Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 49
ตอนที่ 49 ฉันสูญเสียครั้งใหญ่!
“ฉันสูญเสียครั้งใหญ่!”
ลู่โจวล็อคอินเข้าไปดูเว็บมหาลัย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีประกาศ
ใครจะคิดล่ะว่าเราจะสามารถหาเงินได้จากการเขียนวิทยานิพนธ์?
ทั้งหมดเป็นเพราะการประชุม
มีการประกาศกฏการได้รางวัลบนเว็บไซต์
[จำนวนรางวัล = (IF+1)*5000 หยวน]
IF คือปัจจัยกระทบของวารสาร
ยกตัวอย่างปัจจัยกระทบของ[วารสารเชิงทฤษฏีและคณิตศาสตร์ประยุกต์นานาชาติ]คือ 3.310 เขาตีพิมพ์วิทยานิพนธ์คณิตศาสตร์สองฉบับ ดังนั้นทางมหาลัยจะมอบเงินให้เขาทั้งหมด 41,300 หยวน นอกจากนี้จากศาสตราจารย์บอก เงินโบนัสนี้จะถูกจ่ายในรูปแบบเงินทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตามกฏหมายภาษีมาตราที่ 4 เงินก้อนนี้จะไม่เสียภาษี!
วิทยานิพนธ์อันอื่นอีกเก้าฉบับไม่เหมาะที่จะได้รับรางวัล แม้ว่ามันจะถูกนับเป็นวิทยานิพนธ์ SCI แต่มันถูกตีพิมพ์ในวารสารทั่วไป
ลู่โจวเห็นเรื่องนี้แล้วปวดใจ
จากการประเมิณของซีอีโอ วิทยานิพนธ์ทั้งเก้าฉบับของเขามีค่าอย่างไม่ต้องสงสัย เขาวางกับดักตัวเองด้วยเงินเล็กน้อยเพียง 150 หยวน
มันไม่มีประโยชน์ที่จะเสียใจ
อย่างไรก็ตามถ้ามีใครคิดเรื่องนี้อย่างชัดเจน มันก็ยากจะพูดว่ามันเป็นความสูญเสียหรือได้กำไร
ถ้ามันไม่ถูกส่งในวารสารทั่วไป มันก็จะถูกตรวจสอบโดยผู้ประเมิณทางวิชาการที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น วิทยานิพนธ์ของเขาอาจไม่ได้โดดเด่นกว่าวิทยานิพนธ์อันอื่นหรือมันอาจไม่ผ่านการตรวจสอบเร็วขนาดนี้
เหตุผลที่ทำไมเขาถึงได้รับการประเมิณระดับ S และปลดล็อคภารกิจรางวัลส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะความเร็วของกระบวนการตรวจสอบของวารสารทั่วไป
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาอาจจะมีเงินพอค่าเซิฟเวอร์ก็ได้?
“โจว นายกำลังดูอะไร?”
หลิวรุ่ยเห็นว่าลู่โจวไม่ได้ไปเรียนที่ห้องสมุด กลับกันเขากำลังนั่งจ้องคอมพิวเตอร์แทน ด้วยความสงสัย เขาจึงเอ่ยถามในที่สุด
ในที่สุดหลิวรุ่ยก็เลิกประจบลู่โจว
ดูเหมือนความเห่อจะมีเวลาจำกัด…
“ไม่มีอะไร” ลู่โจวถอนหายใจ เขากล่าว “ฉันแค่เศร้าที่เสียเงินไปนิดหน่อย”
“เงินอะไร…รางวัลวิทยานิพนธ์SCIเหรอ? เชี่ยเอ้ย นายเก่งเกินไปแล้ว…” หลิวรุ่ยกล่าวขณะแววตาเบิกกว้าง เขาตะโกน “นายได้เงินมาเท่าไหร่?”
“น่าจะหมื่นถึงสองหมื่น”
ลู่โจวอยากถ่อมตัวและกล่าวจำนวนน้อยๆเข้าไว้
เขาไม่คิดเลยว่าหลิวรุ่ยจะช็อคกับเงินจำนวนนี้
หลิวรุ่ยเงียบไปครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นพักใหญ่ เขาก็ถอนหายใจแล้วกล่าวโดยปราศจากอารมณ์ “โจว คืนนี้นายเลี้ยงข้าวฉันหน่อยสิ”
ลู่โจวครุ่นคิด มันสมเหตุสมผล
ท้ายที่สุดแล้วเขาบอกได้ว่าพวกเขาไม่ควรลืมกันและกัน อย่างน้อยเมื่อพวกเขารวย พวกเขาก็ควรเลี้ยงข้าวกันบ้าง
แม้ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับเงิน แต่เขาก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว
ดังนั้นเขาจึงพาหลิวรุ่ยไปฟู้ดสตรีทใกล้ๆมหาลัยแล้วพบร้านชาบูซุปหมาล่า…
…..
