Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 27
ตอนที่ 27 สมองว่างเปล่าเกินไป ไปเรียนเพิ่มซะ!
หลังจากรู้เรื่องนี้ ลู่โจวก็ดึงสมาธิกลับมาที่ปัญหาที่แท้จริง
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าวในใจ
“ระบบ เปิดแผงหน้าต่างตัวละคร”
หน้าจอข้อมูลกึ่งโปร่งใสเด้งขึ้นมา
[
แก่นของวิทยาศาสตร์ :
A คณิตศาสตร์ : ระดับ 1 (0/10000)
B ฟิสิกส์ : ระดับ 0 (100/1000)
C ชีววิทยา : ระดับ 0 (0/1000)
D วิศวกรรม : ระดับ 0 (0/1000)
E วัสดุศาสตร์ : ระดับ 0 (0/1000)
F วิทยาการพลังงาน : ระดับ 0 (0/1000)
G วิทยาการสารสนเทศ : ระดับ 1 (0/10000)
แต้มทั่วไป : 925 (ตั๋วเสี่ยงโชค 1 ใบ)
ภารกิจ : ไม่มี (ภารกิจรางวัล*1)
]
ค่าประสบการณ์ขึ้นระดับ 2 มันเพิ่มเลขศูนย์มาให้อีกหนึ่งหลัก ลู่โจวคิดถึงแต้มประสบการณ์ 1000 แต้มที่หาได้ยากแล้วอดรู้สึกท้อไม่ได้
อย่างน้อยรางวัลของภารกิจก็จะเพิ่มขึ้นเมื่อระดับฉันเพิ่มเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเพราะแบบนี้ความยากของภารกิจจึงเพิ่มขึ้นแล้ว
เขาแค่หวังว่าระบบขยะนี่จะไม่มอบภารกิจอย่าง’ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์SCI 100 ฉบับ’ให้เขา
เพราะนั่นจะฆ่าเขาเอาจริงๆ!
ลู่โจวไม่ได้ใช้ตั๋วเสี่ยงโชคในทันที กลับกันเขาออกจากมิติของระบบแทน เขาเข้าไปในห้องน้ำแล้วล้างหน้าในอ่างล้างหน้า จากนั้นเขาก็กลับมาที่เตียงและล้มตัวลงก่อนจะกลับเข้าไปในมิติของระบบ
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและมองดูวงล้อในหน้าจอข้อมูล เขาเปล่งเสียงออกมา
“เริ่มเสี่ยงโชค!”
“…”
“หยุด!”
เขามองดูลูกศรด้วยสีหน้าว่างเปล่าและจิตใจสงบ
[ขอแสดงความยินดีด้วย ท่านได้รับตัวอย่าง!]
นอกจากพิมพ์เขียว ทุกอย่างเป็นรางวัลขยะ
แม้ว่าฉันจะได้พิมพ์เขียว มันก็เป็นแค่ทฤษฏีพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่ได้คาดหวังกับระบบนี้ เขาแค่อยากเสี่ยงโชคให้เสร็จแล้วเริ่มทำภารกิจเพื่อรับแต้มทั่วไป
[รางวัล : แคปซูลสมาธิ (40 แคปซูลต่อขวด ระยะใช้งาน 5 ชั่วโมง ไม่สามารถใช้ต่อเนื่องได้ใน 24 ชั่วโมง หลังจากทานแคปซูล มันจะปรับปรุงการทำงานของเซลล์สมองและเพิ่มความเร็วการดูดซึมความรู้และความสามารถในการคิดเชิงตรรกะ)]
เอิ่ม…
อะไรนะ???
ลู่โจวเห็นคำแนะนำข้างหลังแล้วสูญเสียความเยือกเย็น เขาเกือบเอาหน้าแนบหน้าจอแล้ว
แคปซูลสมาธิ!?
เชี่ย นี่เป็นของดี!
