Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 488 กลไกทางกายภาพและแบบจำลองสหสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของตัวนำยิ่งยวดแบบอุณหภูมิสูง (รีไรท์)
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 488 กลไกทางกายภาพและแบบจำลองสหสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของตัวนำยิ่งยวดแบบอุณหภูมิสูง (รีไรท์)
แม้ว่าเขาจะสนใจในหัวข้อที่ศาสตราจารย์เฮอร์เรโรเสนอเป็นอย่างมาก ทว่า ตอนนี้ลู่โจวต้องรับผิดชอบโครงการนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมด้วย เขาจึงไม่สามารถมุ่งความสนใจไปที่การศึกษาด้านความหมายทางกายภาพที่ลึกซึ้งของวัสดุ SG-1 ได้อีกต่อไป
ถึงอย่างไรแล้วสัญชาตญาณก็บอกเขาว่าถึงแม้จะแก้ไขแบบจำลองสหสัมพันธ์สุดแข็งแกร่งที่มีอยู่ในวัสดุ SG-1 ได้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยกลไกทางกายภาพของตัวนำยิ่งยวดแบบอุณหภูมิสูงได้อยู่ดี หรือแม้จะได้รับสถานะตัวนำยิ่งยวดที่แม่นยำจากการคำนวณก็ตาม
คนทั่วไปอาจไม่เข้าใจ แต่ลู่โจวเข้าใจดี
ความสำคัญของงานนี้ ในทางทฤษฎีอาจกล่าวได้ว่ามันมีความสำคัญมากกว่าเมื่อเทียบกับนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม
ปัญหาของตัวนำยิ่งยวดแบบอุณหภูมิสูงได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนหรืออุปกรณ์ที่มีข้อจำกัดทางแม่เหล็ก ความยากทางวิศวกรรมก็จะลดลงไปอย่างมากเช่นกัน
ประเด็นนี้ถูกส่งไปยังห้องสมุดงานวิจัยของสถาบันการศึกษาขั้นสูง แท้จริงแล้ว ลู่โจวเองก็ตั้งใจจะรอจนกว่าจะมีเวลาทำวิจัยต่อ
สำหรับขั้นตอนปัจจุบัน หากเรียงตามลำดับความสำคัญ นิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมก็ยังคงอยู่ในลำดับแรก…
หลังจากอยู่ประเทศจีนได้เพียงสองวัน ศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็ขึ้นเครื่องบินและรีบกลับไปเยอรมนีทันที
ในทางกลับกัน หลังจากที่ศาสตราจารย์แคริเบอร์จากไป นักวิชาการผานก็ตรงมาถึงจินหลิง และได้พบกับลู่โจวที่บ้านพัก
นักวิชาการผานมองไปรอบห้องนั่งเล่นพร้อมเดาะลิ้น
“บ้านหลังใหญ่อะไรขนาดนี้ ราคาเท่าไหร่กันล่ะ?”
“หลายพันล้านหยวนเลยครับ”
นักวิชาการผานรู้สึกชื่นชม “ดูเหมือนว่าแบตเตอรี่ลิเธียมจะช่วยให้นายทำเงินได้มากเลยสินะ”
“นี่ยังไม่หมดปีเลยนะครับ อีกอย่าง คุณเองก็นั่งรถมาตั้งไกลเพื่อมาอวยพรวันปีใหม่ให้ฉันไม่ใช่หรือไงกัน?” ลู่โจวที่นั่งอยู่ตรงข้ามรินชาร้อนสองถ้วยและวางไว้บนโต๊ะ
นักวิชาการผานกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ ทำไมไม่มาต้อนรับฉันหน่อยล่ะ?”
“ก็มันกะทันหันไปหน่อยน่ะครับ” ลู่โจวกล่าว
“อ่า ก็ได้” นักวิชาการผานนั่งลงบนโซฟาพร้อมกล่าวคำพูดติดตลก “แล้วนายได้ติดต่อสถาบันมักซ์พลังค์ไปหรือยัง?”
“เอ่อ…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการผานก็ขมวดคิ้ว “ว่าไงนะ?”
“ผมติดต่อกับหัวหน้าวิศวกรของห้องทดลองวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กไปแล้ว แต่สำหรับสถาบันมักซ์พลังค์ ยังไม่ได้ติดต่ออะไรเลย”
ลู่โจวพูดต่อระหว่างที่กำลังจิบน้ำชา
“ทุกอย่างดูจะเป็นไปได้ด้วยดีนะครับ เราเองก็แสดงให้พวกเขาเห็นถึงเทคโนโลยีวัสดุตัวนำยิ่งยวดที่ทำจากคาร์บอนแล้ว อีกอย่างเราก็จะออกแบบแม่เหล็กตัวนำยิ่งยวดที่ทำจากคาร์บอนให้เสร็จสมบูรณ์ภายในระหว่างปีนี้ด้วย พวกเขาสนใจเทคโนโลยีนี้ไม่น้อย เพราะแบบนี้แหละ ผมจึงให้คำแนะนำในการใช้เทคโนโลยีไป”
นักวิชาการผานถามกลับ “แล้วชาวเยอรมันนั่นเห็นด้วยไหม?”
