Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 284 ปัญหาทรงกลม
ณ ออฟฟิศในสถาบันการศึกษาขั้นสูงพรินซ์ตัน
ลู่โจวนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจ้องมองภาพกราฟิกสามมิติบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง มือขวาของเขาจะขีดเขียนบนกระดาษเป็นครั้งคราวขณะที่มือซ้ายกดแป้นพิมพ์อยู่
ข้อมูลที่ถูกรวบรวมจากปืนสแกนเนอร์อยู่ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของเสี่ยวไอ เขาเก็บสิ่งที่เขาต้องใช้ไว้บนโน้ตบุ๊ค
ซึ่งมันก็คือคาร์บอนนาโนสเฟียร์ภายใต้วัสดุพีดีเอ็มเอส
โครงสร้างโมเลกุลของคาร์บอนนาโนสเฟียร์นั้นมีอยู่แล้ว แต่อย่างอื่นเขาไม่รู้เลย
ไม่ว่ามันจะเป็นคุณสมบัติเชิงกลหรือเชิงไฟฟ้าหรือวิธีสร้างคาร์บอนนาโนสเฟียร์ ลู่โจวก็ต้องค้นหาสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเอง
ก่อนอื่นเขาต้องสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์และวิเคราะห์คุณสมบัติทางกายภาพของแบบจำลอง จากนั้นเขาจะได้สังเคราะห์วัสดุคาร์บอนนาโนสเฟียร์ ถัดมาด้วยการทดลองจำนวนมาก เขาก็จะหาวิธีผลิตคาร์บอนนาโนสเฟียร์ได้
อย่างไรก็ตามลู่โจวไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
นี่เป็นเหมือนจำนวนเฉพาะใหญ่สองจำนวน การคูณนั้นเป็นเรื่องง่าย ทุกการคำนวณนั้นทำได้ อย่างไรก็ตามการหาผลลัพธ์สองตัวจากการคูณสองจำนวน มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ลู่โจวหยุดเขียนแล้วสูดหายใจลึกๆ
มองดูตอนแรก คาร์บอนนาโนสเฟียร์เหมือนกับ C60 C50 และ C240 ทั้งหมดมีโครงสร้างเป็นทรงกลมแบบกลวง อย่างไรก็ตามเมื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม เมื่อเทียบกับฟูลเลอรีน มันต่างกับคาร์บอนนาโนสเฟียร์
ข้อแรกเลย มันไม่ได้เป็น’ทรงกลม’อย่างสมบูรณ์
บางคนก็อาจแย้งว่าทั้งสองก็คือฟูลเลอรีน เนื่องจากกลุ่มวงแหวนหกเหลี่ยมก็มีวงแหวนอะตอมคาร์บอนห้าเหลี่ยมและเจ็ดเหลี่ยมเช่นกัน
อย่างไรก็ตามความแตกต่างของคาร์บอนนาโนสเฟียร์ก็คือการสะท้อนกลับแบบสมมาตร มันไม่มีการสะท้อนกลับแบบสมมาตร ดังนั้นมันจึงไม่อาจเป็นตัวแทนของแลตทิซบราแวส์แบบดั้งเดิม
ลูกบอลเล็กๆนี้ก็เหมือนกับวัสดุคาร์บอนสองชิ้นที่ประกอบกันเพื่อสร้างพันธะเคมีใหม่
ภาพของลูกบอลก็เหมือนกับบอลขนแกะสองลูกที่ถูกแยกกันและเอารวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง
ถ้ามันเป็นแบบนี้จริงๆ ลู่โจวก็อาจประสบกับปัญหากลศาสตร์ควอนตัมที่เกี่ยวข้องกับระบบโกลาหล บางทีคงมีแต่แมวของชเรอดิงเงอร์เท่านั้นที่แก้ปัญหานี้ได้
นี่เป็นเพียงปัญหาทางเรขาคณิตเท่านั้น
ในแง่ของเคมี เขามีปัญหามากกว่านี้อีก
ลู่โจวถอนหายใจและนวดหน้าผาก เขาพยายามสงบใจลง
