Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 461 มื้อเย็นที่แออัดที่สุดในโลก (รีไรท์)
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 461 มื้อเย็นที่แออัดที่สุดในโลก (รีไรท์)
เครียดไหม?
ก็มีบ้าง
แต่คราวนี้ ไม่รู้สึกแบบนั้นเลย
ตื่นเต้นไหม?
นั่นแหละ ใช่เลย
ในฐานะที่เป็นตัวแทนเกียรติยศสูงสุดของวงการวิทยาศาสตร์ นี่ถือเป็นการยกย่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับแวดวงวิชาการและผู้คนทั่วทั้งโลก
สิ่งที่รางวัลโนเบลจะนำมาให้นั้นมีค่ามากกว่าโบนัสเก้าล้านดอลล่าด้วยซ้ำ
หากเทียบกันแล้ว เหรียญฟีลด์ยังต้องตกเป็นรองเลย
ภายใต้เสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง ลู่โจวเดินขึ้นไปยังเวทีอย่างสง่า ในระหว่างการเผชิญหน้ากับคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน นักวิชาการเคลส์ก็เผยยิ้มให้กับเขา นักวิชาการโอลอฟพยักหน้าให้ คุณลินเซอร์ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร และนักวิชาการเบรเซซินสกี้ก็ดูเหมือนจะมีความสุขเล็กน้อย
ทั้งนี้ มีความแตกต่างมากมายให้เห็นในการรับรางวัลโนเบลสาขาเคมี
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็เป็นข้อสรุปที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ภายใต้การจับตามองและสายตาที่จับจ้องของสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลก ลู่โจวพลันได้รับประกาศนียบัตร รางวัลและเหรียญทองจากมือของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่สิบหก กุสตาฟ ซึ่งเป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรสวีเดน
มือขวาของลู่โจวสั่นเทาเล็กน้อย สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่สิบหกพลันเผยยิ้มและกล่าวคำพูด
“ขอแสดงความยินดีกับนักวิชาการรุ่นเยาว์ของเรา ฉันเองก็มอบรางวัลมาตั้งหลายปี คุณถือเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด”
ลู่โจวพยักหน้าอย่างสุภาพและเผยยิ้ม “ขอบคุณครับ รับประกันได้เลยว่าในอนาคตผมจะทำให้ดีกว่านี้”
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่สิบหก เผยยิ้มและกล่าวคำพูด “ฮ่าๆ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ!”
ผู้ชมยืนขึ้นและกล่าวคำชมเชย
เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้องโถง
และยังดังอยู่เป็นเวลานาน…
…
หลังพิธีมอบรางวัล
ณ ห้องประชุม ผู้ชนะและแขกที่ได้รับเชิญทั้งหมดจะถูกย้ายไปยังห้องโถงสีฟ้า ณ ศาลาว่าการเมืองสต็อกโฮล์มเพื่อร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่มีชื่อเสียง
ระหว่างมองไปยังอาคารอิฐสีแดงข้างทะเลสาบ ลู่โจวที่กำลังเดินขึ้นบันไดพลันกล่าวคำพูด “อันที่จริงแล้ว ฉันอยากจะถามว่าฉันมาที่นี่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่”
นักวิชาการสเตฟานและเหยินเยว่ถามกลับ “อยากถามว่าอะไรนะ?”
ลู่โจวมองไปรอบตัวพร้อมกล่าวคำพูดอย่างเป็นกันเอง “ทำไมมันถึงเรียกว่าห้องโถงสีฟ้าล่ะ? ไม่เห็นมีตรงไหนสีฟ้าเลย”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการสเตฟานก็เผยยิ้มพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงติดตลก “หลายคนก็ถามผมแบบนี้เหมือนกัน ว่ากันว่าผู้ออกแบบเมืองสตอกโฮล์มเดิมทีตั้งใจจะทาสีฟ้านี้เพื่อที่จะให้กลมกลืนไปกับทะเลสาบแม็คลาเรน แต่หลังจากได้ชมวิวจากทะเลสาบแล้ว ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าอิฐสีแดงจะทำให้ตัวอาคารดูเคร่งขรึมกว่า”
“งั้นนั่นก็คือห้องโถงสีฟ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จงั้นเหรอ?”
