Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 489 ความร่วมมือ (รีไรท์)
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 489 ความร่วมมือ (รีไรท์)
หลังจากกลับไปเยอรมนี ศาสตราจารย์แคริเบอร์แทบจะไม่ได้หยุดพักเลย เขาได้เดินทางไปพบกับผู้อำนวยการของสถาบันมักซ์พลังค์ทันทีเพื่ออธิบายสถานการณ์ตอนที่อยู่จีน…
“ครั้งนี้ ฉันได้พบกับศาสตราจารย์ลู่ที่เมืองจินหลิงด้วยล่ะ เขาแสดงให้ฉันเห็นถึงผลการวิจัยล่าสุดของสถาบันวัสดุคำนวณ พวกเขาได้วางกราฟีนสองมิติซ้อนกันที่มุมพิเศษเพื่อเตรียมการให้อุณหภูมิเกิดการถ่ายโอนไปยังตัวนำยิ่งยวดที่หนึ่งร้อยเอ็ดเคลวิน”
“วัสดุ SG-1? ฉันได้อ่านรายงานเรื่องวัสดุนั้นตอนที่ทำการประชุมฤดูใบไม้ร่วงแล้ว” ศาสตราจารย์แกนเซอร์ เฮซิงเกอร์ที่กำลังเขียนรายงานอยู่บนโต๊ะทำงานไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลยด้วยซ้ำ “ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อุณหภูมิการถ่ายโอนที่หนึ่งร้อยสิบเอ็ดเคลวินก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ”
ด้วยความที่เขาเป็นนักฟิสิกส์พลาสมา วัสดุศาสตร์จึงไม่ใช่สาขาการวิจัยที่เขาถนัดนัก แต่เขาเองก็เป็นถึงผู้อำนวยการของสถาบันมักซ์พลังค์ เขานั้นยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบด้านวิศวกรรมนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุม ทั้งนี้ เขาก็ยังคงติดตามความคืบหน้าการวิจัยเรื่องวัสดุตัวนำยิ่งยวดอยู่
การที่เขาบอกว่าอุณหภูมิการถ่ายโอนที่หนึ่งร้อยเอ็ดเคลวินนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย ถึงอย่างไร เท่าที่เขารู้มา การวิจัยในปัจจุบันเกี่ยวกับวัสดุตัวนำยิ่งยวดในสมาคมฟิสิกส์นั้นมีอุณหภูมิการถ่ายโอนมากถึงสองร้อยสามเคลวิน แต่ทว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้ในสาขาอุตสาหกรรมนั้นมีแนวโน้มที่เป็นไปได้ยาก
จนถึงตอนนี้ พวกเขายังคงใช้วัสดุทองแดงออกไซด์ในการทำแม่เหล็กตัวนำยิ่งยวดอยู่เลย
วัสดุเหล่านี้เองก็จะมีปัจจัยแง่ลบบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนำความร้อนที่ไม่ดีหรือสนามแม่เหล็กที่ไม่เสถียร แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทองแดงออกไซด์ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดถ้าทำการรวมปัจจัยทั้งหมดเข้าด้วยกัน
“มันไม่ได้มีแค่ปัญหาของอุณหภูมิร้อยกว่าเคลวิน ศาสตราจารย์แคริเบอร์ส่ายหัว “ข้อได้เปรียบที่แท้จริงของวัสดุ SG-1 คือเราไม่ต้องสนใจในเรื่องของการนำความร้อน”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ปากกาในมือของศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์ก็ต้องหยุด “นายแน่ใจอย่างงั้นเหรอ?”
ศาสตราจารย์แคริเบอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดี “ฉันเห็นมากับตา สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นหรอก”
หลังจากฟังคำอธิบายของศาสตราจารย์แคริเบอร์แล้ว สีหน้าของศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์ก็เปลี่ยนไปในที่สุด
แม่เหล็กตัวนำยิ่งยวดถือเป็นกุญแจสำคัญของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นวิธีทางเทคนิคของเครื่องโทคาแมกหรือดวงดาวจำลอง ก็จำเป็นต้องใช้สนามแม่เหล็กขนาดใหญ่เพื่อจำกัดพลาสมาที่มีอุณหภูมิหลายร้อยล้านองศา
หากประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนของตัวนำยิ่งยวดกราฟีนนั้นเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ก็คงพูดได้ว่ามันจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาคอขวดของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์เฮซิงเกอร์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานข้าง ๆ กล่าวคำเตือนขึ้นมา “แล้วพวกสมาคมเฮ็ล์มฮ็อลทซ์แห่งเยอรมันอยู่ที่ไหนกันล่ะ? ถ้าไม่ได้รับอนุญาต เราก็ไม่สามารถทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงได้ อีกทั้ง เราต้องทำข้อตกลงสำหรับเครื่อง WEGA อีก”
“ฉันจะติดต่อสมาคมเฮ็ล์มฮ็อลทซ์กลับไป นายจะแจ้งให้ฉันทราบเรื่องนักวิจัยของสถาบันฟิสิกส์พลาสมาด้วย เราจำเป็นต้องมีการประชุมเพื่อหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ “
…
ความเห็นของอาจารย์ใหญ่สวี่ทำให้ลู่โจวคิดบางอย่างออก
วิธีการกระจายข่าวสารการสมัครอาจจะไร้ประโยชน์ ด้วยเหตุนี้ การเจาะหาเป้าหมายสำหรับงานวิจัยถือเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า
สำหรับลู่โจวแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
หากพูดถึงคณิตศาสตร์ ลู่โจวเองก็ได้ติดตามความคืบหน้าในการวิจัยล่าสุดเอาไว้แล้ว สิ่งที่เหล่านักวิชาการทำก็มีเพียงแค่ตรวจดูเอกสารที่ลู่โจวส่งไป
และหากพูดถึงฟิสิกส์ ตราบใดที่ลู่โจวยังให้ความสนใจกับงานวิจัยยอดนิยมในบางเรื่องอยู่ เขาก็อาจจะหาผู้สมัครที่เป็นนักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยได้
สำหรับการคัดเลือกผู้สมัคร ลู่โจวเองก็มุ่งเป้าไปที่เหล่าศาสตราจารย์ชาวจีนที่อยากจะกลับมาทำการวิจัยอีกครั้งเป็นหลัก
ด้วยนโยบายการย้ายและตั้งถิ่นฐาน ลู่โจวสามารถช่วยให้นักวิชาการชาวจีนเหล่านี้ได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อนำไปเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ห้าแสนจนถึงหนึ่งล้านหยวน ซึ่งมันค่อนข้างคุ้มค่าไม่น้อย
ความเห็นของอาจารย์ใหญ่สวี่นั้นดีไม่น้อย
หลังจากที่พวกเขาได้รับอีเมลจากลู่โจวแล้ว แม้แต่นักวิชาการชาวจีนบางคนที่ไม่ได้กลับไปยังประเทศจีนก็ยังรู้สึกสนใจข้อเสนอที่มาจากผู้ชนะรางวัลโนเบล
ยิ่งไปกว่านั้น การมาทำงานในสถาบันการศึกษาขั้นสูงและสภาพแวดล้อมการวิจัยที่ไม่ได้ถูกรบกวนจากเรื่องการเมืองนั้นถือเป็นสิ่งที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสถาบันวิจัยในประเทศ
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ลู่โจวชักชวนมาได้ ตัวลู่โจวเองก็ไม่อยากต้องทำให้ใครต้องผิดหวัง
…
ในตอนนั้นเอง ลู่ปังกั๋วพลัยถอดรองเท้าและเดินเข้ามาในบ้านพร้อมถือของทอด ซุปและนมถั่วเหลืองอยู่ในมือ “ลำเอียงกันเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?! ตามข้างทางไม่มีร้านค้าเลย ถ้าจะซื้อของทีก็ต้องขับรถเลยออกไปอีก”
ถ้าอยู่ที่เมืองเจียงหลิง ลู่ปังกั๋วมักจะตื่นเช้าเพื่อไปซื้อของเข้าบ้าน
“พ่อคะ แถวบ้านพักไม่มีพวกร้านค้าริมทางเลยหรือไงกัน?” เสี่ยวถงกล่าว
เฒ่าลู่เอียงคอมองลูกสาว “พ่อว่าก็น่าจะเช้าไปแหละ”
“เรื่องของกิน ให้คนรับใช้จัดการก็ได้ หรือถ้าอยากกินอะไรข้างทาง ก็ให้คนรับใช้ออกไปซื้อให้ก็ได้” เฒ่าลู่กล่าว จากนั้น เสี่ยวถงก็เผยยิ้ม “แล้วพ่ออยากให้หนูช่วยทำอะไรไหม?”
