Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 299 สถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงรุ่นต้นแบบ
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 299 สถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงรุ่นต้นแบบ
ประเทศจีนให้ความสำคัญกับการวิจัยวิทยาศาสตร์อย่างมาก
เฒ่าหลี่ว์ไม่อยากทำให้ลู่โจวเสียเวลา และอยากแสดงให้เจ้านายเห็นว่าเขาเป็นคนขยันเอางาน วันที่สองหลังการประชุม ลู่โจวจึงได้รับสายจากเลขาหลิว
แม้ว่าเขาจะเคยพบเลขาหลิวแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ลู่โจวรู้สึกว่าเลขาหลิวน่าสนใจ อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่พวกเขาพบกัน มันก็เป็นเหมือนพวกเขาได้พบสหายสนิท
หลังคุยกันเล็กน้อย เลขาหลิวก็นัดวันเวลากับลู่โจวทางโทรศัพท์
ในบ่ายวันเดียวกัน ลู่โจวก็พบกับผู้ช่วยเลขาหลิว จ้าวเจิ้งเย่ เขาเป็นคนสวมแว่นดูเรียบร้อยมาก
จ้าวเจิ้งเย่จับมือกับลู่โจวแล้วกล่าวอย่างสุภาพ “สวัสดีครับศาสตราจารย์ลู่ ผมเป็นผู้ช่วยเลขาหลิว คุณจะเรียกผมว่าเสี่ยวจ้าวก็ได้”
ลู่โจวยิ้ม “คุณแก่กว่าผม งั้นผมจะเรียกคุณว่าผู้ช่วยจ้าว”
“ได้ครับ” ผู้ช่วยจ้าวผายมือ “ทางนี้ครับ”
ผู้ช่วยจ้าวขับรถพาลู่โจวไปสวนพัฒนาไฮเทค
ผู้ช่วยจ้าวหาที่จอดรถ จากนั้นก็หยิบเอาแผนที่ที่มีวงกลมเขียนไว้ออกมา เขาชี้ไปที่วงกลมแล้วพูดกับลู่โจว “นี่เป็นแผนที่คอนเซปต์เขตพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสองมหาวิทยาลัยเซียนหลิน เฟสแรกของโปรเจกต์เสร็จแล้ว และเฟสที่สองจะเสร็จในหนึ่งปี เนื่องจากโปรเจกต์นี้เพิ่งเริ่มต้น จึงมีหน่วยวิจัยเพียงสิบสามหน่วยที่ตรวจสอบเขตพัฒนานี้ มันมีที่ว่างอีกมาก”
“มีตึกสำนักงานดีๆ หลายแห่งที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน ตอนนี้ยังว่างอยู่ ถ้าคุณชอบสำนักงานไหน ก็บอกผมมาได้เลย”
ลู่โจวส่ายหน้า “การทดลองวัสดุนาโนของผมต้องทำผ่านอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูง ตึกสำนักงานธรรมดาคงไม่ได้มาตรฐานเป็นแน่ งั้นผมหวังว่าคุณจะหาที่ดินเปล่าให้ แล้วเดี๋ยวผมจะติดต่อผู้รับเหมาสร้างสำนักงานด้วยตัวเองเอง”
เมื่อผู้ช่วยจ้าวได้ยินคำพูดของลู่โจว เขาก็พยักหน้า “ไม่มีปัญหา มีที่ดินที่ยังไม่ได้ขายอีกหลายที่อยู่เหมือนกัน คุณอยากได้ตรงไหนบอกผมได้เลย เดี๋ยวจะแจ้งให้ท่านเลขาทราบ”
