Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 48
ตอนที่ 48 เขียนวิทยานิพนธ์ทำให้คุณรวย
ลู่โจวทำงานทั้งวัน กว่าเขาจะก๊อปปี้โปรแกรมลงในUSBแล้วปิดคอมพิวเตอร์ มันก็สี่ทุ่มแล้ว
เขาไม่อาจโต้รุ่งได้ เพราะเขาต้องใช้เวลาทั้งคืนเพื่อเรียนไพทอน เขาไม่อาจทำเรื่องอื่นเพิ่มอีก อย่างน้อยเขาก็อยากมีชีวิตยืนยาว
จากแผนเดิมของเขา เขาจะเริ่มเรียนภาษา C++ ขั้นสูง โดยใช้หนังสือจากรายชื่อหนังสือของระบบ
อย่างไรก็ตามเหมือนว่าเขาต้องปรับเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย
ยกตัวอย่าง เขาอยากอ่านหนังสือไพทอนขั้นสูงเพิ่มสองเล่ม แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ภารกิจสำเร็จล่าช้า
“ฉันไม่คิดเลยว่าฉันต้องมาใช้รายชื่อหนังสือนี้…” ลู่โจวกล่าวแล้วมองไปยังกระดาษที่มีรายชื่อหนังสือที่หวังเสี่ยวตงมอบให้ เขาพูดในใจ ‘ฉันหวังว่าคนดีๆจะมีชีวิตที่มีความสุข’
วันหยุดฤดูร้อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานมันก็ถึงกลางเดือนสิงหาคมแล้ว
ลู่โจวไม่รู้ว่าระบบกำลังวาดลวดลายใส่เขาหรือไม่ แต่เขาพบว่าเขาเริ่มเสพติดการเรียนมากขึ้นเรื่อยๆจนเขาถอนตัวไม่ขึ้น
หลิวรุ่ยบอกว่าเขาบ้าเรียน แต่ลู่โจวไม่เห็นด้วย
เขาเห็นด้วยว่ากระบวนการการเรียนรู้นั้นน่าเบื่อ แต่การได้รับความรู้นั้นน่าพึงพอใจ
แม้ว่ามันจะฟังดูขัดแย้ง แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่
ท้ายที่สุดแล้วมันก็ใช่ว่าเรียนแล้วจะได้รับความรู้ บางครั้งคนเราสามารถอ่านหนังสือหลายชั่วโมง แต่ไม่เข้าใจแม้แต่ประโยคเดียว แม้แต่พระก็ยังพบว่ามันน่าเบื่อ
เมื่อเราสามารถเข้าใจทุกประโยคทุกแนวคิดอย่างถ่องแท้ และในขณะเดียวกันถ้าเรารู้ว่าความรู้ของเราเพิ่มขึ้น เราก็คงรู้สึกอยากเรียนแม้จะไม่มีคนมาบังคับก็ตาม
ตอนนี้เขาทำภารกิจรางวัลสำเร็จไปถึง 25/30 แล้ว ห้าเล่มสุดท้ายประกอบด้วยหนังสือออกแบบวงจรรวมและวิศวกรรมเครื่องกล
ถ้ามันเป็นสองเดือนก่อน ลู่โจวคงไม่เข้าใจเนื้อหาในหนังสือเหล่านี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขามีพื้นฐานคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ เขาก็รู้สึกมั่นใจในการอ่านหนังสือเหล่านี้
ในทางกลับกันความสนใจหลักของลู่โจวก็ยังเป็นวิทยาการสารสนเทศ
เพราะการยกระดับวิทยาการสารสนเทศมันก็แพงมาก ถ้าเขาไม่ใช้มัน มันคงน่าเสียดายแย่
เขาใช้เวลาเกือบเดือนเพื่อพัฒนาแอพให้เสร็จและผ่านขั้นตอนตรวจสอบบัคครั้งสุดท้ายมาจนได้ กระบวนการนี้ยากกว่าที่คิดไว้เสียอีก แต่โชคดีที่สุดท้ายเขาก็ก้าวผ่านมาได้
เป็นผลให้ประสบการณ์การพัฒนาแอพของเขาเพิ่มขึ้นจากศูนย์เป็นหนึ่ง
แอพนี้มีชื่อว่า’campus train’ จากชื่อแล้ว กลุ่มเป้าหมายก็คือนักศึกษาจากมหาลัยใหญ่ๆ เขาไม่ได้จ้างนักพัฒนา front-end ดังนั้นหน้าอินเตอร์เฟสของแอพจึงเรียบง่ายมาก การออกแบบทั้งหมดมีแจกฟรีบนโลกออนไลน์และสไตล์ยังเรียบง่ายและราบรื่น
เพื่อเรียนรู้การพัฒนาแอพแอนดรอย ลู่โจวได้เรียนรู้เครื่องมือสำหรับการทำเว็บ(developer tools)และดูคลิปวีดีโอเทคนิคการเขียนโปรแกรมมากมาย เขาเรียนรู้ทุกอย่างในเวลาว่าง
ลู่โจวไม่มีแรงพอที่จะพอร์ตแอพไป IOS จริงๆ เขาอยากจะทำในภายหลัง
คำถามตอนนี้ก็คือการค้นหาเซิฟเวอร์ที่มีคุณภาพดีๆ ถ้าเขาไม่มีเครื่องเซิฟเวอร์ ก็ลืมเรื่องการทำประโยชน์ให้สังคมไปได้เลย อย่างมากเขาก็ทำได้แค่ให้รูมเมทใช้แอพ
ขณะที่ลู่โจวกำลังกังวลเรื่องเครื่องเซิฟเวอร์ จู่ๆศาสตราจารย์ถังก็โทรหาเขาแล้วบอกให้เขาไปที่ออฟฟิศ
…..
