Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 491 งั้นก็ชวนมาให้หมดเลย (รีไรท์)
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 491 งั้นก็ชวนมาให้หมดเลย (รีไรท์)
“ต้องไปแลกเปลี่ยนที่สถาบันมักซ์พลังค์… ดูจะเป็นโอกาสที่ดีมากเลยนะ แต่ทำไมเรื่องนี้ไม่มีการกล่าวถึงในการประชุมล่ะ?” หยวนหยวนกล่าวขณะอ่านอีเมลและเอกสารที่แนบมา เขาเผยสีหน้าที่แปลกไป
ในสาขาฟิสิกส์พลาสมา นอกเหนือจาก PPPL แล้ว สถาบันมักซ์พลังค์ก็น่าจะเป็นสถาบันวิจัยพลาสมาที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง
ตามหลักแล้ว นี่คือโอกาสสำคัญที่ไม่ควรพลาด
จ้วงชิงเว่ยที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะทำงานพลันส่ายหัว “อย่าไปคิดเรื่องนั้นเลย”
“ทำไมกันล่ะ?” หยวนหยวนขมวดคิ้ว
จ้วงชิงเว่ยถอนหายใจพร้อมชี้นิ้ว “ดูสิว่าใครเป็นคนจัดงาน…”
“ก็แค่สถาบันวิจัย STAR STELLARATOR… แล้วมันทำไมล่ะ?”
“นายไม่รู้หรือไงกันว่านักวิชาการโจวกับศาสตราจารย์ลู่ไม่ถูกกัน?”
“เพราะเรื่องนี้?” เขาพลันถอนหายใจ
“คิดว่าใช่ไหมล่ะ?”
“ไร้สาระเกินไปหน่อยแล้ว!” หยวนหยวนเผยความโกรธ
สีหน้าของหยวนหยวนในตอนนี้ทำให้จ้วงชิงเว่ยถึงกับส่ายหัว “ยังมีโอกาสอีกเยอะสำหรับการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ นายเองกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งอยู่แล้ว ไมต้องไปทำให้นักวิชาการโจวขุ่นเคืองเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอก”
“เรื่องแค่เนี่ย?” หยวนหยวนพลันส่ายหัวพร้อมมองไปยังใบประกาศบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
สำหรับเรื่องนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม ยังคงมีรายงานทางวิชาการมากมายที่เขาสามารถเข้าร่วมและเข้าไปทำการประชุมเพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศได้
ทว่า โอกาสที่พวกเขาจะได้เข้าถึงเทคโนโลยีหลักนั้นค่อนข้างยาก
ในฐานะวิศวกรที่อยู่ในสาขานี้ เขารู้ดีว่าโอกาสครั้งนี้มีค่ามากเพียงใด
ถ้าเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านั้นได้ ก็จะสามารถนำไดเวอร์เตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำมาเปลี่ยนใส่กับเครื่องโทคาแมคได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้ในการทดลองปฏิสัมพันธ์ของพลาสมาแม่เหล็กได้อีกด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว หยวนหยวนก็พลันส่ายหัวด้วยความไม่เต็มใจ นั่นเป็นเพราะเขาทำอะไรไม่ได้
อีกทั้ง มันก็ไม่ได้คุ้มค่าขนาดนั้น
เขาถอนหายใจพร้อมผลักเก้าอี้ออก
“งั้นฉันขอออกไปสูบบุหรี่ก่อนแล้วกัน”
“ตามสบายเลย” จ้วงชิงเว่ยกล่าว
…
“ฉันยังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับทางฝั่งตะวันตกเลย ขอโทษที”
เมื่อมีการพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของนักวิชาการผานก็ดูจะร้อนรนขึ้น
ทว่า ตราบใดที่สถาบันมักซ์พลังค์ยอมรับและเห็นด้วย มันก็ไม่มีปัญหาอะไร
ลู่โจวทำข้อตกลงไปแล้ว อีกทั้ง ยังยอมเสียสละเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อโอกาสนี้ แต่เขาก็ล้มเหลว
ถึงเขาจะได้พูดคุยกับเบื้องบนเรื่องนี้ แต่มันก็เหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์ขนาดนั้น
