Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 254 กลับมาพร้อมกับชัยชนะ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 254 กลับมาพร้อมกับชัยชนะ
ข่าวเดินทางไวกว่าเครื่องบินอีก ก่อนที่ลู่โจวจะได้บินกลับ ข่าวก็แพร่ไปทั่วประเทศแล้ว
ข่าวแรกย่อมเป็นการสัมภาษณ์ของ CTV
อย่างไรก็ตามมันแตกต่างจากการออกข่าวครั้งก่อน ครั้งนี้ CCTV ทำเหมือนเป็นข่าวร้อนแรง พวกเขาเอาข่าวไปออกช่องหลักและใช้เวลาหนึ่งนาทีในการพูดถึงข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคและรางวัลคลอฟอร์ด
คนส่วนใหญ่รู้จัก’1+2’ของเฉินจิ่งรุ่นและคุ้นเคยกับข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัค อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักรางวัลคลอฟอร์ด
เพราะยังไงเสียก็ไม่เคยมีคนจีนเคยชนะรางวัลนี้มาก่อน ดังนั้นประเทศจึงไม่เปิดเผยเรื่องนี้ มีแต่คนในวงการเท่านั้นที่รู้จักรางวัลคลอฟอร์ด ส่วนคนอื่น พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง
อย่างไรก็ตามตอนนี้มีคนจีนชนะรางวัล สถานการณ์จึงแตกต่างกัน
เมื่อเทียบกับวิทยาศาสตร์ประยุกต์ วิทยาศาสตร์พื้นฐานเป็นสาขาที่อ่อนแอของประเทศจีน แม้รางวัลคลอฟอร์ดจะไม่สำคัญเท่ารางวัลโนเบล แต่มันยังค่อนข้างได้รับความเคารพในสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
การกำเนิดขึ้นของนักวิชาการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นจะเพิ่มความมั่นใจและเป็นแรงขับเคลื่อนให้แก่ประเทศ แม้ว่าวิทยานิพนธ์จะไม่ส่งผลทันที แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อทั้งสาขา
ณ เมืองเจียงหลิง ครอบครัวลู่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
มีข่าวกำลังเล่นบนทีวี
ยิ่งกว่านั้นมันยังเป็นฉากการสัมภาษณ์ระหว่างลู่โจวกับ CTV
เมื่อเสี่ยวถงได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย เธอก็เงยหน้ามอง ทันทีที่เธอเห็นหน้าพี่ชายบนทีวี แววตาของเธอก็พลันเบิกกว้าง
“เชี่ย…พี่?!”
“อย่าสบถสิ! ลูกจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ทำตัวให้สง่าหน่อย”
ฟางเหมยตำหนิเสี่ยวถง แต่เธอไม่ได้โกรธมากนัก เพราะเธอก็กำลังสนใจทีวีเหมือนกัน
ส่วนลู่ปังกั๋ว เขาตะลึงมาก เขากระทั่งหยุดมือกินข้าว
“เด็กคนนี้…ชนะรางวัลโนเบล?”
เสี่ยวถงกล่าว “พ่อ พ่อตาบอดเหรอ? พี่ชนะรางวัลคลอฟอร์ดต่างหาก”
“เฮ้ ลูกอย่าเรียกพ่อว่าตาบอดนะ…” ลู่ปังกั๋วดุ อย่างไรก็ตามเขาก็กลั้นยิ้มไม่ได้
เขาเลิกทานแล้วเดินไปเอาโทรศัพท์เพื่อโทรหาลูกชาย
โทรสายแรกไม่ติด
สายที่สอง ลู่โจวก็รับสาย
“เฮ้ ลูกไปได้สวยเลยนี่ ทำไมลูกไม่บอกเรา?”
เมื่อลู่โจวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยขณะพึ่งลงจากเครื่อง เขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมอยากเซอร์ไพรส์พ่อแม่”
ลู่โจวรู้สึกว่ามันคงน่าเบื่อแย่ถ้าจะบอกข่าวบนโทรศัพท์ พ่อเขาอาจไม่รู้ความแตกต่างของรางวัลคลอฟอร์ดและรางวัลโนเบลด้วยซ้ำ ยังไงทีวีก็จะฉายการสัมภาษณ์ของเขา เขาจึงอยากเซอร์ไพรส์ครอบครัว
“ผมพึ่งลงจากเครื่อง…มีคนโทรหาผม ผมต้องไปแล้ว ผมจะกลับบ้านในอีกสองวัน”
ลู่ปังกั๋วยิ้ม “ลูกค่อนข้างยุ่งใช่ไหม? ใครโทรหา?”
