่า เจียนาโน่ การพรีเซนต์เต็มไปด้วยผู้คน บางคนถึงขั้นนั่งกับพื้น…”
“…การรายงานนั้นพูดอยู่หลายเรื่องและการค้นพบ 750 GeV ของ CERN ก็ใช้เวลาพูดไปยี่สิบนาที…”
“…คุณน่าจะเข้าใจกราฟนี้ หรือคุณจะเอากลับไปศึกษาก็ได้” ศาสตราจารย์แฟรงก์กล่าวแล้วถอนหายใจ “แม้ว่ามันจะไม่มีความหมายอีกแล้วก็ตาม”
ลู่โจวไม่ได้มองหน้าจอโน๊ตบุ๊ค กลับกันเขามองหน้าศาสตราจารย์แฟรงก์และรออีกฝ่ายพูดแทน
ศาสตราจารย์แฟรงก์ยักไหล่ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากให้มันหดหู่ “แต่ไม่ว่ายังไง คุณก็ช่วยได้มากเลย ตั้งแต่พฤษภาปีที่แล้วจนถึงสองเดือนก่อน มีวิทยานิพนธ์จำนวนมากปรากฏบน arXiv ส่วนใหญ่จะเป็นแบบจำลองฟิสิกส์ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้อง แต่มันก็ยังมีประโยชน์ นอกจากนี้มีสองวิทยานิพนธ์ที่เราเขียนร่วมกัน มันยังถูกคนอื่นเอาไปอ้างอิงหลายครั้ง”
แม้ว่าแฟรงก์จะพยายามปลอบลู่โจว ลู่โจวก็ไม่รู้สึกสบายใจเลย
ลู่โจวใช้เวลากว่าครึ่งปีกับโปรเจกต์นี้ สำหรับนักฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ครึ่งปีมันไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับลู่โจวนั้นแตกต่างกัน
ไม่ใช่แค่เพราะเวลาอันมีค่าของเขาถูกใช้ไปกับการสร้างแบบจำลองที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น แต่เป็นเพราะความหวัง 750 GeV ของเขาถูกบดขยี้…
ลู่โจวสูดหายใจลึกๆแล้วมองศาสตราจารย์แฟรงก์ก่อนจะกล่าว “ตกลงคุณจะพูดอะไร?”
ศาสตราจารย์แฟรงก์ไม่ได้ตอบ ซึ่งยืนยันการคาดเดาของเขาแล้ว
ชายชราลุกขึ้นยืนถอดหมวกออก แล้วพยักหน้าแสดงความขอบคุณ
“มันชัดเจนแล้วว่าจากแผนการทดลองของ CERN หลังจากวันที่หนึ่งมกราคมจะไม่มีการทดลองที่เกี่ยวกับคุณสมบัติสูงสุด 750 GeV อีก นี่เป็นเพราะทุกการชนกันของอนุภาคเป็นการผลาญเงิน ฉันมีความสุขที่ได้ทำงานกับคุณ ฉันขอขอบคุณอย่างจริงใจ แต่…”
ศาสตราจารย์แฟรงก์กระแอมแล้วกล่าวด้วยท่าทีเสียใจ “เหตุผลบอกกับเราว่า การสร้างแบบจำลองที่อธิบายว่าทำไมถึงไม่มี 750 GeV นั้นง่ายกว่าการหาอนุภาคที่ไม่มีอยู่จริงนี้มาก”
เห็นได้ชัดว่าโปรเจกต์นี้ไม่มีความหมายอีกต่อไป
การอธิบายอนุภาคที่ไม่มีอยู่จริงที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้นั้นไม่ใช่การทดลองที่ควรแก่การวิจัย บางทีการทดลองอาจช่วยให้นักฟิสิกส์ของอนุภาคตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ได้หลายฉบับ แต่มันไม่มีอะไร’ใหม่’เลย
ลู่โจวเงียบไปพักใหญ่
เขาตัดสินใจแล้วพูด “แต่ผมยังไม่ยอมแพ้”
ศาสตราจารย์แฟรงก์ไม่พูดอะไร กลับกันเขาสวมหมวกคืนแล้วถอนหายใจ “งั้นฉันขอให้คุณโชคดี”
…………………………………..