Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 40
ตอนที่ 40 แค่ก่อกวนโง่ๆ
[สวัสดีลู่โจว นี่คือแผนกวิจัยคณิตศาสตร์ Courant ของมหาลัยนิวยอร์ก ก่อนอื่นขอบคุณที่ท่านส่งงานวิจัยของท่านมาที่วารสาร[ทฤษฎีและคณิตศาสตร์ประยุกต์] หนึ่งในข้อสรุปที่ท่านพูดถึงในวิทยานิพนธ์’ทฤษฏีอินเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวดำเนินการเชิงเส้นและฟังก์ชั่นเชิงเส้น’ทำให้งานวิจัยที่เราร่วมมือกับสถาบัน Paul Scherrer มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ]
[…โปรเจ็คนี้เกี่ยวกับการวิเคราะห์สเปกตรัมหลังคลื่นไหวสะเทือนซึ่งมันจะถูกใช้ในการสำรวจธรณีวิทยาและวิจัยแผ่นดินไหว รายละเอียดเฉพาะของโปรเจ็คนี้อยู่ภายใต้ข้อตกลงการรักษาความลับ แต่ผมขอสัญญา งานวิจัยของท่านจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่สงบสุข…]
[…เมื่อเราพบว่าท่านอายุ 19 ปีเท่านั้น ศาสตราจารย์ร็อดเวลล์และศาสตราจารย์หลี่ของสถาบันเราก็ได้แสดงความแปลกใจออกมา
ในขณะเดียวกัน ผมค่อนข้างชื่นชมความสามารถทางคณิตศาสตร์ของท่าน ในขณะที่กำลังแสดงความขอบคุณสำหรับงานวิจัย เราก็ขอเชิญท่านอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ถ้าท่านสนใจมาอเมริกาเพื่อศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทโปรดติดต่อกลับมาหาเรา วิทยาเขตของมหาลัยนิวยอร์กเปิดต้อนรับท่านเสมอ]
ปักกิ่ง มหาลัยอู่เต๋าโข่ว ณ อพาร์ทเม้นท์สไตล์เก่าแห่งหนึ่ง
จินหลิงไดอารี่อยู่บนโต๊ะ เนื้อหามันถูกยกมาจากจดหมายจากมหาลัยนิวยอร์ก มันเลือกบางส่วนจากจดหมายมาเพื่อสรุปความขัดแย้งบนเว่ยป๋อ
ส่วนที่มาของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ มันถูกส่งมาจากเพื่อนร่วมชั้นเก่าของเขาที่เป็นอาจารย์ใหญ่ที่มหาลัยจินหลิง
นอกจากนี้มันยังส่งมาพร้อมกับสำเนาจดหมายภาษาอังกฤษ
“ก็แค่ก่อกวนโง่ๆ!”
ชายชราผมขาวอ่านหนังสือพิมพ์เสร็จ เขาดันกรอบแว่นแล้วส่ายหน้า นิ้วที่เขาวางอยู่บนโต๊ะกำลังสั่นด้วยความโกรธ
ชายกลางคนเดินเข้ามาในห้องหนังสือ เมื่อเขาเห็นสีหน้าของชายชรา เขาก็ถาม “พ่อ อะไรทำให้พ่อโกรธขนาดนี้?”
“ดูเอง” ชายชรากล่าวแล้วนิ้วเคาะตรงหนังสือพิมพ์
ชายกลางคนเห็นหน้าปกหนังสือพิมพ์แล้วเข้าใจทันที
เขาแตกต่างจากพ่อที่เกษียณอายุแล้วที่ใช้เวลาทั้งวันเพื่อเล่นกับหมากับเล่นหมากรุก เขาใช้อินเตอร์เน็ตบ่อยครั้ง เขาย่อมได้ยินข่าวที่มาแรงอันนี้ เมื่อวานเขาพึ่งพูดเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานอยู่เลย
มันไม่สำคัญว่าวิทยานิพนธ์จะมีปัญหาจริงหรือไม่ ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็น’ผู้เชี่ยวชาญ’พยายามจับนักศึกษาปริญญาตรี มันเป็นกลยุทธ์ที่ละโมภเพื่อชื่อเสียง
เขาแค่พยายามนินทาชาวบ้าน เป็นตัวสร้างปัญหาที่น่ารำคาญ
คุณอาจพูดได้ว่าเขากำลังทำลายปัญญาชน ชั่วร้ายอะไรแบบนี้!
ชายคนนั้นยิ้มแล้วถาม “พ่อรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?”
