Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 429 การบรรยายข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 429 การบรรยายข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์
แม้ว่าช่วงบ่ายลู่โจวจะเมา แต่เนื่องจากระบบเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพ เขาจึงร่วมปาร์ตี้ตอนกลางคืนได้
เขาเป็นหนึ่งในตัวเอกของงานประชุม ถ้าเขาไม่เข้าร่วม งานปาร์ตี้ก็คงไม่น่าสนใจ…
ปาร์ตี้เริ่มตอนหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนรู้สึกสนุกไม่มากพอ ดังนั้นเขาจึงเสนอให้ใช้ช็อกโกแลตบอลของบราซิลที่ศาสตราจารย์พรินซ์ตันได้รับที่งานประชุมเป็นชิปเล่นบริดจ์
มันฟังดูเป็นความคิดที่น่าสนใจ ดังนั้นลู่โจวจึงร่วมสนุกด้วย ตอนแรกเขาเสียชิปไปเกือบหมด เพราะเขาไม่ค่อยคุ้นแต่จากนั้นเขาก็เริ่มครองเกมได้
การเล่นไพ่กับนักคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก
ลู่โจวได้ยินเฟฟเฟอร์แมนบอกว่าทุกคนบนโต๊ะยกเว้นลู่โจวเป็นสมาชิกชมรมบริดจ์ที่สถาบันขั้นสูงพรินซ์ตัน
ก่อนหน้านี้ลู่โจวทำงานที่สถาบันการศึกษาขั้นสูงมาเป็นปี เขาไม่เคยรู้เรื่องชมรมที่น่าสนใจนี้เลย
ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนสับไพ่ “ถ้าคุณสนใจบริดจ์ คุณก็มาเข้าร่วมชมรมของเราสิ ถ้าไม่มีโอกาสพิเศษ เราจะเล่นทุกวันตั้งแต่บ่ายสองถึงบ่ายสามที่ห้องกิจกรรมสถาบันขั้นสูง ถ้าอยากเล่นคุณมาเล่นกับเราได้ทุกเมื่อเลย”
ลู่โจวกล่าว “แต่ผมเป็นที่ปรึกษาให้ชมรมโดรนแล้ว”
“ไม่เป็นไร คุณเข้าชมรมได้มากตามที่ต้องการเลย” ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม เฟฟเฟอร์แมนเป็นคนดังในวิทยาเขตพรินซ์ตัน เขากล่าว “ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์กว่ายี่สิบชมรมแล้วมั้ง”
จู่ๆ ลู่โจวก็รู้สึกเหมือนพลาดสิ่งที่น่าสนใจไปมากมาย…
พวกเขาเล่นบริดจ์กันจนถึงเที่ยงคืน สุดท้ายลู่โจวมีช็อกโกแลตบอลเต็มกระเป๋า เขาพลันนึกได้ว่าพรุ่งนี้มีบรรยายทั้งหมดสี่สิบห้าที่ที่เขาต้องไปดู เขาจึงกล่าวลากับทุกคน
ลู่โจวกลับไปนอนที่ห้อง
เช้าวันถัดมา ลู่โจวตื่นมาพร้อมกับรอยคล้ำใต้ดวงตา เขาลุกไปอาบน้ำและออกจากห้องโรงแรมพร้อมกับหาวไม่หยุด
เขาขึ้นลิฟต์ลงไปชั้นล่างแล้วเดินไปห้องอาหาร เขาเห็นโมลิน่า เขาจึงทักทายเธอทันที
“อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์” โมลิน่าสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ดวงตา เธอล้อเขา “โต้รุ่งเหรอ?”
ลู่โจวหาว “ไม่…แค่เหนื่อยนิดหน่อย”
เวร่าที่เพิ่งทานมื้อเช้าเสร็จเดินออกห้องอาหารแล้วบังเอิญเจอกับลู่โจว
เมื่อสาวน้อยเห็นเขา เธอก็ทักทายอย่างสุภาพ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะศาสตราจารย์ลู่”
” อรุณสวัสดิ์” ลู่โจวยิ้มและให้กำลังใจเธอ “สู้ๆ นะ!”
“ค่ะ!” เวร่าพยักหน้าอย่างแรง แต่สุดท้ายเธอก็อดหาวออกมาไม่ได้
แม้ว่าเธอจะนอนตั้งแต่หัวค่ำ แต่พอเธอคิดเรื่องการบรรยาย มันก็ทำให้เธอนอนแทบไม่หลับ
เธอเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียงและเผลอหลับไปตอนตีสาม
เธอรู้สึกมึนๆ เหมือนจะวูบหลับตอนยืน
โมลิน่าดูเหตุการณ์ตรงหน้า จากนั้นก็มองลู่โจวด้วยสายตาแปลกๆ
“…พูดตรงๆ เมื่อคืนคุณทำอะไรกันมา?”