นักวิชาการสเตฟานเผยยิ้มพร้อมกล่าวคำพูด “จากมุมมองของการออกแบบแล้ว นี่ถือเป็นไปตามที่คิดแล้ว”
ไม่ว่ามันจะถูกสร้าง “เสร็จสมบูรณ์” แล้วหรือไม่ รางวัลโนเบลถูกจัดขึ้นที่นี่มากว่าศตวรรษแล้ว พิธีนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นความเก่าแก่แห่งโลกวิชาการได้เลยทีเดียว เพราะไม่เพียงแต่คนที่อยู่ในโลกวิชาการเท่านั้นที่จะความสนใจ แต่คนทั่วไปก็สนใจเช่นกัน
ในทุกปี ผู้คนหลายพันคนมักจะเขียนจดหมายถึงมูลนิธิรางวัลโนเบลเพื่อสมัครเข้าร่วมงานเลี้ยง แม้ว่าความน่าจะเป็นที่จะถูกรางวัลนั้นจะไม่ต่างกับรางวัลที่หนึ่งในการจับสลากก็ตาม
ทันทีที่เข้าไปข้างใน ลู่โจวพลันมองไปรอบๆ ห้องโถงสีฟ้า
เขาเห็นฝูงชนสุดยาวเหยียดกำลังยืนต่อแถวกันอยู่
สิ่งที่แตกต่างจากพิธีมอบรางวัลครอฟอร์ดก็คือผู้คนที่แออัดนี่แหละ
ผู้คนกว่าหนึ่งพันสามร้อยคนได้มารับประทานอาหารในเวลาเดียวกัน
เมื่อแขกทุกคนนั่งลงกันหมดแล้ว แต่ละคนก็แทบจะไหล่ตก ผู้คนว่ากันว่าพื้นที่รับประทานอาหารต่อหัวกว้างเพียงสี่สิบเซนติเมตร แต่ลู่โจวเหมือนจะรู้สึกว่าของจริงอาจจะเลวร้ายกว่าที่คิด
ไม่นานนัก อาหารจานแรกก็มาเสิร์ฟ ขวดไวน์แดงที่ไม่มีฉลาก
ทันทีที่เปิดจุกออก ฟองอากาศก็พวยพุ่งออกมาตั้งแต่ก้นขวดไปจนถึงปากขวดราวกับมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
นอกเหนือจากกลิ่นดอกไม้และผลไม้สุดหรูหราแล้ว ไวน์แดงยังเผยกลิ่นของถังไม้โอ๊คอบ
ลู่โจวพลันเทไวน์ลงในแก้วของตน จากนั้น นักวิชาการสเตฟานก็เผยยิ้มพร้อมกล่าวคำพูด “แชมเปญเกรดพิเศษของฝรั่งเศส มันหอมหวานมากเลยล่ะ มูลนิธิโนเบลได้จัดมาให้ในงานเลี้ยงโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้คนนับพันได้ลิ้มลองเลยด้วย”
ลู่โจวเผยยิ้มทันทีที่มองไปยังแก้วบนมือ “มาดื่มด่ำกับมันกันเถอะ”
“ไม่ใช่แค่ดื่มด่ำแล้ว มันคือเครื่องบรรณาการเลยล่ะ” นักวิชาการสเตฟานกล่าวพร้อมยกแก้วขึ้น “ดื่ม!”
“ดื่ม!” ลู่โจวพลันชนแก้วกับเขา
อย่างที่นักวิชาการสเตฟานบอกเอาไว้แต่ต้น มันเป็นไวน์ที่มีรสชาติหอมหวานไม่น้อยเลย
และบางที นี่อาจเป็นรสชาติของชัยชนะก็ได้นะ
….
