Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 349 แผนหนึ่งปี
เช้าวันต่อมา ลู่โจวมาที่ออฟฟิศ
เขามองดูลูกศิษย์ที่ห้าแล้วเดินไปอยู่ตรงหน้ากระดานดำ เขากระแอมเบาๆ “วันนี้ฉันมีเรื่องต้องประกาศ”
ทุกคนหยุดทำงานแล้วหันมามองศาสตราจารย์ที่กำลังยืนอยู่หน้ากระดานดำ
ลู่โจวเปลี่ยนน้ำเสียงให้ฟังเป็นทางการน้อยลง “เมื่อวานนี้ฉันได้จดหมายเชิญจากไอเอ็มยูพวกเขาเชิญฉันไปเข้าร่วมการประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติปี 2018 และให้ฉันบรรยายหนึ่งชั่วโมงที่งานประชุม”
แปะๆ…
ออฟฟิศเสียงดังไปด้วยเสียงปรบมือ
โดยเฉพาะฮาร์ดี้ เสียงปรบมือของเขากระตือรือร้นที่สุด เขากระทั่งพูดแสดงความยินดี
“ขอแสดงความยินดีด้วยศาสตราจารย์! ผมว่าเพื่อฉลอง…”
ลู่โจวโบกมือแล้วขัดจังหวะ
“เราจัดปาร์ตี้กันพอแล้ว”
ฮาร์ดี้ถอนหายใจ “ยังไม่พอ ชมรมฟุตบอลพรินซ์ตันมีปาร์ตี้ทุกอาทิตย์”
ลู่โจวเมินอีกฝ่าย “ส่วนเรื่องที่จะบรรยาย ฉันจะใช้ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ ผลการวิจัยของเราจะนำไปแสดงต่อชุมชนคณิตศาสตร์”
“ไม่มีใครเชื่อว่าข้อคาดการณ์นี้จะแก้ได้ เราจะบอกให้คนเหล่านั้นว่าพวกเขาคิดผิด”
ฉินเยว่ดูท่าทางลังเล “แต่ศาสตราจารย์ จากกรอบงานของคุณ งานวิจัยข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ของเรามีประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น นี่ยังห่างไกลจากการนำไปบรรยายได้…”
“เพราะงั้นพวกคุณจึงต้องทำงานให้หนักขึ้น” ลู่โจวกล่าวขณะมองดูฉินเยว่ จากนั้นเขาก็หันไปมองเวร่า “ฉันจะช่วยพวกคุณยามจำเป็น แต่ฉันหวังว่าพวกคุณจะทำโปรเจกต์วิจัยนี้สำเร็จด้วยมือของตน หากในกรณีที่ดีที่สุด วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จะกลายเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาโทของพวกคุณทั้งสาม”
แม้แต่คนไม่ชอบเสี่ยงอย่างฉินเยว่ก็โล่งอก
ถ้าศาสตราจารย์ช่วยเหลืองานวิจัย งั้นก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ปัญหาเดียวก็คือช่วงนี้ศาสตราจารย์ลู่กำลังศึกษาปัญหาเคมี ดังนั้นเขาอาจไม่มีเวลาว่างมาแก้ข้อคาดการณ์คณิตศาสตร์
“นี่เป็นแผนการเบื้องต้นของปีหน้า ฉันหวังว่าโปรเจกต์วิจัยของพวกคุณจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น” ลู่โจวหันไปมองเหว่ยเหวินแล้วกล่าว “เหว่ยเหวิน มาข้างนอกกับฉันสักครู่ ฉันมีเรื่องให้คุณทำ”
เหว่ยเหวินยิ้มมุมปากแล้วเดินออกไปนอกออฟฟิศทันที
ดูเหมือนอาจารย์ที่ปรึกษาของเขากำลังมอบหมายโปรเจกต์วิจัยให้เขาทำ
เขารอมานานแล้ว
…
ลู่โจวนึกแนวทางภารกิจของระบบออก
ด้านหนึ่งเขาจะให้เวร่าทำการวิจัยข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ต่อ เนื่องจากคุณค่าทางวิชาการของข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ นี่จึงเป็นตัวเลือกแรกของลู่โจว
อีกด้านหนึ่งเหว่ยเหวินกับเจอริกจะได้ไปทำโปรเจกต์แยกต่างหาก
อย่างไรก็ตามโปรเจกต์ของพวกเขาจะมีระดับต่ำกว่ามาก
ด้วยวิธีนี้ ถ้าการวิจัยข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์หยุดคืบหน้า ลู่โจวก็ยังมีตัวเลือกสำรอง
อย่างไรก็ตามต่อให้ระบบไม่ได้มอบภารกิจนี้ให้เขา ตัวเขาเองก็หาอะไรให้เหว่ยเหวินทำอยู่แล้ว
ท้ายที่สุดแล้วความรู้ของหนังสือเรียนก็มีจำกัด ความรู้ของงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์อันล้ำค่าไม่สามารถเรียนรู้ได้จากห้องสมุด
“…ทิศทางวิจัยของคุณคือปริภูมิฮิตเบิร์ทของการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน ฉันจำได้ว่าตอนที่คุณมาที่นี่ครั้งแรกฉันแนะนำให้คุณทำวิจัยฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์ น่าเสียดายช่วงนี้ฉันไม่ได้ศึกษาสาขานั้นเลย”
เหว่ยเหวินยืนอยู่ทางเดินนอกออฟฟิศ ลู่โจวหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “อย่างไรก็ตามแม้ว่าฉันจะไม่มีโปรเจกต์ที่เหมาะสมให้คุณ แต่ฉันยังแนะนำคนให้คุณได้”
เหว่ยเหวิน “ใคร?”