เมื่อลู่โจวได้ยินคำถามแปลกๆ เขาก็ถาม “คุณหมายความว่ายังไง?”
โมลิน่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็พลันส่ายหน้า “…ไม่มีอะไร ฉันไม่เห็นอะไร ฉันไม่ได้ถามอะไร”
ลู่โจว “…?”
โมลิน่าดูเหมือนกำลังตัดสินใจระหว่างจรรยาบรรณกับมิตรภาพของเธอกับลู่โจว ลู่โจวรู้สึกเหมือนเธอเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง…
…
การบรรยายของเวร่าเริ่มตอนสิบโมง เธอเป็นส่วนหนึ่งของหมวดทฤษฎีจำนวน
ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาบรรยายของเวร่า และลู่โจวไม่อยากเสียเวลาเปล่า ดังนั้นเขาจึงเดินเตร่ไปมารอบงานประชุม
และเขาก็มาถึงหมวดเรขาคณิตเชิงพีชคณิตโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องบรรยาย เขาก็เห็นว่าผู้ที่กำลังบรรยายหนึ่งชั่วโมงเหมือนจะเป็นคนคุ้นเคย นั่นคือศาสตราจารย์ชูลทส์
ลู่โจวสนใจหัวข้อบรรยายที่ถูกเขียนบนกระดานขาว เขานั่งลงแถวหลังแล้วเริ่มฟัง
พูดง่ายๆ ก็คือการบรรยายของชูลทส์ตั้งอยู่บนทฤษฎีปริภูมิสมบูรณ์ที่เขาสร้างขึ้น ซึ่งมันได้แก้ปัญหาโปรแกรมของแลงแลนด์ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับข้อคาดการณ์ของเบิร์กลีย์ซอฟต์แวร์ดิสทริบิวชัน
ลู่โจวมีความเข้าใจในทฤษฎีปริภูมิสมบูรณ์แค่พื้นฐานเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะฟังการบรรยายของชูลทส์ให้รู้เรื่อง
หลังลู่โจวฟังการบรรยายของชูลทส์เสร็จ เขาก็ไปห้องบรรยายสมการเชิงอนุพันธ์ย่อย แต่เขาก็ไม่เห็นมีการบรรยายที่น่าสนใจเลยสักน้อย
มีบางคนที่ยื่นสมัครบรรยายสมการนาเวียร์-สโตกส์สามมิติ แต่เนื่องจากลู่โจวพิชิตปัญหารางวัลมิลเลนเนียมแล้ว พวกเขาจึงต้องทิ้งการบรรยาย…
เวลาผ่านไปถึงประมาณสิบโมง
ห้องบรรยายทฤษฎีจำนวนมีคนแน่นห้อง
ลู่โจวหาที่นั่งแถวหลังแล้วนั่งรอเริ่มการบรรยายอยู่เงียบๆ
ฝ่ามือของเวร่าเปียกโชกด้วยเหงื่อ เธอเดินขึ้นเวทีอย่างกระวนกระวายใจ
หลายคนในห้องบรรยายต่างประหลาดใจกับอายุของผู้บรรยาย แต่เนื่องจากคณิตศาสตร์เป็นสาขาของนักวิชาการรุ่นใหม่ พวกเขาจึงไม่ได้มีปฏิกิริยารุนแรงเกินไป
เวร่าหายใจเข้าลึกๆ แล้วนึกถึงคำพูดให้กำลังใจของศาสตราจารย์ จากนั้นเธอก็ตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อพยายามสงบจิตใจของตนเอง
“เธอทำได้…เวร่า พุลยุย เธอทำได้น่า!”
เธอให้กำลังใจตัวเอง สายตาของเธอดูมั่นใจขึ้น
ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ใกล้จะเริ่มแล้ว
แม้ว่าตอนแรกการบรรยายจะไม่ค่อยราบรื่น แต่เธอก็เริ่มชินจนพูดได้แบบแทบไม่มีข้อตำหนิ
ลู่โจวต้องยอมรับเลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีพรสวรรค์มาก ทั้งในเรื่องคณิตศาสตร์และการพูดในที่สาธารณะ
ข้อเสียอย่างเดียวของเธอก็คือเธอมีนิสัยขี้อาย
ลู่โจวดูเวร่าแล้วพยักหน้ายอมรับ
สมกับเป็นศิษย์ฉัน เธอทำให้ฉันนึกถึงสไตล์พรีเซนต์ของฉันเลย
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป การบรรยายก็จบลง แต่เวร่าก็ยังไม่คลายใจลงเท่าไหร่
เพราะถัดไปเป็นช่วงถามตอบ เป็นส่วนหลักของการบรรยาย
คำถามแรกถามโดยศาสตราจารย์เฮลฟ์ก็อตจากเอกอล นอร์มาล ซูเพริเยอ เฮลฟ์ก็อตเป็นผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีจำนวนเชิงวิเคราะห์ที่พิสูจน์ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคเวอร์ชันอ่อนแอ เขายังเป็นหนึ่งในหกผู้ตรวจสอบวิทยานิพนธ์ข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคของลู่โจว
บางทีเฮลฟ์ก็อตไม่อยากให้เวร่ากดดันมากไป เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ เขาดูสำเนาวิทยานิพนธ์ในมือแล้วพูด
“ในหน้าที่เก้าบรรทัดที่เจ็ด ฉันสังเกตเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ Φ(g) เป็นเซ็ตย่อยเปิดของระนาบเชิงซ้อน f และแต่ละส่วนย่อยที่เชื่อมต่อกับ Φ(g) ใหญ่ที่สุดเป็นสาขาของ Φ(g)…คุณสรุปนิพจน์นี้ได้อย่างไร?”
เวร่ารีบเปิดวิทยานิพนธ์หน้าเก้าแล้วตอบอย่างชัดเจน
“Φ(g) เป็นเซตของจุดสามัญ z0 เกินกว่าฟังก์ชันจำนวนเต็ม g(z) บนหน้าเจ็ดบรรทัดที่สิบห้าการอนุมานที่หนึ่งจุดสี่ฉันพิสูจน์ว่าคอลัมน์ฟังก์ชัน {gk(z)}∞/k=1 เป็นคอลัมน์ย่อยในละแวกจุด z0 ซึ่งมาบรรจบกับฟังก์ชันวิเคราะห์ S(z)…”
เมื่อเฮลฟ์ก็อตได้ยินคำอธิบายของเวร่า เขาพยักหน้ายอมรับ
“ขอบคุณ”
ช่วงถามตอบดำเนินต่อไป
ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็เป็นงานประชุมนักคณิตศาสตร์นานาชาติ ระดับความสามารถของผู้เข้าร่วมงานประชุมสูงมาก คำถามจึงค่อนข้างมีระดับ
แน่นอนไม่ใช่ทุกคำถามที่มีระดับ
ดอกเตอร์จากมหาลัยมอนทรีออลลุกขึ้นยืนแล้วพูด
“ขอโทษครับ บนหน้าสิบเอ็ดบรรทัดที่สิบสามทุกฟังก์ชันของ h(z) ให้g(z)=z/2+(1−cosπz)(z+1/2)/2+1/π(1/2−cosπz ) sinπz+h(z)sin2πz ซึ่งสอดคล้องกับ N⊂Φ(g) การอนุมานนี้มาจากไหน?”
บางคนในห้องบรรยายก็หัวเราะออกมา
เวร่าถอนหายใจ “สำหรับส่วนนี้ โปรดอ้างอิงจากหนังสือ Letherman-S Schleiche-D Wood-R ปัญหา ‘3n+1’ และฮอลเมอร์ฟิกไดนามิก…ศาสตราจารย์ลีเทอร์แมนพิสูจน์ไว้แล้ว ฉันจะไม่ทำซ้ำอีก…”
คนที่ถามคำถามแบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้อ่านวิทยานิพนธ์ของเวร่าเลย
เมื่อชายคนนั้นตระหนักว่าคำถามของตนโง่แค่ไหน เขาจึงนั่งลงอย่างเขินอาย
โดยทั่วไปแล้ว การบรรยายทำได้ไม่เลวเลย
หลังการบรรยายจบ เวร่าก็วิ่งมาหาลู่โจวด้วยความตื่นเต้น
“ศาสตราจารย์! ฉันทำได้…ฉันทำได้!”
เธอกำหมัดแน่น สีหน้าของเธอดูตื่นเต้นมาก
เมื่อลู่โจวเห็นความตื่นเต้นของสาวน้อย เขามีความสุขมากที่เธอก้าวข้ามความอายของตัวเองได้
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้เห็นลูกศิษย์เติบโตและพัฒนาขึ้นแล้ว
นี่เป็นหนึ่งในวันที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของลู่โจว
…………………………………