Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 451 หลีกเลี่ยงคำตอบ (รีไรท์)
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 451 หลีกเลี่ยงคำตอบ (รีไรท์)
การชนะรางวัลทำให้ลู่โจวตื่นเต้นอยู่พักหนึ่ง เนื่องจากต้องยุ่งอยู่กับสื่อต่างๆ ถึงอย่างไร มันไม่ได้รบกวนตารางการวิจัยของเขาเลย
อย่างที่เขากล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญฟิลด์หรือรางวัลโนเบล รางวัลพวกนั้นไม่ใช่เหตุผลที่เขาต้องการทำวิจัย มันเป็นเพียงของประดับหน้าเค้กเท่านั้น
มันยังมีสิ่งที่ดีและยอดเยี่ยมกว่ารอเขาอยู่
ห้องปฏิบัติการเคมี
ลู่โจวยื่นตัวเก็บข้อมูลยูเอสบีให้คอนนี่พร้อมกับหาว
“ฉันทำตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์เสร็จแล้ว ฉันสันนิษฐานเอาไว้ด้วยว่าการกระจายไฟฟ้ามีค่าเป็นศูนย์ ส่วนจะเป็นจริงได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลการทดลองของคุณแล้ว”
ถึงแม้การจำลองทางคณิตศาสตร์จะไม่ใช่สิ่งที่ลู่โจวต้องการจะทำ แต่เมื่อเขาได้เข้าไปหมกมุ่นอยู่กับงานวิจัยแล้ว มันกลับทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คอนนี่รับตัวเก็บข้อมูลก่อนจะมองลู่โจวด้วยความประหลาดใจ “คุณทำเสร็จแล้วเหรอ?”
“สบายมาก…” ลู่โจวลูบถุงใต้ตาพร้อมพูด “ถ้าเขาศึกษาและผสมผสานสิ่งที่ฉันสอนไปแล้ว ฉันเชื่อว่าเขาจะทำได้”
คอนนี่ขมวดคิ้ว “แต่ทฤษฎีของอาจารย์มันซับซ้อนเกินไปนะ”
สิ่งที่ลู่โจวต้องการจะสื่อคือ หากไปอยู่ในจุดนั้นได้ เหรียญฟิลด์ก็คงได้มาโดยง่ายเช่นกัน
“เพราะมันยาก เขาถึงต้องศึกษามันยังไงล่ะ” ลู่โจวตบไหล่คอนนี่พร้อมให้กำลังใจ “หากวันหนึ่งฉันไม่ได้อยู่ที่พรินซ์ตันแล้ว เขาจะต้องเป็นคนถ่ายทอดทฤษฎีเหล่านี้แทนนะ”
คอนนี่ชะงัก “ไม่อยู่ในพรินซ์ตัน คุณมีแผนจะไปไหนเหรอ?”
ลู่โจวหัวเราะและตอบอย่างขำขัน “แค่สมมุตินะ ไม่ว่าผมจะยังอยู่หรือไม่อยู่ วิทยาศาสตร์ และความรู้ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป เขากับเจอริกมีความเข้าใจในทฤษฎีการคำนวณขอฉันอย่างดีแล้ว แต่ถ้าเปรียบกับเจอริกแล้ว เขาดูจะมีประสบการณ์การทดลองที่มากกว่า…”
“แน่นอน เขาอาจจะเก่งเรื่องการคำนวณทางคณิตศาสตร์และเหนือกว่าบ้าง เพราะแบบนั้น จงเรียนรู้ให้มากขึ้น นักวิชาการจะมีโอกาสมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากพวกเขาสื่อสารกัน ฉันทำได้แค่เพียงสร้างความรู้ให้เท่านั้น ส่วนงานจะเป็นไปในทิศทางไหน มันก็ขึ้นอยู่ที่พวกเขาเองทั้งนั้น”
