Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 379 พลังส่งที่มากกว่า!
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 379 พลังส่งที่มากกว่า!
ทีมโปรเจกต์ ‘He3’ เหลือเวลาอีกไม่มากนัก
ทุกคนกำลังแข่งกับเวลา
ในที่สุดเนื่องจากความพยายามของทุกคน ตัวต้นแบบหยาบๆก็เสร็จสิ้น
ตัวต้นแบบมีอยู่สองส่วน ส่วนหนึ่งคือ ‘ปืนอะตอม’ ที่ใช้เร่งและปล่อยอะตอมฮีเลียม ส่วนอีกส่วนคือวัสดุเป้าหมายที่ติดตั้งในห้องสุญญากาศระบบปิดเพื่อรับอะตอมฮีเลียม3 นอกจากนี้ยังมีคอมพิวเตอร์และเซนเซอร์ต่างๆ
ส่วนทำไมถึงเป็นตัวต้นแบบหยาบๆ ก็…
มันเป็นเพราะชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดถูกประกอบเข้าด้วยกัน
วงจรการเร่งของปืนอะตอมถูกถอดมาจากเครื่องเร่งอนุภาคเครื่องเก่าจากห้องแล็บแห่งชาติอาร์กอน ห้องสุญญากาศระบบปิดใช้เก็บพลาสมาถูกออกแบบโดยพีพีพีเอลตอนศึกษาสเตลล่าร์เรเตอร์
ทั้งระบบนี้สามารถทำให้พลาสมามีความร้อนได้สูงเจ็ดพันองศา ซึ่งมันยังมีระยะทางอีกไกลกว่าอุณหภูมิจะสูงถึงหนึ่งร้อยล้านองศา สนามแม่เหล็กไฟฟ้ามีขนาดต่ำกว่าของเครื่องสเตลลาเรเตอร์ซึ่งก็คือ 10T
อย่างไรก็ตามมันเพียงพอแล้ว
การทดลองทุกครั้งจะเริ่มด้วยการพิสูจน์ความเป็นไปได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำนิวเคลียร์ฟิวชั่นในห้องสุญญากาศระบบปิดให้เสร็จ และพวกเขาก็ไม่ต้องการพลาสมาความหนาแน่นสูง
พวกเขาแค่ต้องรวบรวมข้อมูลจากพลาสมาให้เสร็จแล้ววิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จาก’การสังเกต’
จากนั้นพวกเขาก็แค่ประกอบอุปกรณ์สังเกตนี้เข้ากับเครื่องสเตลล่าร์เรเตอร์
อันที่จริงความคิดเดิมของลู่โจวคือการหาเครื่องสเตลล่าร์เรเตอร์ตัวเก่าจากกลุ่มการทดลอง WEGA
แต่มันเป็นแค่ความคิดเท่านั้น ศาสตราจารย์เลเซอร์สันบอกเขาว่าเครื่องสเตลล่าร์เรเตอร์ไม่อาจซื้อได้ด้วยเงิน
โดยรวมแล้ว ตัวต้นแบบก็เสร็จสมบูรณ์!
วิถีเครื่องเร่งอนุภาคคือ’ปากกระบอก’ปืนอะตอม ส่วนวัสดุเป้าหมายสำหรับอนุภาคฮีเลียม3พลังงานสูงคือโลหะผสมทังสเตน-ไทเทเนียม หลังวัสดุเป้าหมายก็คือโพรบที่มีความไวที่จะรวบรวมข้อมูลของผลกระทบ
แม้ว่าทีมวิศวกรจะพบปัญหามากมาย แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าราบรื่น
เมื่อปรับเปลี่ยนขั้นตอนสุดท้ายเสร็จ ศาสตราจารย์เลเซอร์สันก็ประกาศเริ่มการทดลองอย่างกระตือรือร้น
นักวิจัยในห้องแล็บใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนกับโปรเจกต์นี้ พวกเขาจำเป็นต้องทำให้การทดลองประสบความสำเร็จเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ
อย่างไรก็ตาม…
ไม่ใช่ทุกอย่างจะราบรื่นเหมือนที่คาดไว้
ทันทีที่อะตอมฮีเลียม3 ถูกฉีดเข้าไปในพลาสมา อะตอมอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและชนเข้ากับผนังวงโคจร เครื่องตรวจจับที่เชื่อมต่อกับอีกด้านของวัสดุเป้าหมายรวบรวมข้อมูลคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของอะตอมฮีเลียม3
พระเจ้าเหมือนจะเล่นตลกกับนักวิจัย ฮีเลียม3 ที่ถูกยิงมาจากปืนอะตอมไม่ได้ผ่านพลาสมาตามที่คาดไว้
มันไม่ได้ชนเข้ากับวัสดุเป้าหมาย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขายิงกระสุนอะตอมได้สำเร็จ
แต่กระสุนมันหายไป
การทดลองครั้งแรกล้มเหลว…
…
การทดลองครั้งที่ยี่สิบเอ็ดจบลงแล้ว
บรรยากาศในห้องแล็บเงียบเชียบมาก
อะตอมโพรบที่ติดอยู่หลังวัสดุเป้าหมายยังตรวจจับสัญญาณที่ปล่อยมาจากผลกระทบของฮีเลียม3ไม่ได้เลย
การทดลองกำลังเผชิญกับคอขวดที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์มา
ถ้าไม่สามารถรวบรวมอะตอมที่ปล่อยออกมาได้ งั้นการทดลองก็จะไร้ความหมาย
คนแรกที่ทำลายความเงียบเป็นวิศวกรนิวเคลียร์ฟิวชั่น
เขากล่าว “บางทีโพรบอาจไม่เซนสิทีฟพอใช่ไหม? มันอาจมีผลกระทบเกิดขึ้นแล้ว เราแค่ตรวจไม่พบเอง”
มันเป็นไปได้ ถ้าสัญญาณการชนกันอ่อนแอเกินไป เครื่องตรวจจับอาจเพิกเฉยมันไป
