Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 277 ผม ลู่โจว ไม่ชอบเงิน
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 277 ผม ลู่โจว ไม่ชอบเงิน
หลังฟังคำพูดของลู่โจว หลี่ว์ไคหมินก็คิดเล็กน้อย
จากนั้นสักครู่เขาก็กล่าว “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่มีค่า เราจะเก็บไปพิจารณาอย่างจริงจัง”
ลู่โจวพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก
เขาไม่จำเป็นต้องอาศัยคำพูดเพื่อขอเงินทุน ดังนั้นคำพูดของเขาจึงค่อนข้างตรงไปตรงมา
เขามอบคำแนะนำไปแล้ว ไม่ว่าคำแนะนำของเขาจะถูกทำตามหรือไม่ก็ไม่ใช่ธุระกงการของเขา
อย่างไรก็ตามคุณหลี่ว์ไม่ได้มาขอความเห็นของเขาคนเดียว เขายังต้องรวบรวมความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหลายคน หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ทุกคำพูดของวิศวกรแบตเตอรี่ล้วนมีค่า
ทุกคนทานข้าวกันต่อ พูดกันเรื่อยเปื่อยไม่มีเรื่องจริงจังอะไร
คณบดีหลีและคุณหลี่ว์เริ่มหยอกล้อลู่โจวเรื่อง ‘หาแฟน’ และ’สาวจีนหรือสาวผมทอง’
หลังคุยกับคุณหลี่ว์ ลู่โจวก็พลันตระหนักว่าความกังวลของเขาสงบลงโดยไม่รู้ตัว
มันไม่ใช่เรื่องที่จะสำเร็จในทันที
เขาพบว่าการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของเขาไม่ได้มีค่าแค่ในชุมชนวิชาการเท่านั้น แต่ยังมีค่าในอุตสาหกรรมด้วย
ความเจริญและความเสื่อมโทรมของบริษัท การพัฒนาของประเทศ และแม้แต่อนาคตของโลกจะได้รับอิทธิพลจากวิทยานิพนธ์ของเขา
เขาไม่จำเป็นต้องตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ด้วยซ้ำ
มันไม่ได้พูดเกินจริงเลยว่าเขาแค่ยกนิ้วขึ้นมาแล้วพิมพ์ว่า ‘แบตเตอรี่ลิเธียมเป็นของดี’ จากนั้นก็อัปโหลดลงบนเว่ยป๋อ วันต่อมาเงินทุนวิจัยจะถูกเทมาทางทิศทางนี้ทันที ถ้าเขานำเสนอพาวเวอร์พอยนต์ งั้นราคาหุ้นของบริษัทจะดีดตัวขึ้นมาก…แน่นอน ถ้ามันไม่ถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญก็จะเยาะเย้ยพาวเวอร์พอยนต์เขา
แม้ว่าผลงานของเขาจะเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับโลก แต่ผลของมันเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ในทางตรงกันข้าม เงินสี่ร้อยล้านเหรียญสหรัฐดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้นอีกต่อไป…
เอิ่ม…
ก็ได้
มันน่าตื่นเต้นนิดหนึ่ง
…
วันต่อมา งานประชุมเอ็มอาร์เอสก็ดำเนินต่อ ลู่โจวได้ให้ความสนใจกับการบรรยายที่น่าสนใจมากมาย
นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะเรียนรู้งานวิจัยที่ล้ำสมัยของสาขานี้ ใครที่อยากเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ย่อมไม่อยากพลาดโอกาสไป
มันไม่ใช่แค่แลกเปลี่ยนความคิดทางวิชาการเท่านั้น
ลู่โจวได้พบกับคนที่น่าสนใจหลายคนที่การบรรยาย แถมเขายังได้พบกับบุคคลที่เป็นตำนานด้วย
คนๆ นั้นก็คือเดวิด ชอว์ ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในสาขาเคมีเชิงคำนวณ
เขามาเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียตอนอายุสามสิบปี และเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาการคำนวณแบบขนานขนาดใหญ่ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในชุมชนวิชาการ
มหาวิทยาลัยโคลัมเบียตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ศูนย์กลางของธุรกิจชั้นนำของโลก ธุรกรรมหลักล้านเหรียญเกิดขึ้นทุกนาที เป็นสถานที่ที่รายล้อมด้วยสาวสวยและรถยนต์…
ไม่ว่าใครก็จะได้รับผลกระทบจากการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
เดวิด ชอว์ก็ไม่มีข้อยกเว้น หลังสอนเป็นศาสตราจารย์มาหลายปี เขาก็อดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจเข้าสู่ลีกสำคัญบนวอลสตรีต
คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เขาคงล้มเหลวเหมือนศาสตราจารย์ส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตามผลสุดท้ายทำให้ทุกคนอึ้ง ด้วยเวลาไม่ถึงสิบปี เขาได้สร้างชื่อให้ตัวเองบนวอลสตรีต
ด้วยบริษัทเทรดด้วยความถี่สูงการคำนวณแบบขนานของเขา ระบบเทรด Quant Hedge Fund ของเดวิดมีมูลค่าถึงสี่พันหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐ
เห็นได้ชัดว่า เวลานี้ เขาบรรลุสิ่งที่เขาต้องการแล้ว
ถ้าเป็นแบบนี้ ชื่อในตำนานของเขาจะยังอยู่แค่ในวอลสตรีต ในหมู่นายธนาคาร
อย่างไรก็ตามขณะที่เขาอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ จู่ๆ เขาก็ตระหนัก
ใช่แล้ว คนๆนี้พบว่าตนเองไม่อยากใช้ชีวิตเป็นผู้จัดการ hedge fund ที่ร่ำรวย!
