Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 302 ฉันอยากฟังความเห็นของเขา
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 302 ฉันอยากฟังความเห็นของเขา
เงินมัดจำซื้ออุปกรณ์จ่ายจากบัญชีต่างประเทศของสตาร์สกายเทคโนโลยีไปยังบัญชีผู้ผลิตอุปกรณ์ยุโรปโดยตรง หลังเฉียนจ้งหมิงเซ็นเอกสาร เงินที่เหลือจะถูกโอนไปให้อีกฝ่ายทันที
ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ที่ถูกซื้อมาจะถูกส่งไปจินหลิงผ่านบริษัทขนส่งเฉพาะทาง
รวมราคาอุปกรณ์ทั้งหมดก็ กว่าห้าสิบล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมันมากกว่าสามร้อยล้านหยวนเสียอีก
อุปกรณ์มีความสำคัญมาก ดังนั้นเฉียนจิงหมิงจึงไม่อยากล่าช้า เขากับหลิวโปจองตั๋วเครื่องไปยุโรปทันที
ลู่โจวก็ยุ่งอยู่เช่นกัน สามวันหลังรุ่นพี่เฉียนไปยุโรป มหาวิทยาลัยจินหลิงก็จัดงานสัมมนา
งานสัมมนานี้ใหญ่มาก ไม่เพียงแต่จะเชิญศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยจื่อ มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ มหาวิทยาลัยออโรร่า และมหาวิทยาลัยลีค C9 เท่านั้น แต่พวกเขายังได้เชิญโรงเรียนเทคโนโลยีอย่าง มหาวิทยาลัยโพลิเทคนิคจินหลิง ศาสตราจารย์ในสาขาสังเคราะห์ รวมถึงวิศวกรจากอุตสาหกรรมอย่างบีวายดีก็ยังเข้าร่วมงานประชุมนี้อีกด้วย
ไม่เหมือนงานประชุมเอ็มอาร์เอส งานประชุมครั้งนี้เป็นกึ่งวิชาการและไม่ได้แลกเปลี่ยนผลการวิจัย แต่เน้นพูดถึงการวิจัยและพัฒนา
นอกจากศาสตราจารย์วัสดุลิเธียม ตัวแทนกองทุนวิจัยระดับชาติ รวมไปถึงตัวแทนบริษัทพลังงานอย่างบีวายดีและซานเคอก็มาร่วมด้วยเช่นกัน
หัวข้อการสนทนาย่อมเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ลิเธียม
ในฐานะนักวิชาการชื่อดังระดับโลก ลู่โจวย่อมเข้าร่วมงานประชุมนี้
งานประชุมจะเริ่มตอนสิบโมง แต่ตอนนี้แค่เก้าโมง คนก็เต็มห้องประชุมแล้ว
ราวกับทุกคนรู้ว่างานประชุมนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ จึงมีแต่คนทำสีหน้าจริงจัง แม้ว่าผู้คนจะเต็มห้องประชุม แต่ห้องประชุมก็เงียบอย่างน่าประหลาด
ลู่โจวเปิดขวดน้ำขึ้นมาจิบ ก่อนที่งานประชุมจะเริ่ม เขาจึงใช้โอกาสนี้สังเกตสีหน้าของคนในห้อง
โดยรวมแล้วสถานการณ์ดูไม่ค่อยดีนัก
ประมาณเก้าโมงครึ่ง เฒ่าหลี่ว์ก็พูดกับนักวิชาการจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนอยู่สองสามคำ
เมื่อมาถึงเกือบครบทุกคนแล้ว เฒ่าหลี่ว์ก็ปรับไมค์ ก่อนจะกระแอมแล้วกล่าว “เนื่องจากทุกคนมาถึงกันแล้ว เราก็ไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าของทุกคนอีก”
ห้องประชุมเงียบเสียงลง พวกเขารอให้เฒ่าหลี่ว์พูดต่อ
“…พลังงานเป็นสิ่งสำคัญของอุตสาหกรรม ใครที่ควบคุมพลังงาน ก็จะควบคุมอนาคต ภารกิจนี้ยากมาก เพราะมันเกี่ยวข้องกับรูปแบบยุทธศาสตร์ของประเทศในสาขาพลังงาน”
“ในงานประชุมครั้งล่าสุด ผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจพัฒนาในทิศทางแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ การแก้ปัญหาทางเทคนิคที่เฉพาะเจาะจงเราต้องใช้ภูมิปัญญาของทุกคนที่นี่”
“ผมหวังว่าทุกคนจะสามารถระดมความคิดกันแล้วนึกไอเดียดีๆ ออกมา”
เฒ่าหลี่ว์เป็นผู้ดำเนินงานประชุม ดังนั้นเขาจึงเป็นคนพูดเปิดสั้นๆ
ดูผ่านๆ แล้ว งานประชุมนี้ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร ทุกคนไม่ได้พูดถึงผลลัพธ์ที่มีอยู่จริง ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ควรจะ เป็นเช่นนั้น