“คนนอกชี้นิ้วลงมา อุกอาจอะไรแบบนี้! ฉันไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีก!…”
มันเหมือนกับดวงตาขุ่นมัวของเขาจะตกลงไปในห้วงความทรงจำในอดีต
ชายชราอ้าปาก จากนั้นจู่ๆเขาก็ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไร ฉันจะไม่พูดถึงมัน เรื่องมันแล้วไปแล้ว”
จากนั้นเขาก็ดูหนังสือพิมพ์อีกครั้ง มันอ้างอิงบล็อกโพสต์ที่เกี่ยวกับบล็อกเกอร์ที่ชื่อจูฟางไฉ
“…บทความนี้เขียนได้ดี มันคล้ายกับประเพณีที่ตกทอดจากอดีต” ชายชรากล่าว เขาใช้ที่วางแขนของเก้าอี้พยุงตัวเองขึ้นมาแล้วลุกขึ้นยืน
ชายกลางคนถาม “พ่อ? พ่อจะออกไปข้างนอก? เราใกล้ถึงเวลาทานข้าวแล้ว”
ชายชราโบกมือแล้วเดินไปที่ประตู “ฉันไม่กิน ฉันจะไปบ้านเพื่อนร่วมชั้นเก่า! ฉันโกรธมาก หัวใจฉันรู้สึกอึดอัด!”
…..
จดหมายขอบคุณที่[จินหลิงไดอารี]โพสต์ได้เปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชน
นักศึกษาที่ได้รับการยอมรับจากมหาลัยนิวยอร์กไม่สามารถเป็นมะเร็งโลกวิชาการ
ผู้คนที่เคยสงสัยลู่โจวก็เริ่มพิจารณาข้อมูลใหม่อีกครั้ง
มหาลัยนิวยอร์กติดอันดับท็อป 30 ของโลก เราอาจกล่าวได้ว่ามหาลัยจินหลิงปกป้องชื่อเสียงของตน แต่มันไม่มีเหตุผลที่จะมีคนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาทำแบบนั้นใช่ไหม? นอกจากนี้ศูนย์วิจัยของสวิสก็ยังฟังดูโดดเด่นเช่นกัน…
ข่าวนี้ออกมาทำให้จูฟางไฉโกรธจัด
เขาไม่อาจนั่งดูดาย เขากระโดดออกจากเก้าอี้แล้วเผยแพร่โพสต์ที่สาม
เขาไม่อาจพูดถึงคุณค่าทางวิชาการของวิทยานิพนธ์ชิ้นนี้อีกต่อไป
“แม้ว่าคุณจะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับวิทยานิพนธ์ แต่คุณยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณเขียนมันเอง!”
“นักศึกษาปริญญาตรีจะเขียนวิทยานิพนธ์แบบนี้ได้อย่างไร?”
“ใครพิสูจน์ได้? มหาลัยจินหลิง? เพียงเพราะคุณไปห้องสมุดไม่กี่ครั้ง? ผมเข้าห้องสมุดนับครั้งไม่ถ้วน ทำไมผมถึงไม่สามารถเขียนวิทยานิพนธ์ 10 ฉบับในหนึ่งเดือน?”
“คุณบอกว่าคุณเป็นอัจฉริยะ ผมไม่เชื่อ”
ลู่โจวมองโพสต์ของจูฟางไฉแล้วคิด ‘มันเป็นเพราะคุณโง่…’
อย่างไรก็ตามโชคร้าย ฝ่ายตรงข้ามของลู่โจวไม่ได้ให้โอกาสเขา
การถกเถียงนี้พัฒนาจนเริ่มน่าเกลียด
ขณะที่ลู่โจวคิดว่าการถกเถียงครั้งนี้จะดำเนินต่อไป หนังสือพิมพ์[หัวกั๋วชิงเหนียน]ก็เผยแพร่ข่าว มันทำลายเรื่องตลกนี้ทันที
พาดหัวข่าวครอบงำมาก
[ความทะเยอทะยานของฮีโร่ตัวน้อย!]
บทความไม่ได้พูดถึงสงครามออนไลน์เมื่อสักครู่ มันรายงานแค่เรื่องของนักศึกษามหาลัยธรรมดาที่ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ SCI 11 ฉบับในปีนี้ นอกจากนี้ศาสตราจารย์ทั้งสองจากมหาลัยอู่เต๋าโข่วก็ได้ประเมิณวิทยานิพนธ์เหล่านี้และจดหมายขอบคุณที่ข้ามมหาสมุทรมา
และชื่อของเขาก็คือลู่โจว
บทความนี้ไม่เพียงถูกเผยแพร่ในวารสารเท่านั้น แต่มันยังถูกโพสต์บนบัญชีเว่ยป๋ออย่างเป็นทางการของหนังสือพิมพ์[หัวกั๋วชิงเหนียน]ด้วย
นอกจากนี้[เหรินเหรินไดอารี่]และสื่ออื่นๆอีกมากมายก็ได้รีโพสต์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ลู่โจวกลับอยู่ในหน้ามาแรงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขามาอยู่ในหน้ามาแรงด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง…
จูฟางไฉจ้องมองหน้าจอด้วยความโกรธ เขาเหงื่อไหลไม่หยุด
จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเขากำลังเล่นอะไรที่ไม่เจียมตน
ในอดีต ไม่มีใครสนใจเขา เขาทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ทุกคนเป็นตัวตนเล็กๆเช่นเดียวกับเขา มากสุดก็แข็งแกร่งกว่าเขาเล็กน้อย แต่มันก็ยังอยู่ห่างไกลจากการทำลายเขา
อย่างไรก็ตามตอนนี้
สื่อพยายามดันให้ลู่โจวเป็นแบบอย่างของนักศึกษาที่เจิดจรัส แต่การถกเถียงของเขามันตรงข้ามกับการประชาสัมพันธ์ของสื่อ
แย่แล้ว…
ฉันจะทำยังไง?
