Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 501 การสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 501 การสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์
เมื่อได้เห็นความกังวลของอาจารย์ใหญ่สวี่ ลู่โจวก็เผยยิ้มและกล่าวขึ้น
“อันที่จริง มันไม่มีอะไรเลยครับ อาจเป็นเพราะนักวิชาการโจวเห็นว่าการพัฒนาของผมราบรื่นเกินไปมั้ง เขาคงกลัวจะแพ้ผมมากกว่าแหละครับ…”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดจากลู่โจว อาจารย์ใหญ่สวี่ก็ส่ายหัว
“นายคิดบวกเกินไปแล้ว”
“มันไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหนเลยนะครับ” ลู่โจวเผยยิ้มและพูดต่อ
“ในมุมมองของนักวิชาการโจว นิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เขาถนัด เขาเองก็คงจะไม่อยากอยู่ภายใต้อำนาจของใครหรอก นี่ไม่ใช่ประเด็นเรื่องเครื่องโทคาแมคแล้วก็เครื่อง STELLARATOR หรอกนะ แต่ก็เอาเถอะ ไม่ว่าตอนนี้ผมจะกำลังศึกษาเรื่องอะไรอยู่ ตราบใดที่โครงการเครื่อง STELLARATOR ยังไม่ไปตกถึงมือของเขา นักวิชาการโจวเองก็ต้องรู้สึกประหลาดใจบ้างแหละ”
อาจารย์ใหญ่สวี่เผยยิ้มและตอบกลับ “นายไม่สนใจที่จะตอบโต้แน่นะ?”
“ผมไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดสักเท่าไหร่หรอกครับ” ลู่โจวกล่าว “มันอาจจะกระทบกับคนอื่นก็จริง แต่กับผมมันเรียกได้ว่าแทบไม่กระทบเลยล่ะ”
“อ่า ก็ดี แต่ถ้าเขาใช้เล่ห์อย่างอื่นล่ะ? บางอย่างฉันก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ” อาจารย์ใหญ่สวี่กล่าวต่อ “แต่ยังไงก็ไม่ต้องห่วง เพราะทั้งฉันและคนทั้งมหาวิทยาลัย ทุกคนต่างพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างนาย”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวผมจะบอกแล้วกันครับ”
“พูดแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย” อาจารย์ใหญ่สวี่กล่าวพร้อมพยักหน้า “สิ่งที่ฉันกังวลที่สุดไม่ใช่การที่งานวิจัยของนายผิดพลาดหรอกนะ แต่เป็นเรื่องที่นายอาจจะค้นพบการวิจัยใหม่ ๆ แต่ไม่บอกกันมากกว่า”
ลู่โจวเผยยิ้ม “ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“ยังไงก็เถอะ ฉันเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ หรอกนะ ฉันรู้ดีว่านายไม่ใช่คนแบบนั้น” อาจารย์ใหญ่สวี่กล่าว “แล้วตอนนี้เจอปัญหาอะไรบ้างไหมล่ะ?”
ลู่โจวพูดขึ้นพร้อมกับสีหน้าสุดจริงจัง
“ที่ผมมาวันนี้…ก็เพื่อจะมาคุยกับคุณเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นนี่แหละ”
“มีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างนั้นเหรอ?” อาจารย์ใหญ่สวี่วางกระติกน้ำลงพร้อมเผยท่าทีสนใจ “บอกมาสิ ฉันรอฟังอยู่ ถึงแม้ว่าบางปัญหาอาจจะช่วยนายแก้ไม่ได้ แต่ฉันเองก็จะส่งมอบปัญหาของนายให้กับนักวิชาการของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศได้รับรู้ พวกเขาต้องช่วยได้แน่”
“แผนการควบคุมเครื่อง STELLARATOR น่ะครับ” ลู่โจวกล่าว
“แผนการควบคุมเครื่อง STELLARATOR ?” ทันทีที่ได้ยินปัญหาของลู่โจว อาจารย์ใหญ่สวี่ก็พลันขมวดคิ้ว “อ่า… ฉันเองก็ไม่รู้เรื่องนี้มากหรอกนะ นายช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้ไหมล่ะ?”