ปัญหาพวกนี้ต้องแก้ไปทีละอย่าง
เขาควรเริ่มที่วิชาที่เขาเก่งที่สุด นั่นก็คือคณิตศาสตร์
แม้ว่าเรขาคณิตจะไม่ใช่สาขาที่เขาถนัด แต่เขาก็ยังพอรู้เล็กน้อย
ที่จริงนี่เป็นปัญหาทอพอโลยี เขาจำเป็นต้องแยกชิ้นส่วน’โครงสร้างทรงกลมที่เชื่อมโยงกัน’ที่ไม่สมมาตรนี้
ลู่โจวลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหน้าไวท์บอร์ด เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวาดโครงสร้างลูกบอลที่โยงกันที่ประกอบด้วยจุดและเส้น จากนั้นเขาก็ทำเครื่องหมายพารามิเตอร์ข้างแต่ละจุดและสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์อย่างง่าย
[กำหนดให้ A∈X;f,g∈C(X,Y), ถ้ามีฮอมอโทปีของ f ถึง g, ดังนั้นเมื่อ a∈A, H(a,t)=f(a)…]
[…]
สูตรการคำนวณยาวขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายลู่โจวก็หยุดเขียนและก้าวถอยหลัง เขามองดูไวท์บอร์ดที่เต็มไปด้วยสมการแล้วเริ่มคิดลึก
เขาคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่เขามักจะรู้สึกว่าความเป็นไปได้ทั้งหมดมันขาดอะไรไปบางอย่าง
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกออฟฟิศ
เวร่าเปิดประตูถือกระดาษเอสี่มาปึกหนึ่ง
เมื่อเธอเห็นลู่โจวจ้องมองไวท์บอร์ด เธอก็ลังเล เธอตัดสินใจไม่รบกวนความคิดของเขา เธอจึงวางเอกสารไว้บนโต๊ะแล้วไปชงกาแฟให้ลู่โจว
เมื่อลู่โจวได้กลิ่นกาแฟ เขาก็ตระหนักว่ามีคนอยู่ในออฟฟิศด้วย
เขามองเวร่าแล้วโพล่งถามออกมา “มีอะไรหรือ?”
“สำนักงานศึกษาบอกให้ฉันเอารายชื่อผู้สัมภาษณ์นี้ให้คุณ” เวร่าชี้ไปที่เอกสารบนโต๊ะ จากนั้นเธอก็กล่าวเสริม “ฉันกลัวรบกวนคุณ ฉันเลยไม่ได้เคาะประตู”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้โดนขัดสมาธิได้ง่ายนักหรอก แค่อย่ามาแตะหลังฉันทีเผลอก็พอ” ลู่โจวกล่าวติดตลก
เวร่ายิ้มเมื่อตระหนักว่าตัวเธอไม่ได้รบกวนสมาธิของลู่โจว
เธอมองดูสมการด้วยสีหน้าสนใจ “มันคือ?”
“ไม่มีอะไร ก็แค่โจทย์อะไรบางอย่าง”
ลู่โจวกลับมาที่โต๊ะแล้วเปิดโน้ตบุ๊ค จากนั้นเขาก็หยิบรายชื่อผู้สัมภาษณ์แล้วเหลือบมอง
นักศึกษากลุ่มนี้ไม่เลวเลย แต่แค่มีผลการเรียนไม่มากพอ เขาจะต้องใช้เวลาสัมภาษณ์พวกเขาดู
สิ่งเดียวที่ทำให้ลู่โจวประหลาดใจก็คือ มีนักศึกษาที่ไม่ได้เรียนเอกวิชาคณิตศาสตร์มาสมัครด้วย
อย่างเคมีประยุกต์จากมหาลัยจินหลิงที่อยากวิจัยปัญหาการแปลงฟูเรียร์แบบผกผัน
แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนย้ายวิชาเอก แต่คนส่วนใหญ่จะย้ายจากคณิตศาสตร์ไปเคมี ไม่ใช่เคมีมาคณิตแบบนี้
ขณะที่ลู่โจวกำลังอ่านประวัติเหล่านี้ เวร่าที่จ้องมองไวท์บอร์ดก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “โครงสร้างสามมิติอันนี้แปลกมาก”
ลู่โจวเงยหน้ามอง “คุณคิดว่าไง?”