เมื่อลู่โจวเข้าไปในออฟฟิศ ศาสตราจารย์ถังก็ยิ้มแล้วส่งสัญญาณให้เขานั่งแบบลวกๆ จากนั้นศาสตราจารย์ถังก็ถามด้วยรอยยิ้ม “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?”
“ก็ดีครับศาสตราจารย์ มีอะไรงั้นเหรอครับ?” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ศาสตราจารย์ถังยิ้มแล้วกล่าว “มันเกือบกันยาแล้ว คณบดีหลู่ฝากมาถามว่าเธอเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว?”
“การเตรียมตัวโอเคดีครับ ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหา มันแค่ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนร่วมทีมอีกสองผมเป็นยังไง” ลู่โจวตอบด้วยรอยยิ้ม
“เยี่ยม การแข่งขันนี้เป็นโอกาสที่ดี อาจารย์หวังว่าเธอจะคว้ามันไว้ อาจารย์จะไม่ถามอะไรอีก ศาสตราจารย์หลิวรู้มากกว่า ถ้าไม่แน่ใจตรงไหนก็ไปถามเขา” ศาสตราจารย์ถังกล่าวก่อนจะหยุดไป เขายิ้มแล้วมองดูลู่โจว “ช่วงนี้เธอกำลังวิจัยอะไร? เธอกำลังวางแผนโปรเจ็คลือชื่ออันใหม่อีกไหม?”
อะไรนะ?
ศาสตราจารย์ คุณรู้ได้ไง?
ลู่โจวมองศาสตราจารย์ถังแล้วถามอย่างประหลาดใจ “อาจารย์รู้ได้ไง?”
“อาจารย์แค่ถามไปเรื่อย! เธอไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังเลยจริงๆ” ศาสตราจารย์ถังกล่าวแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้สำนักงาน จากนั้นเขาก็เปิดฝากระติกน้ำร้อนแล้วจิบน้ำก่อนจะถาม “บอกอาจารย์มา คราวนี้เป็นเรื่องอะไร?”
“ครั้งนี้ผมไม่ได้ค้นคว้าอะไรที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง…” ลู่โจวกล่าวและยิ้มอย่างอายๆ เขากล่าวต่อ “ผมแค่ได้ยินนักศึกษาคนนึงบ่นเรื่องการซื้อตั๋วรถไฟระหว่างช่วงปิดเทอม ดังนั้นผมจึงเขียนแอพซื้อตั๋วขึ้นมา”
คำตอบของลู่โจวทำให้ศาสตราจารย์ถังช็อค เขาขมวดคิ้วแล้วถาม “เธอเริ่มค้นคว้าเรื่องวิทยาการคอมพิวเตอร์ตอนไหน?”
ตอนแรกเขาคิดว่าลู่โจวกำลังศึกษาคณิตศาสตร์เงียบๆ อย่างไรก็ตามมันกลายเป็นว่าเขาข้ามไปวิทยาการคอมพิวเตอร์นู่น
ครั้งก่อนที่พวกเขาพบกัน ลู่โจวยังคงศึกษาเรื่องจำนวนเฉพาะของแมร์แซนอยู่เลย
ทำไมนักศึกษาคนนี้ถึงเป็นเป็ดแบบนี้ เขาไม่มีทิศทางเลย!
ลู่โจวมึนงงมาก เขาคิด ‘ทำไมศาสตราจารย์ถังถึงพูดแบบนี้? พรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์ของฉันเหนือกว่าพรสวรรค์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จริงๆเหรอ?’
ครึ่งเดือนก่อน หัวกั๋วชิงเหนียนยังชื่นชมเขาเรื่องพรสวรรค์’รอบด้าน’อยู่เลย
“…โอ้ ผมศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์มาโดยตลอด” ลู่โจวกล่าวและพยายามอธิบาย
ศาสตราจารย์ถังอึ้งเล็กน้อย เขายิ้มอย่างกระอักกระอ่วนราวกับว่าเขาพึ่งนึกได้ เขากระแอมแล้วถาม “เธอจะย้ายไปวิทยาการคอมพิวเตอร์ตอนเทอมหน้าหรือ?”