ยอมแพ้?
แต่แฟนคลับของฉันไม่ชอบ แฟนคลับที่หาได้ยากอาจหายไปทั้งหมด
แต่ถ้าฉันไม่ยอมแพ้…
อันที่จริงจูฟางไฉกลัวว่าเขาจะถูกเรียกตัวออกไป
ไม่ว่าคนเราจะมีแฟนคลับมากแค่ไหน เราก็ยังสื่อทำลายได้ง่ายๆ
ในเวลานั้นเองโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
มันเป็นสายจากนักวิจารณ์ทางการศึกษาอีกคนชื่อจงป๋อเหวิน
ชายคนนี้เขียนโพสต์คล้ายเขา แต่รุนแรงน้อยกว่า มุมมองของเขาก็ไม่รุนแรงเท่า’ปากใหญ่’เช่นกัน ผู้คนมักเรียกเขาว่าเฒ่าจง เขาเป็นคนใจดีและมีจิตใจงาม
“จู เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว มันยังไม่สายเกินไป ถ้านายทำต่อ ฉันเกรงว่าจะมีปัญหาเอา” เฒ่าจงกล่าวอย่างหนักอึ้ง
“เฒ่าจง มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากหยุด แต่ฉันหยุดไม่ได้!” จูฟางไฉถอนหายใจ
เฒ่าจงเศร้า “คุณคิดว่ามหาลัยเหล่านี้ตอแยด้วยง่ายหรือ? คุณคิดว่าพวกเขาไม่มีผู้ติดตามเลยทำ? เรื่องนี้เกี่ยวกับผู้ติดตาม?! ทำไมคุณถึงไปมีเรื่องกับมหาลัยในเมื่อนายมีเพื่อนเก่าเพียงน้อยนิด?”
“ฉันไม่ได้อยากล่วงเกินมหาลัยจินหลิง ฉันแค่อยากวิจารณ์เจ้าหนูนี่ ใครที่เห็นวิทยานิพนธ์ 10 ฉบับในหนึ่งเดือนก็จะคิดว่ามันไม่ปกติใช่ไหม? ใครจะรู้ว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะใหญ่แบบนี้? ฉันคิดว่ามันต้องมีปัญหา!” จูฟางไฉโต้เถียง
“ฉันคิดว่าสมองคุณอะมีปัญหา” เฒ่าจงกล่าว เขาอดดูถูกไม่ได้ “ใช้สมองคุณคิด นักศึกษาปริญญาตรีตีพิมพ์วิทยานิพนธ์ 10 ฉบับในหนึ่งเดือน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา!”
ตอนนี้คุณก็คิดแบบนี้แล้ว…
คุณพูดถูก…
แต่ตอนนี้จะเสียใจมันก็สายไปแล้ว
“งั้นคุณแนะนำให้ฉันทำยังไง?” จูฟางไฉกล่าวแล้วถอนหายใจ
“เรื่องนี้แก้ไขได้อย่างง่ายดาย พวกเขาแค่อยากให้คุณขอโทษ ถ้าคุณขอโทษ ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง เรื่องนี้ก็จะจบลง” เฒ่าจงกล่าวทางโทรศัพท์
“ไม่มีทาง ฉันจะสู้คดี คดีไม่แพงนัก…ถ้าฉันยอมรับความพ่ายแพ้ ฉันจะเสียมากกว่า” จูฟางไฉกล่าว เขากัดฟันพูด สุดท้ายเขาก็ส่ายหน้า “อย่างมากฉันจะพูดน้อยลง”
ไม่มีทางที่ฉันจะออกไปขอโทษ ฉันไม่เคยขอโทษ
เขาจะเงียบใส่พวกเขาหรือไม่งั้นเราก็ขึ้นศาลกัน!
เขาเคยเห็นพายุลูกใหญ่กว่านี้!
เขาเขียนว่าชาหลงจิ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งและถูกรัฐบาลฟ้องร้อง สุดท้ายเขาก็เสียหกแสนหยวนเท่านั้น ศาลบังคับให้เขาจ่ายเงินได้ แต่บังคับให้เขาขอโทษไม่ได้!
เฒ่าจงถอนหายใจแล้วส่ายหน้า “งั้นฉันจะไม่ช่วยคุณแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะทำดีที่สุด”
เขาวางสาย