กองทุนวิจัยระดับชาติและของเอกชนมีจำกัด ไม่ใช่ว่าทุกโปรเจกต์จะมีเงินทุนเพียงพอ
ปกติแล้วถ้าประเทศตัดสินใจจะดำเนินทิศทางของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ โปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ก็จะเพิ่มขึ้น และโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ลิเธียมอื่นๆ ก็จะลดลง
การวิจัยก็เช่นเดียวกัน
มีหลายพันวิธีในการแก้ปัญหาปรากฏการณ์ชัตเติลของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ มันเป็นไปได้จากทั้งวัสดุอิเล็กโทรดขั้วบวกและจากอิเล็กโทรไลต์
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงการคลังไม่ได้เข้าใจวิชาการ
แต่นั่นไม่สำคัญ เมื่อพวกเขาตัดสินใจ พวกเขาก็มักจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของวงการ และพิจารณาจากความเห็นพวกเขาว่าสามารถรับประกันเงินทุนวิจัยในหัวข้อนี้ได้หรือไม่
มักจะมีหัวข้อวิจัยอยู่ไม่กี่หัวข้อที่มีศักยภาพและประสบความสำเร็จได้ผลลัพธ์คุณภาพสูงอยู่เสมอ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมงานประชุมครั้งนี้ถึงมีความสำคัญ
ทุกคนหวังว่าหัวข้อวิจัยหรือทิศทางวิจัยของตนจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ บรรยากาศจึงหนักอึ้งก่อนการประชุมจะเริ่มเสียอีก แต่หลังจากงานประชุมเริ่มขึ้น การหารือก็ค่อนข้างกระตือรือร้น
คนแรกที่เป็นคนพูดคือศาสตราจารย์หวังไห่เฟิงจากมหาวิทยาลัยจื่อ
ศาสตราจารย์หวังลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม “เนื่องจากผู้อำนวยการหลี่ว์บอกให้ทุกท่านระดมสมองและแบ่งปันความคิดกัน งั้นผมจะขอเสนอความคิดอันต่ำต้อยของผมสักหน่อย”
“ทีมวิจัยของเราค้นพบวัสดุขั้วบวกคาร์บอนซัลเฟอร์โครงสร้างนาโนที่มีความระเบียบ สิ่งนี้สามารถใช้เป็นกรอบโครงสร้างวัสดุคาร์บอนเพื่อจำกัดการละลายของซัลเฟอร์ระหว่างประจุและคายประจุ ซึ่งสามารถเหนี่ยวรั้งปรากฏการณ์ชัตเติลอย่างมีประสิทธิภาพ”
ศาสตราจารย์หวังหยิบเอาผลการวิจัยที่มีอยู่ออกมาเพื่อสนับสนุนคำพูดของตน
เฒ่าหลี่ว์พิจารณาความเห็นของศาสตราจารย์หวังอย่างจริงจัง จากนั้นเขาก็ถาม “ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? ความหนาแน่นของพลังงานเท่าไหร่? เทคโนโลยีนี้เชื่อถือได้ไหม?”
“ค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก ความหนาแน่นของพลังงานค่อนข้างน่าประทับใจ ความหนาแน่นของพลังงานทางทฤษฎีที่วัดได้จากห้องแล็บใกล้เคียงกับ 2000Wh/kg ซึ่งมันเกินกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมในปัจจุบัน ผมตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องในวารสารที่ชื่อ ‘Advanced Materials’ แล้วแต่เทคโนโลยีต้องสมบูรณ์”
ศาสตราจารย์หวังหยุดชั่วครู่ “อันที่จริง กุญแจในการแก้ปัญหาปรากฏการณ์ชัตเติลของแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ ในแนวทางกระแสหลักของโลกวิชาการ คือการใช้วัสดุคาร์บอนแบบรูพรุนมาขวางพอลิซัลไฟต์ไอออน และลดการเสียหายของซัลเฟอร์ คำแนะนำของผมคือเราสามารถนำวิธีที่คล้ายกันมาใช้ ส่วนสำคัญของการวิจัยและพัฒนาควรอยู่ที่วัสดุผสมซัลเฟอร์คาร์บอน”
เฒ่าหลี่ว์พยักหน้าอย่างจริงจัง
ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างเขารีบพิมพ์ลงบนโน้ตบุ๊ค
หลังศาสตราจารย์หวังพูดจบ เขาก็ยิ้มแล้วนั่งลง
ทันใดนั้นก็มีศาสตราจารย์อีกท่านลุกขึ้นยืน
“ผมมีเรื่องจะพูด”
มันเป็นนักวิชาการอู๋ชื่อกังจากมหาวิทยาลัยออโรร่า เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมวัสดุศาสตร์เช่นกัน