นี่เป็นข้อที่น่ากังวลที่สุด
ในเวลานั้นเอง ทางมหาวิทยาลัยยู่ฮัวก็ได้รับเครื่อง STELLARATOR H1-HELIAC จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียไปแล้ว
นอกเหนือจากค่าขนส่งสามสิบห้าล้านเหรียญออสเตรเลียและค่าขนส่งอีกสี่ล้านหยวนแล้ว พวกเขาก็ได้ตกลงที่จะเข้าร่วมโครงการ MAGPIE-II ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียด้วย ซึ่งอุปกรณ์ทดลองเชิงปฏิสัมพันธ์ระหว่างพลาสมาแบบแม่เหล็กถือเป็นส่วนประกอบในการสร้างพลังงาน
เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยออสเตรเลียยังไม่สมบูรณ์แบบ อีกทั้งชาวเยอรมันนั้นไม่มีความต้องการสิ่งนี้แม้แต่น้อย
และ WEGA เองก็ถือเป็นอุปกรณ์ที่สร้างสถิติโลกมาแล้วหลายครั้ง แม้ว่ามันจะถูกปิดตัวลงไป แต่ถ้าเป็นลู่โจวแล้วก็สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก
ลู่โจวยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ในระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ได้หารือกันในประเด็นนี้
นักวิชาการผานที่นั่งอยู่ตรงข้ามลู่โจวถึงกับเบิกตากว้าง
ความสามารถในการค้นคว้าวิจัยส่วนตัวของลู่นั้นไม่มีข้อกังขา ไม่มีใครสงสัยในความเป็นมืออาชีพของผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลผู้นี้เลย
แม้ว่าเขาจะมีอายุเพียงยี่สิบสี่ปี และประสบการณ์ของลู่โจวเองก็ยังถือว่ามีไม่มากนักก็ตาม
ในตอนแรกนักวิชาการผานยังคงมีความกังวลว่าลู่โจวจะมีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าของโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่แบบนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งเขายังกังวลอีกว่าลู่โจวจะประสานงานจากสถาบันวิจัยอื่นได้ดีจริงหรือ?
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าความกังวลนั้นจะหายไปแล้ว…
ลู่โจวจิบชาและกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“กุญแจสำคัญในตอนนี้คือเราต้องจัดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อเตรียมส่งมอบอุปกรณ์ ไหน? มีใครจะแนะนำหน่อยไหม?”
เครื่อง STELLARATOR นั้นไม่ใช่ตู้เย็นที่เวลาคุณซื้อเข้าบ้านแล้วต้องการจะใช้ก็ไปเสียบสายไฟเอา
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้อุปกรณ์ให้ปลอดภัย วิธีการถอดและติดตั้ง ทั้งหมดนี้ต้องได้รับการฝึกอบรมจากมืออาชีพ
สถาบันมักซ์พลังค์จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการฝึกอบรมบุคลากรระหว่างส่งมอบอุปกรณ์ แต่ทว่าลู่โจวก็ส่งคนไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เริ่มจากศูนย์ไม่ได้หรือไงกัน?
นักวิชาการผานครุ่นคิดสักครู่แล้วจึงกล่าวออกมา
“ถ้านายซื้ออุปกรณ์มาได้ ก็บอกให้พวกเขาโอนย้ายของมาได้เลย สถาบันฟิสิกส์นิวเคลียร์ตะวันตกเฉียงใต้และสถาบันวัสดุศาสตร์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์จีนมีผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้อยู่ แต่เครื่อง STELLARATOR ก็ถือว่าจัดการได้ค่อนข้างยาก ยังไงก็เถอะ คนที่เรียนในสาขานี้อาจจะมีคนรู้ แต่คงมีความรู้ไม่ลึกมากนัก”
ลู่โจวเองก็เข้าใจถึงความยากลำบาก ไม่นา เขาก็กล่าวคำพูดขึ้น “เดี๋ยวจะลองหาดูก็ได้ แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องโทคาแมค แล้วก็อุปกรณ์ฟิวชันทั้งสองนี้ แม้ว่าจะแตกต่างกันในเชิงเทคนิค แต่มันก็มีข้อจำกัดอยู่ อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องรายละเอียดทางเทคนิคที่ต้องจัดการด้วยแหละครับ”
“ฉันจะพยายามช่วยนายหาผู้สมัครในด้านนี้ก็แล้วกัน… ถ้าเป็นแบบนี้ อีกนานไหมที่โครงการเครื่อง STELLARATOR จะเสร็จสิ้น?” นักวิชาการผานกล่าว
ลู่โจวเผยยิ้มทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
แม้แต่โครงการนิวเคลียร์ฟิวชันเองก็ยังพบปัญหามากมายตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ถึงกระนั้นความคืบหน้าของโครงการเครื่อง STELLARATOR ก็ไม่น่าจะมีปัญหามากนัก
ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ ลู่โจวก็มักจะรู้สึกดี
“ตามที่หัวหน้ากลุ่มคนงานบอก การส่งมอบจะเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคมนี้!”