ลู่โจวดูแผนที่สักครู่ จากนั้นก็เลือกที่ดินที่มีเนื้อที่ประมาณหนึ่งจุดหกห้าเอเคอร์ นี้จะกลายเป็นศูนย์วิจัยแห่งใหญ่
กลายเป็นว่าสัญชาตญาณของลู่โจวค่อนข้างแม่น
ผู้ช่วยจ้าวขับรถพาลู่โจวไปดูที่ดิน ที่ดินอยู่ไกลจากทางการจราจรและมีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ มันเป็นสถานที่สำหรับวิจัยที่ไม่เลว
ส่วนแผนก่อสร้างที่เจาะจง ลู่โจวจะติดต่อหา ไวท์ผู้จัดการของสตาร์สกายเทคโนโลยี เพื่อให้เขาจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและดำเนินการประมูลโครงการ ลู่โจวแทบไม่ต้องสนใจเรื่องนี้เองด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ด้วยนโยบายพิเศษของรัฐ ลู่โจวจะยังได้รับส่วนลดอีกมากมาย
ที่ดินผืนนี้มีราคาสูงถึงสี่สิบสองล้านหยวนต่อหนึ่งตารางเมตร
เฒ่าหลี่ว์สัญญาว่า ตราบใดที่ลู่โจวลงทุนสองร้อยล้านหยวน รัฐจะอุดหนุนให้สามสิบเปอร์เซ็นต์ของค่าที่ดิน ถ้าการลงทุนของลู่โจวขยายเป็นสี่ร้อยล้านหยวน งั้นเงินอุดหนุนก็จะเพิ่มเป็นสองเท่า แผนเดิมของลู่โจวคือลงทุนหนึ่งร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเขาจึงจะได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ราคาที่สำนักงานเมืองมอบให้แก่ลู่โจวคือสามสิบล้านหยวนต่อเอเคอร์ ด้วยเงินอุดหนุนของรัฐ เขาจึงต้องจ่ายสิบสองล้านหยวนต่อเอเคอร์
ด้วยวิธีนี้ ลู่โจวจึงมีเงินวิจัยและซื้ออุปกรณ์มากขึ้น
ตำแหน่งสถาบันวิจัยถูกตัดสินใจแล้ว
ลู่โจวโทรหาไวท์ และเรื่องทั้งหมดนี้จะได้รับการจัดการโดยสตาร์สกายเทคโนโลยีและรัฐบาลเมืองจินหลิง
ก่อนที่ตึกวิจัยจะถูกสร้าง ลู่โจวได้แต่ใช้ตึกวิจัยของมหาวิทยาลัยจินหลิง โชคดีที่วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยจินหลิงมีตึกวิจัยเปล่ามากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงยินดีที่จะอำนวยความสะดวกให้ลู่โจว
คณบดีหลี หัวหน้าสาขาเคมี พาลู่โจวไปดูห้องแล็บด้วยตนเอง
ทั้งสองคุยกันขณะเดินอยู่ในวิทยาเขต
คณบดีหลียิ้ม “ทุกคนบอกว่าพรินซ์ตันมีสมองที่ฉลาดที่สุดในโลก คุณทำงานที่นั่นมาเป็นปีแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?”
ลู่โจวคิดชั่วครู่ “ผมคิดว่ามันน่าเสียดายนิดหน่อย”
คณบดีหลี่ “โอ้! น่าเสียดายอะไร?”