สี่สิบคูณห้าเท่ากับ 200 ชั่วโมง! ถ้าหากมันมีผลเหมือนกับตอนภารกิจแรก เขาก็สามารถอ่านหนังสือจำนวนมหาศาล!
บางทีพิธีการลับในการเสี่ยงโชคคือการสงบใจแทนการล้างหน้า?
ลู่โจวหลั่งน้ำตาในใจ เขาตัดสินใจแล้วว่าครั้งหน้าเขาจะสงบสติอารมณ์ตัวเองลง
ลู่โจวไม่อยากให้โชคหายไปซะก่อน เขาจึงไม่ได้พูดอะไรและเลือกภารกิจรางวัล
[ภารกิจรางวัลเริ่มต้นขึ้น]
[
ภารกิจ : ภารกิจรางวัล (ยกเลิกได้ตลอดเวลา ไม่มีการปรับแต้มทั่วไป)
คำอธิบาย : ความรู้ของโฮสต์ต่ำเกินไป ระบบจึงเลือกหนังสือที่มีคุณภาพให้เพื่อเติมเต็มสมองที่ว่างเปล่าของท่าน!
สิ่งที่ต้องทำ : อ่านหนังสือในรายชื่อให้เสร็จ (0/30) นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจเนื้อหาในหนังสือโดยสมบูรณ์
รางวัล : 1000 แต้มประสบการณ์ของสาขาที่โฮสต์เลือก
ปลดล็อคสาขาเทคโนโลยี – ปัญญาประดิษฐ์ ระดับ 0
]
ลู่โจวมองภารกิจบนหน้าจอแล้วพูดไม่ออก
เขาไม่ได้เสียสติไปเพราะสิ่งที่ต้องทำในภารกิจ แต่เป็นคำอธิบาย
แกหมายความว่ายังไงสมองว่างเปล่า?
ฉันได้คะแนนเต็มในคณิตวิเคราะห์และพีชคณิตขั้นสูง!
ลู่โจวรู้สึกถึงความคิดร้ายๆจากระบบ แต่เขาก็ยังมีความสุขกับรางวัล
มันเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสาขาเทคโนโลยี
เขาไม่รู้ว่าทำไมระบบถึงแยกปัญญาประดิษฐ์ออกจากวิทยาการสารสนเทศให้เป็นสาขาเทคโนโลยีแยกออกมา
การเพิ่มระดับปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่ยาก เขามีวิทยาการสารสนเทศระดับ 1 แล้ว เขาแค่ต้องทำภารกิจให้เสร็จแล้วใช้ 100 แต้มทั่วไปอัพเกรดสาขาเทคโนโลยี
ลู่โจวเปิดรายชื่อหนังสือที่ระบบมอบให้
[สมการเชิงอนุพันธ์สามัญ]
[ทฤษฏีฟังก์ชันของตัวแปรเชิงซ้อน]
[ฟิสิกส์ระดับมหาลัย]
[เคมีอนินทรีย์]
[เคมีอินทรีย์]
[ชีวะเคมี Lehninger]
[การออกแบบวิศวกรรมเครื่องกล]
[การออกแบบICเบื้องต้น]
[การสร้างและตีความโปรแกรมคอมพิวเตอร์]
[…]
จากคณิตศาสตร์ไปจนถึงวิทยาการสารสนเทศ ความรู้ของหนังสือเหล่านี้ครอบคลุมสาขาสายเทคโนโลยีเกือบทั้งหมด
“…”
ลู่โจวประเมิณเนื้อหาของหนังสือในรายการอย่างคร่าวๆแล้วพูดไม่ออกไปชั่วครู่
ในที่สุดเขาก็ต้องยอมรับว่าสมองเขาว่างเปล่าจริงๆ
ฉันเดาว่าบนโลกนี้คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ถือว่าฉลาดตามมาตรฐานของระบบ
จะว่าไปบนโลกจะมีใครเชี่ยวชาญทุกสาขาด้วยหรือ? แม้แต่หัวข้อนึงยังแบ่งออกเป็นสาขาจำนวนนับไม่ถ้วนพร้อมกับทิศทางวิจัยนับไม่ถ้วน
บางทีระบบอาจเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับตัวมนุษย์?