เฒ่าหลี่ว์มองชายชราแล้วกล่าวด้วยความเคารพ “นักวิชาการอู๋ เชิญครับ”
นักวิชาการอู๋หยิบไมโครโฟนแล้วหยุดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูด “ผมมีส่วนร่วมในโปรเจกต์แปดหกสาม ดังนั้นตอนที่ผมมีปัญหาแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์ ผมก็พิจารณาวัสดุผสมคาร์บอนซัลเฟอร์แล้ว กลยุทธ์นี้เหมือนจะมีประสิทธิภาพมากบนกระดาษ แต่ผลที่เกิดขึ้นจริงมีจำกัดสุดๆ”
“การทดลองในห้องแล็บอิงมาจากถ่านก้อนกระดุมขนาดเล็ก อิเล็กโทรดมีความบางมาก ซัลเฟอร์โหลดไม่สูงนัก และมีปริมาณซัลเฟอร์เพียงไม่กี่มิลิกรัมเท่านั้น แบตเตอรี่จริงมีปริมาณซัลเฟอร์เยอะมาก ปกติมันมีเป็นกรัม นอกจากนี้อิเล็กโทรดก็มีความหนามากและซัลเฟอร์โหลดก็สูงมาก”
“ห้องแล็บสามารถหมุนเวียนวัสดุคอมโพสิตซัลเฟอร์/คาร์บอนได้หนึ่งพันเท่า ซึ่งมันหมุนเวียนได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้นในแบตเตอรี่จริง”
“ยิ่งกว่านั้นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดของวัสดุผสมคาร์บอนซัลเฟอร์คือความหนาแน่นของพลังงานไม่สูงพอ ถ้ามันถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ 3C อย่างคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ จะใช้วัสดุคอมโพสิตคาร์บอนซัลเฟอร์เป็นอิเล็กโทรดขั้วบวกก็คงไม่เป็นไร ถ้ามันถูกใช้ในรถยนต์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่อย่างอื่น มันอาจไม่ดีที่สุด”
ชายชราได้ทำการวิจัยในสาขานี้มานานกว่าสิบปี ในฐานะวิศวกร เมื่อเทียบกับคุณค่าทางวิชาการเชิงทฤษฎี เขาให้ความสนใจคุณค่าการใช้งานจริงของเทคโนโลยีเป็นพิเศษมากกว่า
ยิ่งกว่านั้นเขายังมีส่วนร่วมในสาขาอิเล็กโทรไลต์ชนิดของแข็ง ซึ่งมันอยู่ตรงกันข้ามกับศาสตราจารย์หวัง
ศาสตราจารย์หวังย่อมรู้สึกไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เขาที่เป็นคนโต้แย้ง มันเป็นศาสตราจารย์อีกคนในสาขาวัสดุคอมโพสิตคาร์บอนซัลเฟอร์ที่พูดขึ้นมา
“คุณพูดถูก วัสดุผสมซัลเฟอร์คาร์บอนมีข้อบกพร่องในด้านนี้ แต่ในความเห็นของฉัน ข้อบกพร่องเหล่านี้แก้ได้ด้วยการทดลองซ้ำ เมื่อปีก่อนพวกเราต่างก็คิดว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไม่เสถียร แต่ตอนนี้ล่ะ? มีใครที่สงสัยศักยภาพของแบตเตอรี่ลิเธียมบ้าง?”
ลู่โจว “…?”
ลู่โจวที่อยู่เงียบมาตลอดรู้สึกถูกพาดพิง
งานประชุมทวีความรุนแรงมากขึ้น
แม้ว่ามันจะไม่โหดร้ายเหมือนงานประชุมเอ็มอาร์เอสแต่ทุกคนก็ยังรู้สึกถึงความตึงเครียดในห้องประชุม
ลู่โจวเริ่มคิด
โชคดีที่ปืนสแกนเนอร์ของระบบช่วยให้เขาประหยัดค่าใช้จ่ายของการวิจัยและพัฒนาไปได้มาก และเทคโนโลยีของลิเธียมเดนไดรต์ก็ขายได้ในราคาดีมากเช่นกัน ไม่งั้นเขาคงต้องยอมกัดฟันเข้าร่วมการหารือครั้งนี้
ทันใดนั้นเองก็มีศาสตราจารย์อีกคนพูดขึ้นมา
“ฉันขอพูดอะไรสักสองสามคำ”
คราวนี้เป็นศาสตราจารย์ซุนหงเปียวจากมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่
แม้ว่าในสาขาแบตเตอรี่ลิเธียม สุ่ยมู่จะอันดับต่ำกว่ามหาวิทยาลัยออโรร่าหรือมหาวิทยาลัยเยี่ยน แต่มันก็ยังค่อนข้างมีอิทธิพล
อย่างไรก็ตามคำพูดของเขาต่างจากผู้ยิ่งใหญ่คนก่อนหน้านี้
ศาสตราจารย์เฒ่ากระแอมแล้วพูดช้าๆ “ฉันสังเกตว่าศาสตราจารย์ลู่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ฉันบอกได้ว่าเขาต้องมีความคิดอะไรดีๆ เกี่ยวกับปัญหานี้ ฉันไม่อยากพูดอะไรมาก ฉันแค่อยากฟังความเห็นของเขา”
ลู่โจว “???”
………………………………