ในปัจจุบัน โจวเฉิงฟู่เป็นหัวหน้าของสถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ อีกทั้งเขายังเป็นหัวหน้าวิศวกรของศูนย์บริหารโครงการพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันนานาชาติ เขาต้องควบคุมเงินทุนวิจัยหลายพันล้านและโครงการอีกหลายร้อยโครงการ
ในทางวิชาการ ใครก็ตามที่สามารถควบคุมทรัพยากรเหล่านี้ได้คือราชา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมที่ถือเป็นประเด็นขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องโทคาแมคทั้งสี่เครื่อง สถาบันวิจัยร่วมอีกกว่าหนึ่งโหล รวมถึงเงินทุนและโครงการส่วนใหญ่ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่จะต้องผ่านการอนุมัติจากโจวเฉิงฟู่ก่อนทั้งนั้น
ไม่ต้องพูดเลยว่าสถาบันฟิสิกส์ตะวันตกเฉียงใต้ก็ไม่ต่างอะไรกับที่พักพิงของเขา แม้แต่ทางตะวันตกเฉียงใต้ สถาบันวัสดุศาสตร์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์จีนเองก็ยังคงเป็นกังวลกับชายชราผู้นี้
แล้วถ้ากระทรวงต้องให้ขอร้องคนอื่นให้มาทำหน้าที่แทนล่ะ? แม้แต่เหล่านักวิชาการคนอื่นก็เห็นแล้วว่ามันจะเป็นเช่นไรต่อไป…
หากคุณต้องการให้สักคนกลับมา คุณเองก็ต้องมีความตั้งใจอย่างยิ่งยวด
แม้ว่าจะเป็นการโดนสับโขกจากหัวหน้า หรือความตั้งใจที่จะลาออก มันก็มีอยู่ไม่กี่คนในระบบที่ยังคงสู้และทำต่อไป
เหล่าบรรดาผู้นำของกระทรวงและคณะกรรมการต่างก็รู้ดีว่าพวกเขาก็แค่หลับตาข้างเดียวแล้วเลือกมา
ทั้งนี้ โลกแห่งวิชาการเองก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด
ถึงกระนั้น นักวิชาการผานก็ยังคงคิดว่าเรื่องนี้มันง่ายเสียจนไม่มีอะไรซับซ้อน
เขาเชื่อว่าทุกวันนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเมื่อสิบปีก่อน
ในตอนนั้น “โครงการแห่งอนาคต” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมนิวเคลียร์ฟิวชันในจีนยังคงมีผู้เชี่ยวชาญไม่มากนัก พรสวรรค์ในนักศึกษาระดับปริญญาตรียังคงหายากนัก อีกทั้ง ประเทศเองก็ประสบเรื่องปัญหาเงินทุนที่มีไม่เยอะอีกด้วย
ถึงกระนั้น แม้ว่าทุกกระบวนการและขั้นตอนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่เขาก็ได้รวบรวมสถาบันวิจัยจากทั้งทางฝั่งเหนือและใต้มาด้วยความมุ่งมั่นที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทนี้
ภายใต้ความพยายามและความกดดัน โครงการ ITER จึงกลายเป็นโครงการวิศวกรรมวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งแรกที่ร่วมมือกับจีนด้วยความเท่าเทียมกัน
แม้ว่าจะเกษียณไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงจดจำความตื่นเต้นที่อยู่ในใจเมื่อครั้งอดีตได้อย่างไม่เคยลืมเลือน มันเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าข่าวชัยชนะของโอลิมปิกที่ปักกิ่งเสียอีก
หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากนักวิชาการผานแล้ว ลู่โจวก็พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ
“อ่า ยังไงเราก็ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้ด้วย ถ้าคุณไม่อยากขอความช่วยเหลือจากฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ก็ไม่เป็นไร ผมว่าเรามาเริ่มทุกอย่างเองนี่แหละ”