ลู่โจวคิดว่ามันเป็นไปได้
…..
ลู่โจวออกจากพื้นที่ของระบบแล้วลุกจากเตียง จากนั้นก็หยิบเอาโน๊ตบุ๊คข้างๆขึ้นมา
เขาเปิดอีเมลล์แล้วเห็นว่าศาสตราจารย์หลิวได้ส่งโจทย์เข้ามาในกล่องขาเข้าแล้ว
พวกเขาวางแผนกันในระหว่างการฝึกครั้งล่าสุด ลู่โจวจะสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์แล้วเขาจะส่งมันให้หลินอวี่เซียงและหวังเสี่ยวตงเพื่อให้พวกเขาเขียนโปรแกรม จากนั้นพวกเขาก็จะส่งมันกลับมาให้ลู่โจวเพื่อให้เขาเขียนวิทยานิพนธ์ สุดท้ายลู่โจวก็จะส่งทั้งหมดให้ศาสตราจารย์หลิว
ศาสตราจารย์หลิวคำนึงว่าทุกคนต่างก็ไม่ค่อยมีเวลาและเขาก็มีโปรเจ็คของตนด้วย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจมอบโจทย์ข้อนึงให้ทุกวันจันทร์ ส่วนเวลาที่เหลือ พวกเขาอ่านหนังสือและฝึกฝนเพิ่มเติมด้วยตนเอง
ลู่โจวรีบสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ให้เสร็จแล้วส่งข้อมูลให้ทั้งสอง จากนั้นเขาก็บิดขี้เกียจแล้วปิดโน๊ตบุ๊ค
แม้ว่าการสอบของมหาลัยจะจบแล้ว แต่ภารกิจของเขาพึ่งเริ่มต้น เขาไม่อยากเสียเวลาเปล่า ดังนั้นเขาจึงเตรียมไปห้องสมุด
เขาใส่เสื้อผ้าแล้วกำลังจะปีนลงจากเตียง แต่แล้วจู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูห้อง
“หลิวรุ่ย ไปเปิดประตูที” หวงกวงหมิงกล่าว เขาสวมรองเท้าแตะและกำลังเล่นเกมอยู่
หลิวรุ่ยก็เล่นเกมอยู่เช่นกัน แต่เขากำลังเล่นตัวซัพพอร์ตที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงไม่โกรธกับคำขอของหวงกวงหมิงเลย เขาเปิดประตูแล้วรีบกลับมานั่ง
กลายเป็นว่าเป็นหัวหน้าห้องเถียนจวิ้นที่มาเคาะประตู เขาเดินเข้ามาแล้วยิ้ม “พวกนายเล่นเกมกันอยู่เหรอ”
สือช่างตอบ “แน่นอน! หัวหน้า สอบเสร็จแล้ว เราจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่?”
เถียนจวิ้นยิ้มแล้วกล่าวต่อ “มีประชุมห้องตอนบ่าย เราจะคุยเรื่องแผนวันหยุดกัน เอ้อ นายได้คิดเรื่องการสมัครการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ไหม? ถ้านายได้คะแนนสอบพีชคณิตขั้นสูงและคณิตวิเคราะห์เกิน 80 ทางมหาลัยจะจัดการฝึกภาคฤดูร้อนให้”
หวงกวงหมิงกับสือช่างตอบพร้อมกัน “เราไม่ไป!”
หลิวรุ่ยชะงักสักครู่แล้วถาม “นายลงสมัครเองไม่ได้เหรอ? มันต่างกับทางมหาลัยสมัครให้ยังไง?”