เขาพบว่ามันไร้ความหมาย
ขณะที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ เดวิดถอดเสื้อกั๊กขนแกะปาตาโกเนียและกลับเข้าสู่โลกวิชาการ
สำหรับคนร่ำรวยอย่างเขา เขาไม่ต้องคุกเข่าหรือเลียแข้งเลียขาเจ้าหน้าที่เพื่อเงินวิจัย เขามีเงินแทบไม่จำกัด เขาสามารถออกทุนเองเพื่อวิจัยตามที่ตนเองต้องการ
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไบโอเทคเคมีงั้นเหรอ?
เขาจะเช่าหรือจะซื้อ?
ไม่ เขาสร้างขึ้นมาเอง!
ยานรบแห่งโลกพลวัตโมเลกุล ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ‘แอนตัน’ ก็ถือกำเนิดขึ้น
จุดประสงค์พิเศษของแอนตันก็คือการจำลองสถานการณ์การรวมตัวกับโปรตีน
“…คุณเป็นอัจฉริยะที่ศึกษาคณิตศาสตร์ ฉันเป็นอัจฉริยะที่ศึกษาการคำนวณแบบขนาน เราสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกรอบงานใหม่สำหรับทั้งอุตสาหกรรมเชิงคำนวณ ลองคิดดู อีกหนึ่งร้อยปีต่อมา ผู้คนจะพูดถึงชื่อของเราในหอแห่งเกียรติยศสาขาเคมีเชิงคำนวณ เราจะเป็นผู้ก่อตั้งของสาขานี้!”
ณ งานเลี้ยงอาหารค่ำที่จัดโดยเอ็มอาร์เอสเดวิดกำลังพูดกับลู่โจว
แม้คนส่วนใหญ่ที่เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะจะเป็นคนหลงตัวเอง แต่เดวิดอาจเป็นคนเดียวในวอลสตรีตที่มีความสามารถทำเช่นนี้ อันที่จริงเมื่อชายคนนี้พูด มันเป็นเหมือนกับธรรมชาติเหมือนกับการหายใจ มันไม่มีความตะขิดตะขวงใจเลย
ลู่โจวหัวเราะ “งั้นหนึ่งร้อยปีต่อมา จะมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นมาบ่นกับหนังสือเรียนว่าเจ้าพวกนี้เขียนอะไรลงในหนังสือเรียน”
“คุณพูดถูก มันเป็นแบบนั้นแหละ” เดวิดหัวเราะ “มันฟังดูเป็นไง น่าสนใจไหม?”
“ผมสนใจ” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณมีแนวคิดที่เจาะจงมากกว่านี้ คุณมาหาผมที่พรินซ์ตันได้เลย”
“ไม่มีปัญหา” เดวิดกล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม “ถ้าคุณมีแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่น่าสนใจที่ใช้ในการทดลองพอลิเมอร์ได้ คุณก็มาหาฉันที่นิวยอร์กได้เสมอ”
ลู่โจวตื่นเต้น “อันที่จริงผมสนใจในซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาเสมอ ผมวางแผนจะซื้อด้วย”
“เป็นความคิดที่ดี แต่มันไม่ใช่ถูกๆ” เดวิดกล่าว เขาพลันนึกถึงเรื่องบางอย่างได้ เขาจึงถาม “เอ้อ คุณลงนามข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิบัตรกับยูมิคอร์รึยัง?”
ลู่โจวกล่าว “ผมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงแล้ว ทำไมเหรอครับ?”
เดวิดรินไวน์ให้ตัวเองและกล่าว “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะใช้เวลาคิดเรื่องปัญหาด้านภาษี”
ลู่โจวขมวดคิ้ว “ผมต้องจ่ายภาษีเหรอ?”
เดวิดกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แน่นอน! ตราบใดที่เงินไหลเข้ามาในสหรัฐอเมริกา คุณก็ไม่อาจหลบหนีจากจมูกกรมสรรพากรได้…กรมสรรพากรจะได้สิ่งที่ต้องการเสมอ ตอนนี้คุณเป็นศาสตราจารย์พรินซ์ตันแล้ว ฉันมั่นใจว่าคุณได้เปลี่ยนสถานะบนวีซ่าแล้ว”
ลู่โจวพยักหน้าอย่างจริงจัง
ที่จริง ลู่โจวต้องจ่ายภาษีจากเงินเดือนพรินซ์ตัน อย่างไรก็ตามเงินเดือนสี่แสนเหรียญต่อปีเป็นเงินเดือนหลังหักภาษี
ลู่โจวถาม “มีวิธีให้ผมเลี่ยงภาษีไหม?”
เดวิดยิ้ม
“ง่ายมาก แค่ไปหาเกาะเปิดบัญชี คำแนะนำของฉันคือก่อตั้งบริษัทจัดการสิทธิบัตรบนเกาะเคย์แมน จากนั้นก็จ้างนักบัญชี นี่เป็นวิธีที่ไมโครซอฟต์และ IBM หลีกเลี่ยงภาษีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา หลายบริษัทในวอลสตรีตก็ทำเช่นนี้เช่นกัน…”
“…ตราบใดที่เงินไหลเข้าระหว่างบริษัทนอกอาณาเขต ไม่ไหลเข้ามาในสหรัฐอเมริกา คุณก็ไม่ต้องเสียภาษี กรมสรรพากรก็จะไม่ไปหาคุณ…”
………………………………….