ลู่โจว “ผมคิดว่าเป็นทางมหาวิทยาลัย บายครับ”
และลู่โจวก็พูดถูกจริงๆ มันเป็นสายจากมหาวิทยาลัยจินหลิง
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญว่าเขาจะรับไหม ทันทีที่เขารับสาย เขาก็เห็นคณบดีฉินที่อยู่ในสายและนักศึกษาหลายคนกำลังถือป้ายอยู่ทางเข้าสนามบิน
[ขอแสดงความยินดีด้วยลู่โจว ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์สถาบันการศึกษาขั้นสูงพรินซ์ตัน ผู้พิชิตข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคและชนะรางวัลคลอฟอร์ด]
ป้ายใหญ่มากจนลู่โจวก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นไม่ได้
นอกจากนี้มันไม่ใช่แค่อาจารย์ใหญ่สวี่กับคณบดีฉิน ลู่โจวยังเห็นเลขาหลิวและคนที่สวมชุดสูทที่เขาไม่เคยเจอด้วย
มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นคนแปลกหน้าไหม ในฐานะนักวิชาการชื่อดัง เขาต้องใช้เวลารับมือกับนักการเมืองบ้าง
เนื่องจากสถานะของลู่โจวคือผู้ชนะรางวัลคลอฟอร์ด เขาจึงถูกรัฐบาลโฆษณาอย่างหนัก สองปีที่แล้ว เขาเป็นเพียงผู้มีสิทธิ์ชนะเหรียญฟิลด์เท่านั้น
ในฐานะนักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับโลก กฎหลายอย่างจึงใช้กับเขาไม่ได้
เมื่ออาจารย์สวี่เห็นลู่โจว เขาก็เข้ามาจับมืออย่างแนบแน่น
“ศาสตราจารย์ลู่โจว คุณนำพาเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่มาสู่มหาวิทยาลัยจินหลิงและประเทศของเรา ในนามของอาจารย์และนักศึกษาทุกคนของมหาวิทยาลัยจินหลิง เราขอขอบคุณ!”
ลู่โจวยิ้มอย่างถ่อมตน “อาจารย์ใหญ่ คุณสุภาพเกินไป ผมแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำในฐานะนักวิชาการ”
อาจารย์ใหญ่สวี่เป็นนักวิชาการ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่สาขาคณิตศาสตร์ แต่เขาศึกษาการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูล ในฐานะนักวิชาการ เขารู้ว่าลู่โจวไม่อยากเสียเวลากับการฉลอง ดังนั้นเขาจึงไม่เตร็ดเตร่อยู่ที่สนามบินนานนัก
อาจารย์ใหญ่พูดและแนะนำลู่โจวให้กับเลขาหลิวและนักการเมืองคนอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองสองคนที่มาจากมณฑลเช่นกัน พวกเขาแสดงให้เห็นว่าประเทศให้ความสำคัญกับเขา
ไม่ใช่แค่นั้น ผู้นำระดับมณฑลยังเปิดเผยข่าวนึงบอกว่าแม้แต่รัฐบาลกลางก็ให้ความสำคัญกับลู่โจวอย่างสูง
นักการเมืองระดับมณฑลแค่เผยรอยยิ้มเท่านั้น พวกเขาไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร
ลู่โจวไม่อยากอยู่สนามบินนานนัก เขาจึงรีบขึ้นรถที่จัดเตรียมโดยมหาวิทยาลัย
คณบดีฉินและอาจารย์ใหญ่สวี่นั่งรถคันเดียวกับลู่โจว
หลังคุยกันเล็กน้อย คณบดีฉินและอาจารย์ใหญ่สวี่ก็กระแอมแล้วเปลี่ยนหัวข้อ
“…ข้อตกลงเป็นแบบนี้ หลังหารือกับมหาวิทยาลัยและทางสาขาวิชา เราอยากมอบตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ให้แก่คุณ คุณสนใจไหม?”
ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์นั้นแตกต่างกับศาสตราจารย์อาคันตุกะและศาสตราจารย์พิเศษ อย่างแรกเป็นแค่ตำแหน่งเท่านั้น แต่อย่างหลังมีสัญญาจ้างงานและตำแหน่ง
ด้วยชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยจินหลิงและมรดกทางประวัติศาสตร์ การมีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์จะมอบประโยชน์ให้ลู่โจวแน่นอน อย่างไรก็ตามสาขาคณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยจินหลิงค่อนข้างอ่อนแอ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้สนใจ เพราะยังไงเสียมหาวิทยาลัยจินหลิงก็สั่งสอนเขามามาก เขาภูมิใจที่ได้เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยจินหลิง
ลู่โจวยิ้ม “แน่นอน แต่ขั้นตอนคงไม่กินเวลามากใช่ไหมครับ? ผมจะกลับเจียงหลิงในอีกไม่กี่วัน”
เสี่ยวถงกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าหากใช้เวลานานเกินไป เขาจะได้มาจัดการก่อนกลับไปอเมริกา
เขาใช้วันหยุดยาวหนึ่งเดือน ดังนั้นเขาจึงมีเวลาเหลือเฟือ
คณบดีฉินยิ้ม “มันใช้เวลาไม่นาน เอกสารส่วนใหญ่ถูกเตรียมไว้แล้ว เรามอบใบรับรองศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์และใบปริญญาเอกให้คุณได้เลยหลังคุณจบการบรรยาย!”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นก็ขอบคุณมากครับ!”
…………………………………