Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 478 ปีแห่งการรับรางวัล (รีไรท์)
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 478 ปีแห่งการรับรางวัล (รีไรท์)
ตอนที่ 478 ปีแห่งการรับรางวัล (รีไรท์)
โดย
Ink Stone_Fantasy
ในปีที่ผ่านมา มีการจัดพิธีมอบรางวัลเพื่อยกย่องนักเรียนดีเด่นที่สร้างผลงานได้โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นด้านการวิจัยทางวิชาการ ทางนวัตกรรม ทางผู้ประกอบการ การสร้างวัฒนธรรม และการบำเพ็ญเพื่อสาธารณประโยชน์อีกมากมาย
ในขณะเดียวกัน ก็มีการออกใบรับรองบุคคลประจำปี และมีการให้ทุนพิเศษจากมหาวิทยาลัยจินหลิงด้วย
แม้ว่ารางวัลจะไม่มาก เพราะมันก็แค่เงินหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ แต่ถ้าเทียบกับการได้ขึ้นไปรับรางวัลและต้องต่อสู้กับเหล่านักเรียนกว่าหมื่นคนเพื่อให้ได้มันมา นั่นก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว
ในที่สุด มันก็จะเป็นรางวัลที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น อีกทั้ง นักเรียนที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งเหมือนเดิม
นักเรียนคนแรกที่ได้ขึ้นบนเวทีมาจากสถาบันวิชาการ
ทันทีที่พิธีกรขานชื่อ เด็กผู้ชายตัวสูงในชุดสูทพร้อมกับสวมแว่นทรงกลมก็เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมเสียงปรบมือ
ในตอนนั้นเอง นักเรียนชายคนนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้รับรางวัลจากมือลู่โจว
“ศาสตราจารย์!”
“เรียกฉันว่าลู่โจวหรือศาสตราจารย์ลู่แทนก็ได้นะ” ลู่โจวกล่าว
ไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร ความจริงคือเด็กคนนั้นค่อนข้างรู้สึกเขินอายเสียด้วยซ้ำ
เนื่องจากสถานที่นี้มีคนมากมายรอบด้าน
ฮูเทียนเฉิงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ศาสตราจารย์ลู่… ผมขอลายเซ็นด้วยได้ไหมครับ?”
“ไม่มีปัญหา มีปากกาไหมล่ะ?”
“มีครับ ผมเอาติดมาด้วย” ฮูเทียนเฉิงหยิบกระดาษโน้ตพร้อมปากกาลูกลื่นในกระเป๋าออกมา
มันเป็นสมุดบันทึกที่ใหญ่อะไรขนาดนี้ เขาเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อได้ยังไงกัน?
หลังจากหยิบกระดาษและปากกามาแล้ว ลู่โจวก็พลิกสมุดพร้อมมองดูคำศัพท์และสูตรคำนวณที่เขียนอยู่ มันแทบจะไม่มีที่ให้เขียนเลย
“ให้ฉันเซ็นตรงไหนดีล่ะ?”
ฮูเทียนเฉิงรู้สึกตื่นเต้น “เขียนบนหน้าปกไปเลยครับ!”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็ไม่ได้พูดอะไร เขารีบเซ็นชื่อลงบนปกสมุดบันทึก
ในขณะที่ฮูเทียนเฉิงมองลู่โจวที่กำลังเขียนชื่ออยู่ เขาก็กล่าวร้องขอบางอย่างขึ้นมาทันที “ผมขออีเมลด้วยได้ไหมครับ?”
“ได้สิ”
เขากล่าวด้วยความดีใจ ลู่โจวเซ็นชื่อพร้อมเขียนอีเมลที่ทำงานเอาไว้
ทันทีที่มองไปยังลู่โจวที่กำลังเขียนอีเมล ฮูเทียนเฉิงก็กำลังจะอ้าปากพูดอีกอย่าง “เอ่อ…”
“มีอะไรอีกงั้นเหรอ?”
ฮูเทียนเฉิงเริ่มรู้สึกเกรงใจพร้อมเกาหัว “ผมขอเพิ่มเพื่อนในอีเมลได้ไหม?”