ชาบูหมาล่าถูกเสิร์ฟมาที่โต๊ะพวกเขา ปกติหลิวรุ่ยไม่ดื่ม แต่เขาสั่งเบียร์มาสองขวด
พวกเขาเปิดฝาเบียร์
ทันใดนั้นเองหลิวรุ่ยก็เอ่ยถาม “อยู่มหาลัยช่วงซัมเมอร์เป็นไงบ้าง?”
ลู่โจวทานเต้าหูสติ๊กไปตอบไป “ไม่เป็นไง ค่อนข้างบรรลุเป้าหมายดี”
“ฉันอิจฉานายว่ะ” หลิวรุ่ยถอนหายใจ จากนั้นเขาก็กล่าวเสริม “ฉันรู้สึกเหมือนฉันโง่ขึ้นเรื่อยๆ ฉันรับความรู้ใหม่ๆไม่ได้เลย”
เขาเสียใจอย่างจริงจังที่เข้าร่วมการแข่งขันการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์
เมื่อเขาผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบแรกของมหาลัย เขาก็ได้เพื่อนร่วมทีมและอาจารย์ อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มการฝึกจริง เขาก็ตระหนักว่าเขาล้าหลังกว่าอัจฉริยะที่แท้จริงมากแค่ไหน
ยกตัวอย่างนักศึกษาปีสามในทีมของเขาที่เคยได้รองชนะเลิศถึงสองครั้ง เขาเข้าร่วมการแข่งขันก่อนจบการศึกษาด้วยความหวังที่จะชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง หลิวรุ่ยเอาตัวเองเทียบกับอีกฝ่ายแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นน้องชายที่เอาแต่เกาะขาพี่ชาย
อย่างไรก็ตามคนอย่างเขาก็ยังกล่าวอย่างถ่อมตนว่าเขาความรู้ไม่ถึงขั้น
ต่อมาหลิวรุ่ยก็ได้ยินจากทีมอื่นว่าทางมหาลัยได้ให้คณะต่างๆจัดตั้ง’ทีมอัจฉริยะ’ขึ้นมา มันเป็นทีมทองคำที่แท้จริง คนเหล่านั้นจะไม่มาฝึกกับคนอย่างเขาด้วยซ้ำ
ในที่สุดหลิวรุ่ยก็เข้าใจว่าทีมที่ลู่โจวเข้าร่วมเป็นทีมอัจฉริยะในตำนาน
หลังจากได้ข่าว เขาก็รู้สึกซับซ้อน
เมื่อช่องว่างมันกว้างใหญ่เกินไป เขาก็เริ่มคิดว่าเขาควรอิจฉาเพื่อนร่วมชั้นของเขาที่จู่ๆก็ประสบความสำเร็จดีหรือไม่
หลังจากชนขวดเบียร์กับหลิวรุ่ย เขาก็กล่าว “ฉันว่า นายทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป”
“ไม่มีทางเลือกนี่ มีคนที่เก่งกว่าฉันและขยันกว่าฉัน ฉันก็ต้องพยายามให้มาก” หลิวรุ่ยกล่าว เขากระแทกขวดเบียร์ลงแล้วถอนหายใจ มันเหมือนกับว่าเขาพยายามพัดพาเอาความท้อแท้ออกจากร่างกายแล้วปล่อยให้มันล่องลอยไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน
ลู่โจวเมาเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวรุ่ยถึงท้อ
เมื่อคนเราเมา เราก็จะพูดจาอย่างหยาบคาย
“ฉันจำได้ว่า…ฉันไม่ควรพูด”
หลิวรุ่ยชะงัก เขาคิดว่าลู่โจวมีคำแนะนำดีๆ ดังนั้นเขาจึงอดถามไม่ได้ “อะไร?”
ลู่โจวเรอก่อนจะกล่าว “ถ้ามีคนที่เก่งกว่านายแล้วขยันกว่านาย นายพยายามไปจะมีประโยชน์อะไร?”