ลู่โจวพลันขมวดคิ้ว
“คนรับใช้อะไรกัน? ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก” ฟางเหม่ยกล่าวคำพูดพร้อมหยิบชามมาวาง “ถ้าลูกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม่ก็จะให้กลับไปอยู่ที่เจียงหลิงเหมือนเดิมนะ ส่วนเรื่องของกินก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง”
เฒ่าลู่พลันกระแอมออกมา “คุณคงไม่ชิ้นที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่เลยหรอก แต่ถ้าเราจะย้ายมาจริง ๆ พ่อก็หวังที่จะมีหลานชายอยู่นะ”
เฒ่าลู่มักจะพูดถึงหลานชายในอนาคตอยู่เสมอ แต่ลู่โจวเองก็ไม่ค่อยจะสนใจในเรื่องนั้นเสียเท่าไหร่
เมื่อลู่โจวจบการศึกษาจากวิทยาลัยและได้รับปริญญาเอก เขาก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ อีกทั้ง เขาก็ยังได้รับรางวัลโนเบลอีกด้วย ทันทีที่คิดเช่นนั้น เฒ่าลู่เองก็อดกังวลไม่ได้
ความรู้สึกของเขาในตอนนี้ต่างออกไป
ถึงแม้ว่าตระกูลลู่จะยังไม่มีใครมาสืบทอดต่อ แต่สายเลือดของตระกูลนั้นก็จะไม่มีวันแตกสลายไป
ถ้าไม่พูดถึงเรื่องแต่งงานเสียตอนนี้ จะได้พูดอีกทีตอนไหนกัน?
เฒ่าลู่พลันถอนหายใจและมองไปยังลู่โจวที่กำลังทานอาหารเช้า “นี่ก็เลยปีใหม่มาแล้วนะ งานของลูกก็ดูจะเยอะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็ตอบกับด้วยคำพูดติดตลก “ไม่เอาน่าพ่อ ยิ่งเก่งมากเท่าไหร่ ความรับผิดชอบก็ต้องมากขึ้นเท่านั้น”
ไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่ทั่วทั้งโลกกำลังรอการวิจัยของเขาอยู่
เฒ่าลู่เงียบไปชั่วขณะ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องการแต่งงาน “อย่าหักโหมจนเกินไปล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน สุขภาพร่างกายต้องมาก่อนนะ”
ลู่โจวเผยยิ้มพร้อมพยักหน้า “ผมรู้แล้วน่า”
ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น
มันเป็นเบอร์โทรระหว่างประเทศ ลู่โจวเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์และกดปุ่มรับสาย
ในไม่ช้า เสียงของศาสตราจารย์แคริเบอร์ก็มาจากโทรศัพท์
“เราได้หารือกันเรื่องข้อเสนอก่อนหน้านี้แล้วนะ”
“แล้วคำตอบคืออะไรเหรอครับ?” ลู่โจวถามกลับ
“เราเชื่อว่าการร่วมมือกันจะเป็นประโยชน์ต่อเรามากกว่าเดิม”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็เผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
เขาไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะได้ยินข่าวดีในเช้าวันนี้
“ดีใจที่ได้ยินคำตอบนี้นะครับ หวังว่าเราจะมีความสุขที่ได้ร่วมมือกัน”
“ได้เลย!”
…………………………………………
Comments for chapter "ตอนที่ 489 ความร่วมมือ (รีไรท์)"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Blackboy
กินหญ้าลู่เอ้ยย