“ได้สิ”
หลังจากนั้น ลู่โจวก็พลันขมวดคิ้ว
ไม่ช้า นักเรียนอัจฉริยะทางฟิสิกส์ก็ลงจากเวที นักเรียนคนต่อไปที่เดินบนเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือคืก็อนักเรียนอัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งหอประชุมก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือ พิธีกรจึงเริ่มพูดขึ้น
ปีนี้เป็นปีที่น่าประทับใจมาก และอีกอย่าง ไม่มีใครคาดคิดเลยว่านอกจากลู่โจวแล้ว จะมีนักศึกษาคนอื่นอีกที่ได้ขึ้นมารับรางวัลดีเด่นอีก…
ทั้งนี้ ม่านหลังแท่นนำเสนอก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของนักศึกษาคนที่สอง
คะแนนเต็มสำหรับวิชาหลักทั้งสิบสองวิชา และคะแนนเก้าสิบเก้าเต็มหนึ่งร้อยที่อยู่ในอันดับหนึ่ง
อันที่จริง เขาไม่ได้มีผลการเรียนในชั้นเรียนที่ดีมากเท่านั้น แต่ผลการเรียนนอกหลักสูตรก็ดีไม่น้อยเช่นกัน
นักศึกษาคนนี้ได้รับรางวัลเหรียญทองสามเหรียญจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น เขายังเป็นนักเขียนคนแรกของวิทยานิพนธ์ SCI ทั้งสองเล่มอีกด้วย ตามรายงานของสถาบันวิทยาศาสตร์จีนแล้ว วิทยานิพนธ์นี้ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ เลย
ชายคนนี้ได้รับรางวัลเหรียญทองสามเหรียญจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น เขายังเป็นนักเขียนคนแรกของวิทยานิพนธ์ SCI ทั้งสองเล่มอีกด้วย ตามรายงานของสถาบันวิทยาศาสตร์จีนแล้ว วิทยานิพนธ์นี้ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ เลย
แม้ว่าระดับความคิดของนักศึกษามหาวิทยาลัยจินหลิงจะต่ำกว่าเทพลู่ แต่สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วไป ความสำเร็จแค่นี้ก็โดดเด่นเป็นพิเศษแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ลู่โจวจึงมีความคิดที่จะรับเขาเข้ามาเป็นนักเรียน
ผู้ที่ได้รับรางวัลคนที่สองบนเวทีเป็นผู้ชายที่ดูเฉิ่ม ๆ และค่อนข้างสูง
ทว่า การได้จับมือกับลู่โจวนั้น… มันเหมือนกับการได้เห็นไอดอลที่คลั่งไคล้มาเป็นเวลา จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
“เทพลู่!”
ลู่โจวรู้สึกเขินเล็กน้อยกับอาการกระตือรือร้นของเด็กคนนี้
“เอ่อ… สวัสดี!”
ใบหน้าเริ่มแดงขึ้น อู๋ไคเริ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย “ผมติดตามเรื่องราวของศาสตราจารย์มาตั้งแต่เกิดเลยนะครับ!”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็พลันขมวดคิ้ว
โตมากับการฟังเรื่องราวของเรา?
ถึงแม้ว่าคุณจะโตแล้ว หากได้ยินเช่นนี้คุณก็คงต้องหน้าแดงเหมือนกันเป็นแน่
เขากล่าวคำพูดออกมาอย่างสุภาพ “แต่ตอนนี้ฉันก็อายุยี่สิบสี่ปีแล้วนะ”
อู๋ไคเผยหน้าแดงอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เริ่มอธิบาย “อ่า ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมหมายถึงระหว่างการสอบเข้ามหาวิทยาลัย…”
“อ่า ไม่เป็นอะไรหรอก ใครก็ประหม่ากันทั้งนั้น” ลู่โจวกล่าว “แต่นายต้องมีความมั่นใจมากกว่านี้นะ อายุก็ปูนนี้แล้ว แถมประวัติก็ดีด้วย หวังว่านายคงจะได้ทำตามความฝันในอนาคต สักวันหนึ่งมันจะต้องเป็นวันของนาย”
“ขอบคุณมากครับ!” อู๋ไคเผยหน้าแดงกว่าเดิมพร้อมก้มตัวขอบคุณ
จากนั้นลู่โจวก็ไม่ได้พูดอะไร
ยังหน้าแดงอยู่อีกเหรอ?
“เอ่อคือ… ปล่อยมือได้ยังล่ะ?”
“อ๊ะ ขอโทษครับ!”
อู๋ไค่ที่ได้สติรีบสบัดมือออกจากลู่โจวอย่างรวดเร็ว ในมือของเขานั้นมีใบประกาศนียบัตรอยู่
ทั้งนี้แม้ว่าชื่อเสียงทางด้านวิศวกรรมของสถาบันนี้ไม่ค่อยดีเท่าเมื่อก่อน แต่ถ้าเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อมและวัสดุก็ยังถือว่าไม่เป็นสองรองใคร
แน่นอนว่าเมื่อเทียบในด้านวิทยาศาสตร์แล้ว ประวัติศาสตร์ของวิศวกรรมก็ถือว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง
ถึงอย่างไรแล้วประเด็นพื้นฐานที่สุดก็คือ ไม่ว่าจะเป็นในทางทฤษฎีหรือทางปฏิบัติ ผลการเรียนระดับมืออาชีพของเหล่านักเรียนนั้นก็้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจอย่างมากอยู่ดี
ลู่โจวพลันรู้สึกมีความสุขไม่น้อยที่ได้เห็นเหล่านักเรียนทั้งเก่งและเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ
ลู่โจวได้ร่วมจับมือกับเหล่านักเรียนมากมายทั้งชายและหญิง ซึ่งนั่นทำให้เขาหวนนึกถึงตัวเองในอดีต
แต่ทว่าก็ยังมีบางสาขาก็มีแต่ชายล้วน อย่างเช่นสาขาวรรณกรรมที่เปิดรับสอนแค่เฉพาะเพศชายเท่านั้น
ในที่สุด เขาก็ได้ให้รางวัลจนมาถึงสาขาธุรกิจแล้ว
เมื่อเสียงของพิธีกรดังขึ้น ลู่โจวก็มองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งและตกใจขึ้นมา
เสี่ยวถง?