เวร่า “ฉันใช้ปากกาได้ไหม?”
ลู่โจวยิ้มอย่างยินดี “แน่นอน”
เวร่าหยิบปากกาแล้วเดินไปหน้าไวท์บอร์ด
เธอขีดเส้นสองสามเส้นทรงกลมที่เชื่อมต่อกันเป็นซี่กรงและทำเครื่องหมายห้าเหลี่ยมและเจ็ดเหลี่ยม จากนั้นเธอก็วาดวงกลมที่ไม่สม่ำเสมอเพื่อแบ่งรูป
จากนั้นปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
หลังถอดโครงสร้างสามมิติและเอามารวมกันใหม่ โครงสร้างทรงกลมที่เป็นรูปซี่กรงที่ไม่สมมาตรก็ถูกถอดโครงสร้างเป็นเหมือนโครงสร้างท่อทรงกลมและทรงกลมสมมาตร!
ลู่โจวมองดูภาพวาดสามมิติบนไวท์บอร์ดอย่างอึ้งๆ แววตาเขาเริ่มเปล่งประกาย
เขาได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน การรวมกันของทรงกลมและพื้นผิว ทรงกลมขนาดต่างๆ แต่เขาไม่ได้คิดถึงการรวมตัวกันแบบนี้เลย
อย่างไรก็ตามการถอดโครงสร้างก็มาถึงจุดสิ้นสุด
เวร่างุนงง เธอไม่รู้ว่าจะแปลงมันยังไงต่อ
อย่างไรก็ตามสำหรับลู่โจว แนวคิดเท่านี้ก็พอแล้ว
“คุณเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง…”
เวร่ามองเวร่าอึ้งๆ จากนั้นเธอก็มองไวท์บอร์ดที่เต็มไปด้วยภาพวาดทอพอโลยี จากนั้นเธอก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
“ฉันดีใจที่ได้ช่วยคุณ…”
เธอคิดแค่ว่ารูปนี้น่าสนใจมาก แม้ว่ามันจะดูเหมือนทรงกลมปกติ แต่มันก็ไม่สมมาตรกัน ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความลึกลับ
เนื่องจากความลึกลับนี้ เวร่าจึงพยายามแปลงโครงสร้างทางทอพอโลยีและพบว่าโครงสร้างนี้เป็นการรวมตัวกันของทรงกลมสมมาตรและทรงกระบอก
นี่เป็นปัญหาเรขาคณิตพื้นฐานที่ยากอย่างเหลือเชื่อ
แม้ว่าเธอจะแปลงไม่เสร็จ แต่เธอก็ทำมากพอแล้ว!
“มันไม่ใช่แค่ช่วยเหลือเล็กๆ! แต่คุณช่วยได้มากเลย!”
ความคิดปะทุออกมาจากสมองของลู่โจวราวกับน้ำพุ เขาถ่ายรูปไวท์บอร์ดแล้วปิดโน้ตบุ๊คก่อนจะพูดกับเวร่า “ฉันจะออกไปข้างนอกสักสองสามวัน ฝากดูแลออฟฟิศด้วย”
ลู่โจวเดินไปที่ประตูออฟฟิศ จากนั้นจู่ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ เขาหันกลับไปมองหญิงสาวแล้วกล่าว “เอ้อ ถ้ามีคนมาหาฉัน คุณก็บอกที่อยู่ฉันแล้วให้พวกเขาไปหาฉันที่นั่นนะ”