ลู่โจวยิ้ม “เขาเป็นเพื่อนฉัน ตามมา”
แม้ว่าไลฟ์สไตล์ของหลัวเหวินเซวียนจะค่อนข้างหย่อนยาน แต่เขายังมีพรสวรรค์และความสามารถ ไม่งั้นเขาย่อมไม่ได้รับข้อเสนอจากเอ็ดเวิร์ด วิตเตน
ท้ายที่สุดแล้ววิตเตนก็มีข้อกำหนดรับศิษย์ที่เข้มงวด
เหตุผลที่ทำไมลู่โจวถึงแนะนำเหว่ยเหวินให้หลัวเหวินเซวียนก็เพราะ การวิจัยของหลัวเหวินเซวียนเกี่ยวข้องกับปริภูมิฮิลเบิร์ท
นอกจากนี้เนื่องจากปริญญาโทของหลัวเหวินเซวียนคือสาขาการวิเคราะห์เชิงฟังก์ชัน เขาจึงมีความเชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์เป็นอย่างดี เขาสามารถสอนหลายๆ สิ่งให้แก่เหว่ยเหวิน
ลู่โจวพาเหว่ยเหวินไปที่ออฟฟิศของวิตเตน
เมื่อเขามาถึง เขาก็เห็นหลัวเหวินเซวียนกำลังอ่านเอกสารอยู่
เมื่อหลัวเหวินเซวียนเห็นลู่โจวยืนอยู่ที่ประตู เขาก็เผยรอยยิ้มออกมา
“อรุณสวัสดิ์ ลมอะไรหอบนายมาที่นี่ล่ะ?”
“ไม่มีอะไร แค่มาหาเฉยๆ” ลู่โจวยิ้มและมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ “อ่านวิทยานิพนธ์อยู่เหรอ?”
“ใช่ กิจวัตรประจำวันฉันคือเข้าเว็บ arXiv แล้วตรวจวิทยานิพนธ์” หลัวเหวินเซวียนกล่าว “สาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีก็แบบนี้แหละ ไม่ได้มีงานวิจัยฟิสิกส์ใหม่ๆมานานแล้ว ฉันไม่กลัวคิดไอเดียใหม่ๆ แต่ฉันกลัวมันไปซ้ำกับคนอื่น”
ลู่โจวถาม “คุณยังทำวิทยานิพนธ์ไม่เสร็จเหรอ?”
หลัวเหวินเซวียนถอนหายใจ “ไม่ ข้อกำหนดของวิตเตนสูงเกินไป วิทยานิพนธ์ของฉันยังไม่เป็นที่น่าพอใจ”
ลู่โจวถาม “ตกลงวิทยานิพนธ์ของคุณยังเป็นเรื่องเดิมอยู่ไหม?”
“ฉันเปลี่ยนเรื่องแล้ว” หลัวเหวินเซวียนยิ้ม “ตอนนี้ มันเกี่ยวกับการวิจัยสถานะโคฮีเรนต์ของการแกว่งฮาร์โมนิกดิสเตอร์เต็ด-qในปริภูมิฮิลเบิร์ทมิติจำกัด”
ลู่โจว “…”
เขาไม่รู้ว่าทำไมเจ้าสิ่งนี้ถึงคุ้มค่าแก่การโอ้อวด
ทันใดนั้นเองลู่โจวก็รู้สึกไม่แน่ใจว่าจะให้หลัวเหวินเซวียนยืมศิษย์ดีไหม
หลัวเหวินเซวียนสังเกตเห็นเหว่ยเหวินที่ยืนอยู่หลังลู่โจว เขาจึงถาม “นี่คือ?”
“ศิษย์ผม จบคณิตศาสตร์ประยุกต์จากมหาวิทยาลัยเยี่ยน…”
ลู่โจวลังเลไปชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจลองดู
แม้ว่าหลัวเหวินเซวียนจะมีข้อเสีย แต่เขาก็เป็นศิษย์ของวิตเตนมานานแล้ว เหว่ยเหวินมีประสบการณ์วิจัยเกือบเป็นศูนย์ ดังนั้นเขาจึงเรียนรู้จากหลัวเหวินเซวียนได้มากมาย
นอกจากนี้ลู่โจวรู้สึกว่าเขาควรช่วยเหลือหลัวเหวินเซวียน หลัวเหวินเซวียนอายุเกือบสามสิบแล้ว แต่ยังทำวิทยานิพนธ์ไม่เสร็จเลย
ดังนั้นลู่โจวจึงตบหลังเหว่ยเหวินแล้วกล่าว “ครั้งก่อนคุณไม่ได้บอกหรอกเหรอว่าอยากได้อัจฉริยะคณิตศาสตร์ในสาขาปริภูมิฮิลเบิร์ตมาช่วยเหลือโปรเจกต์วิจัยของคุณ? นี่ไง”
หลัวเหวินเซวียนรู้สึกปิติยินดี “ขอบคุณมาก! งานวิจัยของฉันมาถึงคอขวดแล้ว นายเป็นผู้ช่วยชีวิตฉันเลย!”
เขามองเหว่ยเหวินแล้วกล่าว “เหว่ยเหวินใช่ไหม? ฉันขอขอบคุณล่วงหน้าเลย”
เหว่ยเหวินย่อมสังเกตเห็นว่าชายคนนี้ดูไม่น่าเชื่อถือ เขาจึงลังเล็กน้อย
ฉันทำโปรเจกต์วิจัยกับชายคนนี้จะไม่เป็นไรแน่เหรอ?
อย่างไรก็ตามเหว่ยเหวินเชื่อมั่นในการตัดสินใจของลู่โจว
เหว่ยเหวินกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “ผมจะ…พยายามสุดความสามารถ”
………………………………….