…
ลู่โจวใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานนัก หลังจากไปที่สถาบันเครื่อง STELLARATOR แล้วก็ไปสถาบันการศึกษาขั้นสูง เขาต้องการที่จะกลับบ้าน ส่วนนักวิชาการผานเองก็ต้องรีบกลับไปปักกิ่ง เพราะเขาต้องเริ่มช่วยลู่โจวค้นหาผู้ที่จะสมัครเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในทางกลับกัน ปีใหม่นั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว และงานที่ลูโจวต้องทำก็กลับมาอยู่ถูกที่ถูกทางเสียที
ในระหว่างการปรับปรุงวัสดุ SG-2 นั้น ลู่โจวเองก็ได้วางแผนที่จะก่อตั้งสถาบันฟิสิกส์และสถาบันคณิตศาสตร์ขึ้นมา
ท้ายที่สุดแล้วงานในเชิงทฤษฎีเป็นรากฐานของทุกสิ่ง ในการวางแผนอนาคตของสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิง สถาบันฟิสิกส์และสถาบันคณิตศาสตร์ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
ถึงอย่างไรแล้วสิ่งที่น่าอายคือลู่โจวต้องมาพบกับปัญหาตั้งแต่แรกเริ่มทำงาน
แต่ถ้าหากเทียบกับสถาบันวัสดุคำนวณแล้ว การก่อตั้งสถาบันฟิสิกส์และสถาบันคณิตศาสตร์นั้นก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เขาคิดไว้สักเท่าไหร่
แม้ว่าลู่โจวจะได้รับประวัติของเหล่านักวิจัยมามากมาย แต่ผู้สมัครเหล่านี้ก็มักจะอายุน้อยกว่าเกณฑ์ และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกที่เพิ่งออกมาจากมหาวิทยาลัย
ส่วนบุคคลที่มีความสามารถชั้นยอด ก็นับได้ว่ายังขาดคุณสมบัติอยู่
ข้อบังคับทางทฤษฎีและวิศวกรรมถือว่ามีความแตกต่างกันมาก การศึกษาวัสดุศาสตร์ต้องใช้แรงงานนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากเพื่อทำการทดลองทางเทคนิคซ้ำไปซ้ำมา
แต่สำหรับด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ซึ่งมักจะเน้นงานไปทางด้านทฤษฎี ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะพึ่งพาทรัพยากรมนุษย์
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ลู่โจวก็นึกถึงอาจารย์ใหญ่สวี่และรีบไปหาเขาที่ห้องทำงานทันที เขาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากจากชายคนนี้…
เมื่อเขารับรู้ปัญหาของลู่โจว อาจารย์ใหญ่สวี่ก็กล่าวคำพูดขึ้นพร้อมกับจิบชาร้อน
“ผู้ที่มีความสามารถอยู่ในระดับสูงมักจะไม่ค่อยมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของการวิจัยมากนักหรอก โดยทั่วไปแล้ว พวกเขาสามารถเข้าได้กับตำแหน่งการวิจัยแทบทุกตำแหน่งในสถาบัน คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่จะเต็มใจเข้ามาทำงาน และวิธีการเผยแพร่ในวงกว้างถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักวิจัยปริญญาเอกที่มีประสบการณ์น้อยกว่าทศวรรษ แต่สำหรับนักวิจัยมือดีหรือมือหนึ่ง พวกเขามักจะตั้งเงื่อนไขที่ค่อนข้างจำกัดเพื่อตัวเอง”
หลังจากเงียบไป อาจารย์ใหญ่สวี่ก็พูดต่อ
“ถ้าต้องการจะจัดการเรื่องนี้ เงื่อนไขสำหรับนักวิจัยเหล่านั้นต้องดีและเปิดโอกาส ไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มเติมหรือปรับปรุงอะไร เพราะนักวิชาการที่มีผลงานดีอยู่แล้ว นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญกว่า”
แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของนักวิชาการ แต่เขาก็ได้ทำงานในตำแหน่งบริหารมาหลายปี เพราะฉะนั้นอาจารย์ใหญ่สวี่ถือเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ส่วนตัวในงานบริหารค่อนข้างมาก
หลังจากฟังประสบการณ์ของอาจารย์ใหญ่สวี่อย่างตั้งใจ ลู่โจวก็พยักหน้าอย่างครุ่นคิดและถามต่อ
“มีวิธีไหนบ้างไหมครับที่พอจะช่วยได้?”
“ก็ต้องฝึกฝนเหล่านักวิจัยให้เชี่ยวชาญแหละ” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าเป็นคำเชิญจากผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล แม้ว่าพวกเขาจะเป็นถึงนักวิชาการที่สูงศักดิ์ แต่เชื่อสิ! พวกเขาต้องเก็บไปพิจารณาแน่นอน”
………………………………………………