ลู่โจวยิ้ม “ผมว่านักศึกษาน้องใหม่ของพรินซ์ตันไม่ได้ฉลาดไปกว่านักศึกษาของเราที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเลย เราแค่ไม่ได้ตามการศึกษาระดับมัธยมปลายให้ทัน อันที่จริงเรามีข้อได้เปรียบด้วยซ้ำ”
ลู่โจวหยุดชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “จากสภาพนักศึกษาปริญญาตรีตอนนี้ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองจะเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แน่เมื่อพวกเขาได้เรียนระดับปริญญาโท”
คณบดีหลีกล่าว “ศาสตราจารย์ลู่ การเปรียบเทียบนี้ไม่ยุติธรรม พรินซ์ตันเป็นสถาบันการศึกษาระดับโลก แม้แต่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกกับฮาร์วาร์ดก็เทียบไม่ได้”
ลู่โจวยิ้ม “ใช่ เพราะงั้นผมถึงบอกว่ามันน่าเสียดาย”
ลู่โจวหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “อันที่จริงผมมีความคิดอยู่ว่าเราควรสร้างสถาบันการศึกษาขั้นสูงที่นี่ เอาให้คล้ายกับโมเดลพรินซ์ตันไปเลย”
คณบดีหลีกล่าว “นี่เป็นความคิดที่ดี แต่มันดูจินตนการล้ำไปหน่อย”
ลู่โจวพยักหน้า “คุณพูดถูก”
การคัดลอกความสำเร็จของสถาบันการศึกษาขั้นสูงในพรินซ์ตันมันไม่มีอะไรง่าย
มหาวิทยาลัยจินหลิงสามารถสร้างอาคารและจ้างนักวิชาการบางคน แต่ไม่สามารถประสบความสำเร็จระดับเดียวกับพรินซ์ตันได้
แต่สถาบันจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยอันดับสองของเหล่าผู้เรียนปริญญาโท มันจะไม่ไร้ความหมายและเสียทรัพยากรแบบสูญเปล่าแน่นอน
คณบดีหลี “พูดตามตรง ถ้าเราทำแบบจำลองสถาบันวิจัยพรินซ์ตันที่นี่ มันคงรอดยาก ต่อให้รอด ก็คงไม่ถึงขั้นประสบความสำเร็จ”
“ก็ลองดูก่อนได้ หรือเป็นเพราะผมอายุยังน้อยเลยมองโลกในแง่ดีมากมั้งครับ” ลู่โจวยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก “แล้วเราจะเรียกสถาบันวิจัยที่ยังไม่เปิดนี้ว่าสถาบันวิจัยวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณจินหลิงได้ใช่ไหม?”
นักวิชาการหลียิ้ม “แน่นอน มันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง! มหาวิทยาลัยจินหลิงวางแผนจะสร้างสาขาวัสดุเชิงคำนวณ คุณเป็นหัวหน้าสาขาดีไหม? ฉันจะหานักศึกษาชั้นยอดมาให้คุณฝึก”
ลู่โจวยิ้ม “ไม่ดีกว่า ฉันอาจเปลี่ยนนักศึกษาทุกคนเป็นนักศึกษาคณิตศาสตร์ก็ได้”
“โอ้ไม่ โปรดอย่าเลย!”
ทั้งสองหยอกล้อกัน ไม่มีใครเก็บไปคิดจริงจังนัก
แต่หลังได้ยินข้อเสนอของคณบดีหลี ลู่โจวก็อดเอาไปคิดจริงจังไม่ได้
สนามรบเป็นที่ฝึกซ้อมที่ดีที่สุด แผนพลังงานของประเทศไม่ได้อยู่ในสนามรบของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์เท่านั้น แต่มันยังเป็นโอกาสฝึกอัจฉริยะที่มุ่งเน้นการวิจัยอีกด้วย
ลู่โจวไม่ต้องคัดลอกรูปแบบของสถาบันการศึกษาขั้นสองของพรินซ์ตัน เขาสามารถคิดค้นโมเดลใหม่ที่เหมาะสมกับการวิจัยทางวิชาการในประเทศได้มากกว่า
ถ้าโมเดลใหม่นี้ถูกพิสูจน์ว่ามันเป็นไปได้ ลู่โจวก็จะขยายมันเป็นคณิตศาสตร์และฟิสิกส์
ต่อให้โมเดลนี้ไม่สำเร็จ มันก็ยังมีความหมาย
ลู่โจวกล่าวด้วยน้ำเสียงติดตลก “งั้นผมมีข้อกำหนดบางอย่าง”
คณบดีหลีพูดอย่างสุภาพ “คุณต้องการอะไร บอกมาเลย!”
ลู่โจวพูดคำเดียว
“คน!”
………………………………..