บรรยากาศในห้องโถงสีฟ้านั้นเต็มไปด้วยผู้คน ไม่มีใครออกไปข้างนอกเลยด้วยซ้ำ
แม้ว่าหนึ่งวันในยุโรปเหนือจะผ่านไปเร็ว แต่เวลานี้ก็ยังห่างไกลจากการเข้านอน
ประชาชนในท้องถิ่นหลายคน ณ เมืองสตอกโฮล์มพลันเดินไปยังชายฝั่งของทะเลสาบและมองไปที่อาคารอิฐสีแดง
นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนชาวจีนและนักเรียนต่างชาติอีกด้วย
ถ้าจะถามว่าใครดูจะความสุขมากกว่าลู่โจวและครอบครัว ก็คงจะหนีไม่พ้นชุมชนชาวจีนในท้องถิ่นแถวนั้น
หากไม่รวมกลุ่มคนที่กำลังมีความสุขเหล่านั้น ก็คงไม่มีใครเข้าใจความสำเร็จของเพื่อนร่วมชาติได้อีกแล้ว
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ทันทีที่มีการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี ชาวจีนทุกคนที่อาศัยอยู่ในสตอกโฮล์มก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองกัน
ดูเหมือนว่าโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในเวลานั้นจะเป็นภาพตัวอย่างของวันนี้
เนื่องจากผู้คนที่มารวมตัวกันที่นี่มีจำนวนเยอะกว่าวันนั้นมาก
พวกเขายืนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการสตอกโฮล์มพร้อมถือโคมไฟสีแดง
เนื่องจากความอยากรู้อยากเห็น จึงมีประชาชนในท้องถิ่นจำนวนมากโผล่มามากขึ้น
หากมองจากระยะไกล มันไม่ต่างอะไรกับงานท่องเที่ยวหรืองานเทศกาลเลย
มันเป็นภาพที่ไม่สามารถหลบจากสายตาของนักข่าวได้
ผู้สื่อข่าวหลายคนรีบหันกล้องไปที่ฝูงชนที่รวมตัวกันนอกศาลาว่าการสต็อกโฮล์มพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ค่ำคืนที่ได้รับรางวัลโนเบล ผู้คนจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวจีนได้มายืนรวมตัวกัน ณ ศาลาว่าการสตอกโฮล์ม ในมือของพวกเขากำลังถือโคมไฟสีแดง พวกเขากำลังส่งคำอวยพรที่อบอุ่นและจริงใจที่สุดให้แก่ลู่โจว”
“เรารีบไปสัมภาษณ์พวกเขา แล้วถามว่าพวกเขาคิดอย่างไรกันเถอะ!”
เธอเดินไปหาเด็กนักเรียนชาวจีนคนหนึ่งพร้อมถามด้วยน้ำเสียงสุดไพเราะ
“สวัสดีค่ะ คุณเป็นนักเรียนต่างชาติใช่ไหมคะ?”
“ใช่ครับ” นักเรียนชายในเสื้อแจ็คเก็ตลงพยักหน้า
“เมื่อวันที่สิบธันวาคมปีที่แล้ว ทุกอย่างคึกคักแบบนี้ไหม?”
น้องชายของนักเรียนคนนั้นพลันพูดแทรกขึ้น “ปีนี้ดูจะมีชีวิตชีวากว่าปีที่แล้วเยอะเลยครับ ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ”
นักข่าวเผยยิ้มและถามต่อ “แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะที่ศาสตราจารย์ลู่โจวได้รับรางวัลโนเบล?”
พี่ชายเผยยิ้มอย่างจริงใจ “เอ่อ… ความรู้สึกเมื่อมองศาสตราจารย์ลู่ก็คือ ผมคิดว่าตัวเองยังห่างไกลกับคำว่ารางวัลโนเบลมาก”
นักข่าวเผยยิ้มอีกครั้ง
เขาต้องการพูดอะไรกัน?
พี่ชายพลันกระแอมและพูดต่อ
“แน่นอน นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ผมได้เห็นความก้าวหน้าและการพัฒนาของสมาคมวิชาการจีนจากเขา”
“ถึงแม้จะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่พรสวรรค์ของคนยุคใหม่ก็กำลังเติบโตขึ้น และในอนาคต ผมเชื่อว่าต้องไม่ใช่แค่ศาสตราจารย์ลู่คนเดียวแน่ที่จะได้เข้าร่วมเวทีระดับนานาชาติแห่งนี้ นักวิชาการชาวจีนคนอื่นจะต้องตามมาแน่นอน…!”
……………………………………
Comments for chapter "ตอนที่ 461 มื้อเย็นที่แออัดที่สุดในโลก (รีไรท์)"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Blackboy
วอสเค้าคือใคร???