ลู่โจวพยักหน้าและเริ่มอธิบายรายละเอียดที่เจาะจงมากกว่านี้เพิ่มเติมให้แก่อาจารย์ใหญ่สวี่ฟัง
สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องโทคาแมคหรือเครื่อง STAR สุดท้ายแล้ว พลาสมาความหนาแน่นสูงที่อยู่ภายในนั้นก็ยังคงไม่เสถียรมากนักอยู่ดี อีกทั้ง ยังเกิดการไหลทะลักของพลาสมาอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
หากสนามแม่เหล็กที่ติดอยู่กับพลาสมาเป็นเหมือนมือที่มองไม่เห็น คอมพิวเตอร์ที่ควบคุมขดลวดสนามไฟฟ้าด้านนอกก็ไม่ต่างอะไรกับสมอง ทว่าสมองอย่างเดียวคงไม่พอ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในพลาสมาเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้เลยที่คนเราจะควบคุมอะไรแบบนี้ได้ ต้องเป็นโปรแกรมเท่านั้นที่ทำได้
สำหรับเรื่องนี้ สถาบันมักซ์พลังค์เองก็เป็นหนึ่งในสถาบันที่มีอำนาจไม่น้อย
ตามรูปแบบการควบคุมที่กำหนดโดยแบบจำลองการไหลทะลักของพลาสมาจากลู่โจว ช่วงเวลาในการทำงานของอุปกรณ์เวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์ได้เพิ่มขึ้นเป็นสามสิบนาที ซึ่งเรื่องนี้ทำให้โลกแห่งอุตสาหกรรมตกใจไม่น้อย
ในปัจจุบันแบบจำลองการไหลทะลักของพลาสมาพร้อมแล้ว เวนเดลสไตน์เซเว่นเอ็กซ์นั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งนี้เป็นไปได้ และในตอนนี้สิ่งที่ลู่โจวกำลังจะทำก็คือการเตรียมแผนการควบคุมที่น่าเชื่อถือไว้สำหรับเครื่อง STAR…
ทั้งนี้สถาบันการศึกษาขั้นสูงไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ความพยายามในการเขียนโปรแกรมคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของการพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร สำหรับโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่อย่างเช่นดาวเทียม
ด้วยเหตุนี้ ลู่โจวจึงจ้องมองไปยังอาจารย์ใหญ่สวี่
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสาขาวิชาที่โหดที่สุดในมหาวิทยาลัยจินหลิงรองจากฟิสิกส์ ซอฟต์แวร์ของสถาบันจินหลิงจึงได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่หนึ่งในประเทศจีน นอกจากนี้อาจารย์ใหญ่สวี่เองก็ยังเป็นนักวิชาการของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศอีกด้วย ซึ่งเป็นการดีที่จะขอความช่วยเหลือจากเขา
เมื่อได้ยินคำกล่าวของลู่โจว อาจารย์ใหญ่สวี่ก็คิดอยู่สักพักและกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่อยู่นะ”
“ก็ใช่ ผมก็คิดเหมือนกัน”
กล่าวคือส่วนหนึ่งของเครื่อง STAR ไม่ได้ขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่ยังต้องแก้ไขปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ด้วย
งานเหล่านี้เป็นอะไรที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะทำให้สำเร็จ หนึ่งในนั้นคือการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์
อาจารย์ใหญ่สวี่พลันถอนหายใจ “อ่า งั้นรอจนถึงพรุ่งนี้ก่อน ฉันจะโทรหาศาสตราจารย์จากสถาบันซอฟต์แวร์ให้เพื่อเปิดการประชุมและจัดตั้งคณะทำงาน เราจะช่วยนายแก้ปัญหาซอฟต์แวร์แล้วก็ฮาร์ดแวร์…เอ่อ แล้วก็การควบคุมโปรแกรมด้วย แต่ฉันต้องถามก่อนว่านายเตรียมงบประมาณไว้เท่าไหร่?”
