Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 310 ตามกระแส

ขณะที่ลู่โจวกำลังทานมื้อเที่ยงในห้องโรงแรม หวังไห่เฟิงก็อ่านเอกสารอยู่ในตึกแล็บอย่างระมัดระวัง

นับหลังจากการประชุม เขารอเอกสารอย่างใจจดใจจ่อ แล้วในที่สุดมันก็มาอยู่ในมือเขาสักที

มีเพียงผู้นำที่แท้จริงของวงการเท่านั้นที่จะสามารถเพิกเฉยต่อปัจจัยภายนอกอย่างการเมือง หรือตลาด แล้วมุ่งเน้นไปกับงานวิจัยของตนเอง

แต่ผู้นำธรรมดาก็ยังให้ความสนใจกับข่าวการเมืองอยู่ดี

เพราะอย่างไรเสียมันก็เกี่ยวข้องกับเงินทุนอย่างใกล้ชิด

เงินเป็นสิ่งจำเป็นต่อทุกอย่างในโลก ‘อันโหดร้าย’ ใบนี้

ความแตกต่างของราคาระหว่างอุปกรณ์ในประเทศกับอุปกรณ์นำเข้านั้นสูงมาก วัตถุดิบบางตัวมีค่ามากกว่าทองคำ บวกกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าทดสอบของบุคคลที่สาม และแม้แต่ค่าใช้จ่ายไปทำธุระ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจึงไม่น้อยเลย

มันเป็นปัญหาที่ต้องเผชิญเมื่ออยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่

นอกจากเหล่านักวิชาการที่ประสบความสำเร็จ นักวิชาการส่วนใหญ่ต้องพิจารณาปัญหาเหล่านี้

หวังไห่เฟิงอ่านรายงานสรุปตั้งแต่ต้นจนจบแล้วเผยรอยยิ้มออกมา

เขาพึงพอใจมากที่วัสดุผสมคาร์บอนซัลเฟอร์ถูกพูดถึงในการประชุม

แต่ไม่นานจากรอยยิ้มก็กลายเป็นขมวดคิ้ว

ในเอกสาร ข้อโต้แย้งของคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงต่อวัสดุซัลเฟอร์ขั้วบวกเหมือนข้อโต้แย้งของลู่โจวทุกประการ

เห็นได้ชัดว่า กลุ่มวิจัยจากปักกิ่งยอมรับความเห็นของลู่โจว

นี่ไม่ใช่ส่วนที่แย่ที่สุด

หวังไห่เฟิงคิดมาเสมอว่าผู้อำนวยการหลี่ว์จากปักกิ่งให้ความสำคัญกับลู่โจวมากไป

แม้ว่าลู่โจวจะเป็นอัจฉริยะที่ชนะรางวัลคอลฟอร์ด แต่นั่นเป็นคณิตศาสตร์ มันไม่ได้เกี่ยวกับวัสดุศาสตร์

และแม้ว่าวิทยานิพนธ์ของลู่โจวในเนเจอร์จะทำให้ช็อกทั้งวงการ แต่หวังไห่เฟิงตีความว่ามันเป็นโชคมากกว่าความสามารถ

ท้ายที่สุดแล้วการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นเหมือนการพนัน ไม่ว่าทฤษฎีหรือกราฟจะสวยงามแค่ไหน แต่มันก็ยังขึ้นอยู่กับชื่อเสียงอยู่ดี

อย่างไรก็ตามหวังไห่เฟิงไม่อาจเพิกเฉยความเห็นของลู่โจว

เพราะอย่างไรเสียเขาก็อยู่ในสาขาวัสดุคอมโพสิตคาร์บอนซัลเฟอร์ และคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงก็ทำให้เขาได้ประโยชน์มาก

หวังไห่เฟิงวางเอกสารบนโต๊ะแล้วมองหลิวหงที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างเขา “คุณวิจัยวิทยานิพนธ์ที่ฉันให้อ่านรึยัง?”

เขากำลังพูดถึงผลงานของลู่โจวที่เขียนระหว่างประชุม

แม้ว่าผลงานของลู่โจวที่การประชุมจะไม่ได้ส่งไปวารสารอย่างเป็นทางการ แต่ผู้จัดการของงานประชุมได้แก้ไขกระบวนการพิสูจน์ของลู่โจวให้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ

แน่นอนการประชุมก็ไม่ได้เป็นทางการเท่างานประชุม MRS ดังนั้นมาตรฐานของวิทยานิพนธ์จึงค่อนข้างต่ำ

หลังลู่โจวตอบตกลง วิทยานิพนธ์ก็ถูกตีพิมพ์ในวารสารฉบับล่าสุดของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่

ปัจจัยกระทบของวารสารนี้อยู่ในระดับต่ำ แต่มันมีการติดตามอย่างกว้างขวางและสามารถพบได้ในห้องสมุดของหลายมหาวิทยาลัย

หลังวารสารถูกตีพิมพ์ หวังไห่เฟิงก็ซื้อมาฉบับหนึ่งทันทีแล้วเอามาให้นักศึกษาปริญญาเอกอ่าน

หลิวหงเกาหัวและดึงเอาวิทยานิพนธ์ออกมาจากลิ้นชัก “ผมได้ปรึกษาศาสตราจารย์หลิว ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์แล้ว การพิสูจน์นี้ไม่มีจุดผิดพลาดเลย…”

หวังไห่เฟิงกล่าว “บ้าเหรอ! ฉันรู้ว่ามันไม่ผิด แต่ฉันกำลังถามว่าคุณคิดยังไง?”

ลู่โจวเป็นศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ที่พรินซ์ตัน แน่นอนว่าคุณย่อมไม่พบปัญหา

ใครจะเขียนอะไรมั่วซั่วที่งานประชุมแบบนั้นล่ะ?

หลิวหงอดบ่นไม่ได้

ผมเป็นแค่นักศึกษาปริญญาเอก คุณมาถามความเห็นผมทำไม?

หวังไห่เฟิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยหลังระบายความโกรธใส่ลูกศิษย์

เขามองนักศึกษาปริญญาโทคนอื่นในออฟฟิศแล้วพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น

“คุณไม่อาจประเมินวิทยานิพนธ์นี้ด้วยความสามารถในปัจจุบัน ฉันแค่ถามความเห็นเกี่ยวกับคาร์บอนทรงกลมแบบกลวง คุณอยากพูดอะไรก็พูด”

หลิวหงพลันมีความคิด “ศาสตราจารย์ ผมคิดว่าคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงเป็นทิศทางที่มีศักยภาพ เนื่องจากเราอยู่ในสาขาวัสดุผสมคาร์บอนซัลเฟอร์เหมือนกัน ทำไมเราไม่พยายามพัฒนาในทิศทางนี้ล่ะ?”

เป็นไปตามคาด ศาสตราจารย์หวังเปลี่ยนน้ำเสียงแล้ววิพากษ์วิจารณ์ “คุณจะพูดอะไร? ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการวิจัยวิทยาศาสตร์คือความมั่นคง?! คาร์บอนทรงกลมแบบกลวงเพิ่งได้รับความนิยม แต่เราไม่สามารถไหลไปตามกระแสเหมือนคนอื่น ไม่งั้นสิ่งที่เราวิจัยอยู่ล่ะ? มันจะได้อะไรขึ้นมา?”

หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ หลิวหงไม่ได้เศร้า กลับกันเขารู้สึกโล่งอกแทน

นิสัยของชายชราค่อนข้างแปลก เขามักจะทำเรื่องไร้เหตุผลอยู่บ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตามชายชราถูกเกลี้ยกล่อมง่ายเช่นกัน

หลิวหงพูดต่อ “ศาสตราจารย์ คุณพูดถูก! เรามีงานวิจัยของเรา เราไม่อาจได้รับอิทธิพลจากหัวข้อที่เป็นที่นิยมใหม่แบบนั้น!”

หลิวหงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “เราอยู่ในสาขาวัสดุผสมคาร์บอน และคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงก็อยู่ในขอบเขตวิจัยของเรา การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในการวิจัยของเราไม่ใช่การทำตามกระแส แต่กลับกันมันหมายความว่าคนอื่นทำตามกระแสของเรา”

หวังไห่เฟิงพยักหน้าแล้วยิ้ม

นี่เป็นสิ่งที่เขาอยากได้ยิน

เป็นอย่างที่หลิวหงเดาไว้ หวังไห่เฟิงแค่อยากได้เหตุผลที่จะเปลี่ยนหัวข้อวิจัย

ท้ายที่สุดแล้วหวังไห่เฟิงก็พูดจาเหลวไหลในเรื่องของลู่โจวให้กับลูกศิษย์ฟัง ดังนั้นมันคงน่าอายถ้าเขาจะเปลี่ยนไปวิจัยคาร์บอนทรงกลมแบบกลวงแทนอย่างกะทันหัน

ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะยังเป็นผู้นำให้ลูกศิษย์ได้ยังไง?

หวังไห่เฟิงถอนหายใจ “คุณพูดถูก หัวข้อนี้สำคัญมาก ฉันจะวิจัยเพิ่ม”

หวังไห่เฟิงพูดถึงคาร์บอนทรงกลมแบบกลวง

เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “อีกอย่าง เวลาไม่คอยท่า คุณเริ่มเขียนรายงานเปิดได้เลย ฉันจะให้คุณจัดการเรื่องนี้”

หลิวหงถาม “ผมควรขอเงินทุนวิจัยเท่าไหร่?”

หวังไห่เฟิงกล่าว “ตอนนี้ลองสักสิบล้านหยวน”

ปกติแล้วโปรเจกต์ของเขาจะไม่ได้เงินทุนขนาดนี้

แต่ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ ประเทศกำลังพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่อย่างกระตือรือร้น และโปรเจกต์วิจัยในสาขาที่เกี่ยวข้องก็ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนอย่างมาก

บังเอิญห้องแล็บของหวังไห่เฟิงวางแผนจะซื้อกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกนนิงตัวใหม่พอดี

เขาจึงสามารถใช้โอกาสนี้อัปเกรดอุปกรณ์ในห้องแล็บ

……………………………….