ลู่โจวไม่คิดว่าน้องสาวของตัวเองจะเก่งขนาดนี้…
ในช่วงเวลาเดียวกัน ประวัติของผู้ได้รับรางวัลก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอที่อยู่ข้างหลัง
คะแนนเต็มทั้งสิบวิชา ซึ่งอยู่ในระดับสูงของปีนี้อีกด้วย
นอกเหนือจากสิ่งที่เธอได้รับจากโครงการแลกเปลี่ยนภาคฤดูร้อนของมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เธอยังทำวิทยานิพนธ์ SCI หนึ่งเล่มในระหว่างการแลกเปลี่ยนและได้รับรางวัลระดับประเทศจากการแข่งขันการสร้างแบบจำลองคณิตศาสตร์อีกด้วย…
เธอเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การได้รับรางวัลอย่างแท้จริง
ถึงอย่างไรแล้ว ลู่โจวเองก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะเก่งได้ถึงเพียงนี้
โดยเฉพาะเมื่อเธอไปที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด นั่นถือว่าเป็นอะไรที่ยากมาก แต่เธอกลับไม่ค่อยได้พูดถึงมันมากนัก
เสี่ยวถงมองไปยังพี่ชายของเธอที่กำลังเผยสีหน้าประหลาดใจพร้อมกล่าวว่า “เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ?”
“เซอร์ไพรส์จะแย่เลย” ลู่โจวพยักหน้า “พี่ไม่คิดว่าเธอจะมาได้ถึงขนาดนี้”
ทันทีที่คว้าใบประกาศนียบัตรจากมือลู่โจว เสี่ยวถงก็กล่าวคำพูดขึ้นพร้อมเผยยิ้ม “เป็นยังไงล่ะพี่ชาย?”
เมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว ลู่โจวก็ทำอะไรไม่ถูก
การเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบเธอถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย
เสี่ยวถงกำลังถือใบประกาศนียบัตรอยู่ เธอได้มีโอกาสพูดคุยกับบุคคลที่ได้รับรางวัลโนเบลอย่างพี่ชายของตัวเอง พร้อมทั้งโอ้อวดและหยอกล้อ แต่ถึงอย่างไรแล้วลู่โจวก็มีความสุขไม่น้อยเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้
“พี่ จำได้ไหมว่าฉันเคยบอกว่าอยากจะตามพี่ให้ทัน?”
ลู่โจวถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเผยยิ้ม “ยังอีกไกลน้องสาว เธอตามพี่ไม่ทันหรอก เธอยังต้องพยายามฝึกฝนตัวเองอีกเยอะเลย”
เสี่ยวถงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “พี่จะไม่ชมฉันเลยเหรอ?”
“แค่นี้ก็ดีมากแล้ว” ลู่โจวตบไหล่น้องสาว หลังจากที่ทั้งคู่เงียบไปสักพัก เธอก็กล่าวคำพูดออกมา “ขอบคุณนะพี่ชาย”
เมื่อได้ยินคำชมที่รอมานานจากพี่ชาย ความไม่พอใจของเสี่ยวถงก็พลันหายไปในพริบตา
เธอเผยหน้าที่มีความสุขพร้อมกับถือใบประกาศนียบัตรเอาไว้แน่น จากนั้นก็เดินจากไปพร้อมความรู้สึกพอใจ
ท้ายที่สุดก็มาถึงคนสุดท้ายของปีนี้
การยืนอยู่บนเวทีเป็นเวลานานทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย ลู่โจวรีบหันไปหยิบใบประกาศนียบัตรเพื่อที่จะมอบให้แก่ผู้ได้รางวัลคนต่อไปจากตัวแทนของสหภาพนักศึกษา
ในระหว่างที่ลู่โจวกำลังจะหยิบใบประกาศนียบัตรนั้น พิธีกรที่ยืนอยู่ก็เริ่มประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลคนสุดท้ายออกมา
ดวงตาของลู่โจวพลันเบิกกว้างเล็กน้อยทันทีที่ได้ยิน
“บุคคลสุดท้ายของปีนี้ก็คือ…”
“หานเมิ่งฉีจากเคมีประยุกต์ครับ!”
……………………………………………