เถียนจวิ้นยิ้มแล้วตอบ “ถ้านายสมัครเอง นายต้องไปหาอาจารย์ผู้สอนเอง ทีมมหาลัยมีอาจารย์เฉพาะด้านมาจัดทีมให้ แต่มีคนมากมายมาสมัคร ดังนั้นมันอาจมีการคัดออกหลายรอบ มันต้องให้เหลือประมาณ 60 คนหรือให้เหลือประมาณ 20 ทีม”
แม้ว่าหลิวรุ่ยจะไม่พอใจกับการฝึกช่วงฤดูร้อน แต่เขารู้ว่าลู่โจวจะอยู่มหาลัยช่วงฤดูร้อน นี่จึงทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะโดนแซง
หลิวรุ่ยเลิกลังเลแล้วกล่าว “สมัครให้ฉันเลย!”
“โอเค ฉันจะเขียนชื่อนาย” เถียนจวิ้นกล่าว เขายิ้มแล้วมองลู่โจว “ลู่โจว แล้วนายล่ะ? นายสมัครไหม?”
“ฉันสมัครแล้ว” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้มถ่อมตน
หวงกวงหมิงประหลาดใจ เขาหันหน้าไปถามลู่โจว “ว้าว โจว พีชคณิตขั้นสูงยากมาก นายได้ 80 คะแนนจริงๆ?”
ผลสอบออกมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว นอกจากลู่โจว ทุกคนในห้องพักต่างก็เทียบคะแนนกันแล้ว มันเป็นเหมือนเทอมที่แล้ว หลิวรุ่ยยังคงเป็นที่หนึ่ง หวงกวงหมิงได้ที่สองด้วยคะแนน 88 คะแนน ส่วนสือช่างดิ้นรนได้ 80 คะแนน
ที่พวกเขาไม่ได้ถามคะแนนลู่โจวไม่ใช่เพราะพวกเขากีดกันเขา แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากทำให้เขาโกรธ ดังนั้นพวกเขาจึงระมัดระวังไม่พูดถึงมัน
สุดท้ายแล้วทั้งสามก็จำได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าหมอนี่ออกห้องสอบตอนครึ่งชั่วโมงแรก
เขาจะเขียนอะไรได้ในครึ่งชั่วโมง?
แค่โจทย์ยาวๆสักข้อยังไม่รู้จะเขียนทันไหม
หลิวรุ่ยเห็นกับตาว่าลู่โจวทำข้อสอบเสร็จ แต่เขายังไม่อยากจะเชื่อ เขาเขียนคำตอบอย่างระมัดระวัง เขาอยากจะเชื่อว่าลู่โจวเดาข้อสอบส่วนใหญ่
ลู่โจวชะงักแล้วครุ่นคิดว่าเขาควรจะบอกหวงกวงหมิงดีไหมว่าเขาได้คะแนนสอบทั้งสองวิชาเท่าไหร่
มันเต็มทั้งสอง มันน่ากลัวเกินกว่าจะพูดได้
เรือแห่งมิตรภาพอาจจมได้
หัวห้องหน้าเข้าใจผิด เขาคิดว่าลู่โจวลังเลเพราะเขาสอบได้ไม่ดี เขาหัวเราะอย่างกระอักกระอ่วนแล้วกล่าว “มันไม่มีข้อกำหนดสำหรับการลงสมัครด้วยตนเอง ถ้านายได้ไม่ถึง 80 ก็ไม่เป็นไร เอาล่ะ มีแค่นี้แหละ หลิวรุ่ย นายแน่ใจไหม? ฉันจะได้เขียนชื่อนาย”
“ฉันแน่ใจ” หลิวรุ่ยพยักหน้า เขามั่นใจ
อันที่จริงเขามั่นใจเรื่องนี้นานแล้ว
ไม่ใช่แค่เขาอยากเข้าร่วมเท่านั้น แต่เขายังอยากชนะด้วย!
นี่คือความตั้งใจของเขา วันหยุดฤดูร้อนมีแค่สองเดือนเท่านั้น แม้แต่ลู่โจวก็สมัคร เขาจะยอมล้าหลังได้อย่างไร!