ลู่โจวครุ่นคิดพร้อมบอกตัวเลขออกไป “หนึ่งพันล้านครับ”
อาจารย์ใหญ่สวี่พูดอะไรไม่ออก…
“ไม่พอหรือยังไงเหรอครับ?” ลู่โจวลังเล
หนึ่งพันล้านจะพอไหม?
อาจารย์ใหญ่สวี่พลันกระแอมออกมา “ไม่ใช่แบบนั้น แค่นั้นก็พอแล้ว ฉันแค่ตกใจนิดหน่อย”
แท้จริงแล้ว สิ่งที่เขาต้องการจะพูดคือลู่โจวเองมีเงินมากพอที่จะควบคุมนิวเคลียร์ฟิวชันเองเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดออกมา
อาจารย์ใหญ่สวี่จะสามารถดูแลทั้งสถาบันได้เป็นอย่างดีด้วยเงินทุนกว่าหลายร้อยล้านดอลลาร์นี้
ไม่น่าแปลกใจที่โจวเฉิงฟู่จะรู้สึกอิจฉาลู่โจว
“สถาบันซอฟต์แวร์ของเราสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องแผนการคำนวณแล้วก็การควบคุมขั้นสูง นอกจากนี้แล้วยังมีอะไรอีกไหม?”
โจวเองต้องการจะตอบว่าไม่ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็พลันนึกถึงเรื่องที่หยางสวี่พูดขึ้นมาได้ มันเกี่ยวกับการประชุมกีฬา
“อ่า มีอีกอย่างหนึ่งครับ”
“อะไรล่ะ?”
“นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่หรอก แต่ว่า… สถาบันของเราจะเปิดการประชุมกีฬาใช่ไหมครับ? แต่โรงยิมที่พังไปยังไม่ได้ซ่อมเลยนะ” ลู่โจวกล่าว “ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ผมเองก็จะขอใช้สถานที่จัดงานหน่อย”
ทันทีที่ได้ยินคำขอจากลู่โจว อาจารย์ใหญ่สวี่ก็เผยยิ้ม
“แค่นี้เอง? ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะกลับไปที่สำนักงานก่อน อีกอย่าง คณบดีหลิวเองก็มาคุยกับฉันแล้วเรื่องเกมกีฬา รวมไปถึงเวลาแล้วก็การทำงานร่วมกันด้วย”
ลู่โจวตอบกลับ “ดีเลยครับ”
สถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงและมหาวิทยาลัยจินหลิงก็เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน มันไม่ใช่แค่การทำงานร่วมกันในหัวข้อวิจัยเท่านั้น เนื่องจากนักวิจัยหลายคนแห่งสถาบันการศึกษาขั้นสูงที่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์มักคอยช่วยเหลือกันตลอด
สำหรับชุมนุมกีฬา มันจะช่วยทำให้ผู้คนรู้สึกเบื่อน้อยลง เพราะว่าธรรมชาติของมนุษย์คือการละเล่น
เมื่อเห็นว่าลู่โจวไม่มีปัญหา อาจารย์ใหญ่สวี่ก็พลันเผยยิ้มและตบต้นขาอย่างรวดเร็ว “ยังไงก็เถอะ ถ้าทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เรามีของขวัญให้นายด้วยนะ”
ลู่โจวพลันขมวดคิ้ว
ความรู้สึกนี้…
ดูเหมือนว่าจะมีข้อตกลงสุดประหลาดปะปนอยู่
แต่ลืมมันไปก่อนเถอะ ลู่โจวเองไม่ได้เป็นคนที่บ้าของขวัญขนาดนั้น
…………………………………………………