ลู่โจวส่ายหน้าแล้วกล่าว “ผมยังไม่มีแผนสำหรับเรื่องนั้น ผมคิดว่าการเรียนคณิตศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้เอกวิชาอื่นก็อาจไม่เหมาะกับผม”
เขากำลังพูดความจริง เมื่อเขาเรียนพื้นฐานออร์แกนิคและเคมีอนินทรีย์ ความรู้คณิตศาสตร์ของเขามีประโยชน์จริงๆ
“วิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นเอกที่ค่อนข้างนิยมเช่นกัน อาจารย์ไม่คัดค้านเธอถ้าจะย้าย อย่างไรก็ตามอาจารย์จะให้คำแนะนำบางอย่าง ถ้าเธอยังอยู่เอกคณิตศาสตร์ต่อ เธอจะประสบความสำเร็จมากกว่า อาจารย์สอนมาหลายปีแล้ว เธอเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่อาจารย์เคยพบ” ศาสตราจารย์ถังกล่าว เขาถอนหายใจ “แน่นอนอาจารย์รู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่จะนั่งวิจัยอยู่ห้องแล็บเฉยๆได้ เธอใจร้อนเกินไป!”
ลู่โจวสับสน เขาไม่รู้ว่าศาสตราจารย์ถังกำลังชมเขาหรือถากถางเขา
หรือมันอาจเป็นเสียดาย?
“ช่างมันเถอะ อาจารย์ไม่พูดแล้ว เธอต้องเข้าใจด้วยตนเอง” ศาสตราจารย์ถังถอนหายใจ เขาส่ายหน้าก่อนจะกล่าว “วันนี้อาจารย์เรียกเธอมาเพราะอยากพูดเรื่องวิทยานิพนธ์ของเธอแล้วมาดูว่ามันคืบหน้าไปถึงไหน อาจารย์ไม่คิดเลยว่าเธอจะข้ามไปวิทยาการคอมพิวเตอร์ อาจารย์ว่าอาจารย์คงเสียเวลาเปล่าแล้ว”
ลู่โจวขมวดคิ้วและคิด ‘ถ้าผมยังเขียนวิทยานิพนธ์ ผมกลัวว่าอาจารย์จะคิดว่าผมกำลังเขียนวิทยานิพนธ์คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานมากกว่า ทำไมอาจารย์ถึงคิดว่าผมทำผิดตลอดล่ะ?’
แน่นอนเขาไม่อาจพูดสิ่งที่คิดในใจได้
ลู่โจวกระแอม เขายิ้มแล้วกล่าว “อาจารย์ คณิตศาสตร์ก็ยาก ผมพยายามดีที่สุดแล้ว”
ศาสตราจารย์ถังโบกมือและไม่ได้โต้เถียง เขาวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วกล่าว “เอาล่ะ พอแค่นี้แล้วกัน ทิ้งบัญชีธนาคารไว้แล้วก็ไปเถอะ”
บัญชีธนาคาร?
ลู่โจวอึ้ง
ศาสตราจารย์ถังมองดูสีหน้าประหลาดใจของลู่โจว เขาหรี่ตาแล้วยิ้ม “อะไร? ทำไมเธอถึงดูแปลกใจแบบนั้น? ไม่มีใครบอกเธอเหรอ?”
“เรื่องอะไรครับ?” ลู่โจวถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
“ทางมหาลัยได้จัดประชุมเมื่อไม่กี่วันมานี้ ทางมหาลัยกล่าวว่าจะสนับสนุนกิจกรรมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสนับสนุนให้นักศึกษาเกิดความรู้ใหม่ๆ พวกเขาอยากให้เราดูไปที่สถิติและดูว่าแต่ละสาขามีการส่งวิทยานิพนธ์ไปจำนวนเท่าไหร่” ศาสตราจารย์ถังกล่าว จากนั้นเขาก็หยุดแล้วยิ้มก่อนจะกล่าวต่อ “พูดง่ายๆ เธอจะได้เงิน เงินนี้ถูกจ่ายตามปัจจัยกระทบของวิทยานืพนธ์SCI! อาจารย์จำตัวเลขไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่มันไม่น้อยกว่าห้าพัน!”
ห้าพัน!
ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “ศาสตราจารย์ จู่ๆผมก็มีความคิดดีๆบางอย่าง ผมยังส่งวิทยานิพนธ์SCIตอนนี้ได้ไหม?”
“ไปไกลๆเลย” ศาสตราจารย์ถังกล่าว เขาหัวเราะ “มันสายไปแล้ว!”
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นลู่โจวเป็นแบบนี้
มันเป็นความสุขที่อธิบายไม่ได้!