คอนนี่พยักหน้าพร้อมพูด “ผมจะทำให้ดีที่สุดครับอาจารย์”
ลู่โจวพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะตบไหล่เขาอีกครั้ง หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่โจวก็หันหลังจากไป
…
การวิจัยตัวนำยิ่งยวดยังคงดำเนินต่อไปขณะที่ลู่โจวทำงานอื่น
นักศึกษาใช้เวลาไม่นานในการเลือกหัวข้อการทำวิทยานิพนธ์ แม้แต่ฮาร์ดี้ยังเลือกหัวข้อวิจัยเสร็จหลังจากผ่านไปครึ่งเดือน
และแม้ฮาร์ดี้จะขี้เล่น แต่เขาก็มีทักษะและสามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสม
หากเขาสามารถก้าวเข้าไปในพรินซ์ตันได้ นั่นก็หมายความว่าพรสวรรค์และความฉลาดของเขาเหนือกว่าคนธรรมดา
ยกตัวอย่างเช่น ข้อคาดการณ์ของคอลลาทซ์ที่ทั้งสามกำลัง…
ถึงแม้ลู่โจวจะเป็นคนกำหนดกรอบเบื้องต้น แต่เวร่าก็เป็นคนทำงานเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างที่เวร่าพูดไว้ เขาไม่สามารถทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบหากขาดการช่วยเหลือจากทั้งสอง
หลังจากมองดูหัวข้อของนักศึกษา ลู่โจวใช้เวลาเกือบครึ่งวันในการสนทนากับพวกเขาแบบรายบุคคล เขาเสนอความคิดในงานวิจัยที่พวกเขาต้องมุ่งเน้น
ฉินเยว่และฮาร์ดี้ต้องมุ่งเน้นไปที่ทฤษฎีคำนวณวิเคราะห์ ส่วนเวร่าที่เหมือนลู่โจวนั้นจะเป็นคนรู้รอบด้าน
ถึงแม้วิธีของเขาจะยาก แต่ด้วยพรสวรรค์และความชอบในคณิตศาสตร์ มันจึงไม่ยากเกินที่จะลอง
เมื่อนักศึกษาปริญญาเอกเลือกงานวิจัยได้แล้ว มันก็ถึงเวลาของนักศึกษาปริญญาโทที่ต้องเลือกต่อ
ภายใต้คำแนะนำของลู่โจว เจอริกเลือกคณิตศาสตร์เชิงประยุกต์
นักศึกษาปริญญาโทเต็มไปด้วยศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการได้รับรางวัลโนเบลปีนี้ “แบบจำลองเชิงทฤษฎีของโครงสร้างพื้นผิวสัมผัสเคมีไฟฟ้า”
สิ่งที่ทำให้ลู่โจวประหลาดใจมากที่สุดน่าจะเป็นการตัดสินใจของเหว่ยเหวิน
นักศึกษาอัจฉริยะที่ครั้งหนึ่งเคยแพ้ให้ลู่โจวในการแข่งขันคณิตศาสตร์ ไม่เพียงแค่จะเลือกหัวข้อวิทยานิพนธ์ของตัวเองแล้ว เขายังเขียนมันเสร็จด้วยตัวเองอีกด้วย
ลู่โจวพูดขึ้น “อันที่จริงฉันอยากคุยกับนายหลังเลือกหัวข้อว่าพอจะมีอะไรให้ช่วยได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่านายจะมีแบบแผนเป็นของตัวเองเสียแล้ว… ถ้าเป็นแบบนั้น ช่วยแสดงวิทยานิพนธ์ให้ฉันดูหน่อยสิ”
“ได้เลยครับอาจารย์!”