“เป็นไปไม่ได้” นักฟิสิกส์ทฤษฎีพลาสมาเป็นคนพูด “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีรูปร่างที่เฉพาะตัว สถานการณ์ที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็คืออะตอมฮีเลียม3 เบี่ยงเบนไปจากวิถีโคจร…คุณน่าจะรู้นะ”
นักฟิสิกส์พลาสมามองลู่โจว
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร เขาแค่พยักหน้าอย่างเคร่งเครียด
ลู่โจวบอกได้จากภาพสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าว่าอะตอมฮีเลียม3ไม่ได้เจาะเข้าไปในพลาสมา กลับกันมัน’หายไป’ในอนุภาคพลาสมา
อะตอมอาจถูกกักอยู่ในสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของพลาสมา แต่วิถีวงจรเปลี่ยนไปเนื่องจากการชนกัน…
ถ้าอนุภาคเข้าสู่ระบบความอลวนที่ตรวจจับไม่ได้ งั้นมันก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบความอลวน ต่อให้มันยังมีอยู่ แต่ในแง่ของฟิสิกส์ มันถือว่า’หายไป’
การวิจัยดูเหมือนจะมาถึงทางตัน…
“แนวคิดนี้อาจไม่ได้ผล” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันกล่าว เขาถอดหมวกนิรภัยออกแล้วมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นเขาก็หันไปมองลู่โจว “พลาสมาที่ใช้ในการทดลองมีอุณหภูมิ 7,000 องศาเท่านั้น มันห่างไกลจากความหนาแน่นพลาสมาของเครื่องสเตลลาเรเตอร์…”
เจตนาของศาสตราจารย์เลเซอร์สันนั้นชัดเจน
แม้ว่าอุณหภูมิจะลดลงอย่างมาก แต่อนุภาคฮีเลียม3ยังไม่ได้เจาะพลาสมา มีข้อสงสัยว่าอนุภาคพลาสมา3จะไม่สามารถเจาะพลาสมาอุณหภูมิหลายร้อยล้านองศาในเครื่องสเตลล่าร์เรเตอร์ได้
ลู่โจวมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ จู่ๆ เขาก็กล่าว “เราต้องการปืนอะตอมที่มีแรงส่งมากกว่านี้!”
“ใช่ เราต้องการปืนอะตอมที่ใหญ่กว่านี้ มันคงจะดีถ้าได้เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนสวิสมาเป็นโมดูลเร่งความเร็วแล้วใส่อะตอมฮีเลียม3ของเราบนจรวดและทำให้มันทะลุผ่านอนุภาคทั้งหมด” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันกล่าว จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวเสริม “คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“อย่าพูดเกินไปขนาดนั้นสิ” ลู่โจวส่ายหน้า “ฉันคำนวณแล้ว เราแค่ต้องเพิ่มความเข้มของสนามแม่เหล็กของปืนอะตอมเป็น 1T จากนั้นในทางทฤษฎี อนุภาคฮีเลียม3จะเจาะเข้าไปในพลาสมาได้”
ลู่โจวไม่ได้คำนวณตัวเลขนี้อย่างแม่นยำนัก มันเป็นการประมาณคร่าวๆ จากประสบการณ์
พวกเขาอาจไม่ต้องใช้ถึง 1T แต่ 1T พอแน่นอน
“เหลวไหล! เครื่องสเตลล่าร์เรเตอร์มีความเข้มของสนามแม่เหล็กเพียง 10T เท่านั้น!” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันอดพูดไม่ได้ “คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม? นักคณิตศาสตร์อย่างคุณมีความคิดเรื่องตัวเลขไหม? คุณรู้ไหมว่าวัสดุตัวนำยวดยิ่งมีราคาแพงแค่ไหน?”
นี่เป็นปัญหาเรื่องเงินทุน
แม้ว่าห้องแล็บพีพีพีเอลจะมีประสิทธิภาพ แต่เงินทุนรายปีมีเพียงสี่สิบล้านเหรียญเท่านั้น
เงินก้อนนี้ถูกแบ่งเป็นหลายโปรเจกต์ และโปรเจกต์ ‘He3’ก็มีเงินทุนเพียงสี่ล้านเหรียญเท่านั้น
พวกเขาต้องใช้ชิ้นส่วนและอุปกรณ์รีไซเคิลเพื่อประหยัดเงิน
ท้ายที่สุดแล้วการทดลองทุกครั้งที่พวกเขาทำก็เป็นการผลาญเงิน
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันพลันมีความคิดแวบเข้ามา
บางที…การทำงานกับลู่โจวอาจเป็นความคิดที่ไม่ดี
วิศวกรในห้องแล็บนิ่งเงียบกันทุกคน พวกเขาไม่อยากให้ศาสตราจารย์เลเซอร์สันโกรธเพิ่ม
คำพูดของลู่โจวเหลวไหลมาก มันเป็นเหมือนคนรวยบอกให้คนไร้บ้านซื้อบ้านเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมด
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขารอให้เลเซอร์สันพูดจบอยู่เงียบๆ
จากนั้นเขาก็มองศาสตราจารย์เลเซอร์สันก่อนจะกระแอมแล้วพูดขึ้นมาช้าๆ “ถ้าเกิด…ฉันแก้ปัญหาเงินทุนได้ล่ะ?”
………………………………….