แม้ว่าจะต้องไปปักกิ่ง เขาเองก็อยากจะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้
ทว่า เวลาของเขามีค่ายิ่งกว่านั้น มันจะเป็นการไร้ประโยชน์ที่จะมาโต้เถียงกับใครคนอื่น
แท้จริงแล้ว แม้ว่าคนอย่างลู่โจวจะไม่สนใจในอำนาจ แต่เขาก็เข้าใจดีว่าโลกแห่งวิชาการเองก็ไม่ได้ขาวบริสุทธิ์อย่างที่มันควรจะเป็น
ถึงกระนั้น เขาค่อนข้างมั่นใจ
อีกไม่นาน ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อกว่าทุกสิ่งจะปรากฏออกมา
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของลู่โจว นักวิชาการผานก็รู้สึกโล่งใจและพอใจ
แม้ว่านักวิชาการผานจะไม่ค่อยชอบที่เข้ากับเพื่อนร่วมงานคนเก่าไม่ได้ แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองว่าสถานการณ์ในครั้งนี้สำคัญกว่าทุกครั้ง
หากเป็นการฉีกหน้ากัน ก็จะไม่มีฝั่งใดได้รับผลประโยชน์ ไม่ว่านักวิชาการโจวจะยื่นมือมาช่วยหรือไม่ สิ่งที่จะเป็นปัญหามากที่สุดก็คืออนาคตของโครงการนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่จีนควบคุมอยู่ทั้งหมด
“ก็จริง” นักวิชาการผานกล่าวพร้อมพยักหน้า “พวกที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้คงช่วยอะไรไม่ได้ ฉันจะลองไปหาคนอื่นดู”
ลู่โจวพยักหน้าพร้อมกล่าวคำพูด “ถ้าผมจำไม่ผิด…ดูเหมือนว่ามหาวิทยาลัยหยูฮัวจะมีนักวิจัยประมาณสามสิบคนนะ ที่รู้เพราะผมเองก็เคยทำงานเกี่ยวกับการวิจัยมาตั้งหลายต่อหลายปี แล้วก็มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียก็ยังมีพวกวิศวกรฝีมือดีอยู่ด้วย ลองส่งคนไปเจรจาดูก็ได้นะครับ ผลลัพธ์ต้องออกมาดีกว่าเดิมแน่”
นักวิชาการผานขมวดคิ้วพร้อมถาม “นายกำลังพูดถึงทีมของศาสตราจารย์กงอยู่ใช่ไหม? ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะช่วยอะไรได้ไหม แม้แต่ที่มหาวิทยาลัยหยูฮัวเอง อีกอย่าง เงินทุนที่พวกเขาได้ก็มาจากโครงการจัดการพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นนานาชาติของจีนทั้งหมด”
ทว่า นักวิชาการผานก็ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้มากนัก อีกทั้ง โครงการ STELLARATOR ก็ไม่ได้ถูกจัดเป็นโครงการแบบกลุ่มอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ โจวเฉิงฟู่จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้
ท้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการทางเทคนิคของเครื่อง STELLARATOR ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย
ถึงอย่างไร ถ้ามันเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับลู่โจว เรื่องเงินทุนก็เป็นอะไรที่ควรจะต้องหารือกัน
“งั้นเอาแบบนี้ไหมครับ…” ลู่โจวกล่าวขึ้นหลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ “พวกนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากหรอก อย่างไรก็เถอะ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องเงินทุนเอง”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการผานก็เผยยิ้ม
“งั้นก็ดีเลย ฉันจะเริ่มเตรียมการตั้งแต่พรุ่งนี้”
ลู่โจวพยักหน้า “โอเคครับ ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยตัวเองเหมือนกัน”
………………..………………..