ถึงแม้เหว่ยเหวินจะภูมิใจในวิทยานิพนธ์ของตัวเอง แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลขณะยื่นให้ลู่โจว
เพราะเขาไม่ได้ปรึกษาใครเลยตอนเลือกหัวข้อนี้
แต่ลู่โจวไม่ใช่คนคิดมาก ในทางกลับกัน เขารู้สึกพอใจที่เหว่ยเหวินสามารถตัดสินใจด้วยตนเองด้วยซ้ำ
ลู่โจวรีบอ่านจนจบและครุ่นคิด ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที เขาก็ประเมินผลออกมาอย่างง่ายดาย
“การศึกษาสถานะที่สอดคล้องกันของออสซิลเลเตอร์ที่ไม่ใช่ฮาร์มอนิกในช่องว่างฮิลเบิร์ตเป็นปัญหาคลาสสิกทั้งในกลศาสตร์ควอนตัมและฟิสิกส์เชิงทฤษฎี มันไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก แต่มันก็มีอีกหลายแห่งที่จะวิจัยได้อย่างลึกขึ้น สำหรับวิทยานิพนธ์ของนาย ปัญหาจะอยู่ตรงส่วนที่สี่ ฉันแนะนำให้ไปแก้ไขก่อนที่จะนำไปเผยแพร่”
การวิจัยของเหว่ยเหวินคือการวิเคราะห์เชิงหน้าที่ แต่เขากำลังมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาของช่องว่างฮิลเบิร์ท ลู่โจวเดาว่าทิศทางการวิจัยของเขาจะเป็นฟิสิกส์เชิงคณิตศาสตร์
ลู่โจวยื่นวิทยานิพนธ์กลับก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“นอกเหนือจากประเด็นเล็กน้อย วิทยานิพนธ์ของนายนับว่าเขียนได้ดี นายสามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นแล้วค่อยส่งให้ พีอาร์แอล ตรวจสอบอีกครั้ง”
เมื่อได้ยินคำแนะนำ เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ด้วยการแสดงออกที่แข็งกระด้าง เขาดูหดหู่เล็กน้อย
“พีอาร์แอล จะรับเหรอครับ?”
พีอาร์แอล เป็นคำย่อของ Physical Review Letters หรือ วารสารเชิงฟิสิกส์ชั้นนำในตำนาน
การได้เผยแพร่ใน พีอาร์แอล นั้นไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่การถูก พีอาร์แอล ตีพิมพ์นับว่าเป็นเรื่องที่ดีของทุกมหาวิทยาลัย
ลู่โจวยกคิ้วขึ้นก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “กลัวงั้นเหรอ?”
เหว่ยเหวินรีบสงบพร้อมส่ายหัว “ไม่ครับ”
ลู่โจวพยักหน้า จากนั้นเขายิ้ม “มันไม่ง่ายที่จะสร้างผลลัพธ์ในสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎี แต่การโน้มน้าวใจผู้อื่นให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการนั้นยากกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่นายต้องรู้คือนายต้องเชื่อมั่นในตัวเอง นายต้องเชื่อว่างานวิจัยจะสำเร็จและดีพอ มีเพียงสิ่งนั้นแหละที่จะทำให้นายโน้มน้าวใจผู้อื่นได้”
เหว่ยเหวินกล่าว “ผมเข้าใจครับ”
ลู่โจวมองเหว่ยเหวินที่หดหู่ เขาทราบในเรื่องที่เหว่ยเหวินกังวล
ดังนั้นจึง เขาพูดให้ผ่อนคลายว่า “แน่นอนถ้าหาก พีอาร์แอล ปฏิเสธวิทยานิพนธ์ของนายฉันแนะนำให้ลองปรับปรุงมันให้ดีกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น พีอาร์แอล หรือ PT หากพวกเขารับวิทยานิพนธ์ของนายไปแล้ว ฉันจะให้นายผ่านการศึกษา หวังว่านายจะตั้งสมาธิกับงานวิจัยและไม่ปล่อยให้การจบการศึกษากดดันจนเกินไปนะ”
วิทยานิพนธ์วันนี้ไม่ต่างจาก พีอาร์แอล เท่าไหร่นัก และพวกเขารับวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับฟิสิกส์แทบจะทุกประเภท
ตามความจริง มันค่อนข้างยากเล็กน้อยสำหรับเหว่ยเหวินที่จะให้ พีอาร์แอล ยอมรับ
แต่ PT นั้นยากยิ่งกว่า
เหว่ยเหวินถอนหายใจโล่งอก
“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”
…………………………