Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 337 ช่วงเวลาสำคัญ
สัญญาณไฟยังคงกะพริบอย่างต่อเนื่อง
ในที่สุดวิศวกรก็ตัดสินใจยกเลิกโปรแกรมและอุณหภูมิของชิปประมวลผลก็ลดลง
สัญญาณไฟสีฟ้าของ ‘ความหวัง’ ก็ดับลง
“การทดลองที่สามสิบเอ็ด”
เดวิดมองซีพียูของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในห้องแยกป้องกันรังสี แววตาเขาดูมืดมนสิ้นหวัง
การทดลองครั้งที่สามสิบเอ็ด
มันล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากวิศวกรคอมพิวเตอร์ที่ยังคงพูดถึงปัญหาทางเทคนิค ทุกคนในสถาบันวิจัยต่างก็รู้สึกหมดกำลังใจและเงียบเฉย
แม้แต่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ก็เหนื่อยล้า
ตลอดหนึ่งเดือนมานี้ สถาบันเดวิด อี ชอว์ใช้เงินไปกว่าสิบล้านเหรียญกับแบบจำลองนี้
ในช่วงนี้สถาบันเดวิด อี ชอว์ปรับปรุงขั้นตอนการคำนวณอย่างต่อเนื่อง และลู่โจวก็ยังคงปรับเปลี่ยนรายละเอียดของแบบจำลองเชิงทฤษฎีอย่างต่อเนื่องเช่นกันโดยการใช้ข้อมูลจากการคำนวณ
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจเลย
เดวิดหันไปมองวิศวกรแล้วถอนหายใจ “นั่นสิ มันไม่ได้ผล”
ลู่โจวละอาย “ผมออกค่าใช้จ่ายให้ไหม?”
เดวิดกล่าวด้วยน้ำเสียงสบายๆ “ไม่ ไม่เป็นไร เงินไม่ใช่ปัญหา การวิจัยก็เหมือนการพนัน มันก็เหมือนเราไปลาสเวกัสและเสียเงินมา”
สัญชาตญาณทางวิทยาศาสตร์ของเขาบอกกับเขาว่าแนวคิดนี้คุ้มค่าแก่การวิจัย
ดังนั้นเขาจึงยอมจ่ายเงิน
อย่างไรก็ตามเขาก็อดเพิ่มคำพูดไม่ได้ว่า “แม้ฉันจะไม่เคยเสียเงินมากขนาดนี้ตอนอยู่ที่ลาสเวกัสก็ตาม”
มีประชุมสรุปตอนท้ายการทดลอง
ทุกคนเงียบกันหมด
หลังลู่โจวพูดมุมมองของตนสั้นๆ หัวหน้ากลุ่มทดลองทั้งสองก็คุยกันเรื่องการทดลอง
ส่วนเดวิด เขาอยู่เงียบจนจบการประชุม
“ซ่อมบำรุงแอนตัน แล้วเริ่มการทดลองครั้งที่สามสิบสองในอีกสามวันให้หลัง” เดวิดหันไปมองวิศวกรที่อยู่ใกล้เขาแล้วกล่าว “ทำให้มั่นใจว่าแอนตันจะอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดก่อนการทดลอง”
วิศวกรพยักหน้า “ครับ บอส!”
“ฉันอยากพักสักหน่อย ฉันมั่นใจว่าพวกคุณก็เหมือนกัน” เดวิดขยี้ตา “แค่นี้แหละ จบการประชุม”
…
สำหรับการวิจัยวิทยาศาสตร์ ความล้มเหลวเล็กน้อยไม่ใช่อะไรเลย
แม้ว่าพวกเขาจะล้มเหลวสามสิบครั้ง ก็ไม่มีใครยอมแพ้
เพราะยังไงทุกคนก็รู้ว่าความจริงของวิทยาศาสตร์ไม่ได้รับมาง่ายๆ
เพื่อให้ทฤษฎีสมบูรณ์ ลู่โจวพร้อมล้มเหลวเป็นร้อยๆ ครั้ง
อย่างไรก็ตามถ้าการทดลองครั้งที่ห้าสิบยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เขาจะไม่ปล่อยให้เดวิดจ่ายค่าทดลองอีก
แม้ว่าเงินก้อนนี้จะไม่มีความหมายต่อเดวิด แต่ในใจเขา ลู่โจวรู้สึกยอมรับไม่ได้
ลู่โจวออกจากสถาบันวิจัยแล้วไม่ได้กลับไปที่หอพัก กลับกันเขาเดินดูรอบวิทยาเขตโคลัมเบียแทน
ไม่ใช่แค่แอนตันที่ต้องการพัก ลู่โจวก็ต้องการเวลาผ่อนคลายสมองที่ทำงานหนักเช่นกัน
เขาตั้งใจจะใช้เวลาอย่างน้อยวันหนึ่งโดยไม่คิดถึงเรื่องทดลอง
ลู่โจวเดินผ่านห้องสมุด เขาหลีกเลี่ยงอาคารวิชาการทั้งหมดโดยจิตใต้สำนึก
เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเดินมานานแค่ไหนแล้ว
รู้ตัวอีกที ลู่โจวก็อยู่หน้าอาคารปรัชญาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียแล้ว
ลู่โจวอดยิ้มไม่ได้
“นี่เป็นโชคชะตางั้นเหรอ?”
แม้เขาจะมีชะตากับปรัชญา แต่เขาก็ไม่มีความสุขเลย
สนามหญ้าหน้าอาคารปรัชญามีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ตั้งอยู่
มันเป็นรูปปั้นคนครุ่นคิด เขากำลังนั่งอยู่ แต่กล้ามเนื้อของเขาแข็งเกร็งราวกับว่าเขากำลังจมอยู่ในห้วงความคิดที่น่าสิ้นหวัง
นี่เป็นหนึ่งในสี่รูปปั้น ‘ครุ่นคิด’ ของโลก
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับพี่น้องรูปปั้นครุ่นคิดอีกสาม รูปปั้นนี้ดูน่าสงสารมาก มีเพียงลู่โจวคนเดียวเท่านั้นที่อยู่บนสนามหญ้า ไม่มีใครสนใจเลย
เขาเอามือสัมผัสกับรูปปั้นทองสัมฤทธิ์และรู้สึกถึงความเย็นจากปลายนิ้ว
“ฉันมองแกแล้วเหมือนเห็นตัวเอง”
การครุ่นคิดเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด
โดยเฉพาะการครุ่นคิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ทันใดนั้นลู่โจวก็มีความคิดแวบเข้ามา
ขอแค่มีคนให้แรงบันดาลใจแก่เขาบ้างล่ะก็
แม้แต่มันจะเป็นเพียงแรงบันดาลใจเล็กน้อยก็ตาม…
แต่แล้วลู่โจวก็ยิ้มแล้วส่ายหน้า
แรงบันดาลใจไม่ได้มาง่ายขนาดนั้น
นี่เป็นทฤษฎีที่สามารถพลิกโฉมหน้าวงการเคมี งั้นราคามันก็ถูกเกินไปแล้ว
ทันใดนั้นเองก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
มีบางอย่างปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
กล่องข้อความสีฟ้าเด้งขึ้นมาในวิสัยทัศน์
[ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำภารกิจรางวัลสำเร็จ!]
ลู่โจว “…?”
อะไรกันเนี่ย?!
…..
ซึ่งต่างจากสถาบันวิจัยเดวิด อี ชอว์ สถาบันวิจัยวัสดุบิงมหาวิทยาลัยบิงแฮมตันกำลังส่งเสียงเฮ
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาฉลอง การทดลองประสบความสำเร็จแล้ว แต่อย่าให้มันล้มเหลวในนาทีสุดท้าย” สแตนลีย์บอกผู้ช่วย “ไปจดสิทธิบัตรเดี๋ยวนี้!”
ผู้ช่วยพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น “ครับ ศาสตราจารย์!”
ศาสตราจารย์สแตนลีย์มองภาพเอสอีเอ็มแล้วอดยิ้มไม่ได้
การวิเคราะห์เบื้องต้นพิสูจน์ว่าโมเลกุลคาร์บอนเหมือนกรงสามารถยับยั้งการแพร่กระจายของสารประกอบพอลิซัลไฟต์ได้ในระดับหนึ่ง และต้นทุนการผลิตก็เป็นที่ยอมรับได้
อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการทดลองเพิ่มเติมเพื่อทดสอบผลลัพธ์เมื่อนำไปใช้กับแบตเตอรี่ลิเธียมซัลเฟอร์
ยกตัวอย่าง การผสมธาตุซัลเฟอร์กับโมเลกุลคาร์บอนเหมือนกรง พวกเขาจำเป็นต้องหาอัตราส่วนการผสมที่เหมาะสมรวมไปถึงวิธีการกระจายเชิงกล นอกจากนี้พวกเขาจำเป็นต้องทดสอบว่ามันมีประสิทธิภาพการยับยั้งเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลต่อการจดสิทธิบัตร แถมมันยังไม่ส่งผลต่อการส่งวิทยานิพนธ์
ทันทีที่พวกเขาค้นพบวิธีสร้างโมเลกุลคาร์บอนเหมือนกรง พวกเขาก็ประสบความสำเร็จแล้ว
โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเป็นผู้ชนะ!
พวกเขาเป็นผู้นำโปรเจกต์แบตเตอรี่ลิเธียม!
………………………………..