หลิวรุ่ย “…”
ทั้งสองดื่มเบียร์ไปเจ็ดขวด ซึ่งห้าในเจ็ดขวดเป็นหลิวรุ่ยดื่มคนเดียว
…..
หลิวรุ่ยไม่ใช่คนที่คอแข็งนักและเขาจะอยู่เงียบๆเมื่อเขาเมา หลังจากดื่มขวดสุดท้าย เขาก็กระแทกหัวบนโต๊ะจนทำให้ลู่โจวกลัว แม้แต่ผู้จัดการร้านชาบูหมาล่าก็ช็อคเพราะคิดว่าหลิวรุ่ยถูกวางยา
หลังจากนั้นเจ้าเด็กคนนี้ก็หันหัวขึ้นมาแล้วเริ่มพูดจาไร้สาระ ผู้จัดการและลู่โจวก็รู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นแบบนั้น
เมื่อลู่โจวจ่ายเงินเสร็จ เขาก็พาหลิวรุ่ยที่กำลังเมากลับหอพัก ลู่โจวไม่มีแรงมากพอที่จะแบกเขาขึ้นบันได ดังนั้นเขาจึงดึงเสื่อออกมาจากตู้แล้วให้หลิวรุ่ยนอนบนพื้น
เขารอให้หมอนี่นอนบนเสื่อก่อนจะห่มผ้าให้
ไม่มีใครแล้วที่ช่วยเพื่อนแบบนี้
ลู่โจวเปิดแอร์แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะจิบน้ำ เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาเหนื่อย
หลิวรุ่ยไม่เหนื่อยเลย กลับกันเขานอนแล้วก็กรนเลย
“พรุ่งนี้เช้านายแฮงค์แน่”
ลู่โจวส่ายหน้าแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ เขาเปิดเว็บไซต์ขายของออนไลน์แล้วเริ่มค้นหาเครื่องเซิฟเวอร์ที่เหมาะสม
จากคำพูดของศาสตราจารย์ถัง ทางมหาลัยจะโอนเงินให้เขาช้าสุดพรุ่งนี้ เขาจะหาเครื่องเซิฟเวอร์วันนี้แล้วสั่งซื้อหลังจากได้เงิน
ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากซื้อเครื่องเซิฟเวอร์ที่มีคุณภาพดีๆ
มันไม่ได้ใช้แค่แอพซื้อตั๋วของเขาเท่านั้น แต่มันยังเตรียมการเพื่อ’ปัญญาประดิษฐ์ระดับ 0’ของภารกิจรางวัลด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อฉันอัพเกรดปัญญาประดิษฐ์จากระดับ 0 เป็นระดับ 1 ?
มันจะเป็นสาขาเทคโนโลยีแรกที่เขาปลดล็อค
ดังนั้นลู่โจวจึงตื่นเต้น
แน่นอนหลังจากเห็นราคาเครื่องเซิฟเวอร์ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้า
“Dell…Rackmount chassis 2U 56 คอร์(cores) 112 เทรด(threads) แรม 256GB มาพร้อมกับฮาร์ดไดรฟ์ 8TB 12 ตัว 270,00 หยวน! ไม่มีทาง”
“Lenovo IBM dual controller storage array ใช้เทคโนโลยี Storwize real-time compression แรม 64GB fiber connections 8GB 8ตัว ฮาร์ดไดรฟ์ 3.5 นิ้ว 24 ตัว! ราคา 40,000หยวน! มันดูไม่เลวเลย…เดี๋ยว! ฉันพลาดเลขศูนย์ไปตัวนึง…ฉันไม่มีปัญญาซื้อ!”
เขาเลื่อนไปดูหน้าอื่น แต่ทั้งหมดมีราคาไม่ต่างกันเลย
บัดซบ!
ทำไมมันถึงแพงแบบนี้!
ลู่โจวกดให้มันเรียงตามราคาแล้วพบเครื่องเซิฟเวอร์ที่ถูกๆอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าเครื่องเซิฟเวอร์จะรับไหวไหม เขาไม่อาจใช้เงินทั้งหมดเพื่อซื้อเครื่องเซิฟเวอร์ได้
การบำรุงรักษาเครื่องเซิฟเวอร์ก็เสียเงินเช่นกัน!
ลู่โจวตัดสินใจไม่ได้ ทันใดนั้นเองเขาก็พลันนึกถึงอัจฉริยะวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในทีม
เอ้อนั่นสิ ทำไมฉันไม่ถามเขาล่ะ?
เนื่องจากมันยังไม่ดึก ลู่โจวจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเขา