Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 508 ลักษณะของชิปที่ใช้คาร์บอน
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 508 ลักษณะของชิปที่ใช้คาร์บอน
สำหรับเรื่องของขดลวด SG-1 ผู้จัดการซุนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะจับมือกับสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงแบบไม่ยอมปล่อย
สำหรับลู่โจว เขาเองก็ยินดีที่จะให้ทั้งคำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้จัดการซุนรวมถึงคนอื่น
ในการก้าวเข้าสู่ตลาดรายใหญ่ มันจะสามารถช่วยบริษัทจีนในการสร้างจุดแข็งหลักในตลาดโลกได้
จากมุมมองที่ใช้งานได้จริง มันเป็นเหมือนผลกำไรสำหรับเขาด้วยซ้ำ
สำหรับขดลวด SG-1 แต่ละเซนติเมตรก็จะมีราคาตามสิทธิบัตร
แม้ว่ารายได้ในส่วนนี้จะไม่มากมายเท่ากับแบตเตอรี่ลิเธียม แต่มันก็ค่อนข้างเยอะ
หลังจากครุ่นคิดสักพัก ลู่โจวก็พูดขึ้น “ผมเองก็ไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของบริษัทคุณมากนักหรอกนะ แต่ตอนนี้คุณก็ได้สร้างจุดแข็งในการผลิตวัสดุที่ทำจากคาร์บอนไปแล้ว ทำไมไม่หาทางขยายกำไรดูล่ะครับ?”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้จัดการซุนก็เผยท่าทีที่แปลกไป
“คำแนะนำงั้นเหรอ?”
“ผมเองก็พูดอะไรมากไม่ได้หรอกนะ” ลู่โจวเผยยิ้มและพูดต่อ “เพิ่งได้ยินว่ามีทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้ทำการสังเคราะห์นาโนริ้บบอนกราฟีนที่มีความกว้างห้าสิบนาโนเมตรจนสำเร็จผ่านวิธีการที่น่าสนใจ งานวิจัยชิ้นนี้เองก็ได้รับความสนใจจากหน่วยงาน IBM และถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในการผลิตชิปที่ใช้คาร์บอนรุ่นต่อไป”
อย่างที่เราทราบกันดีว่าความยาวเจ็ดนาโนเมตรนั้นเป็นขีดจำกัดทางกายภาพของทรานซิสเตอร์ที่ใช้ซิลิกอน
หากทรานซิสเตอร์มีขนาดสั้นกว่าเจ็ดนาโนเมตร อิเล็กตรอนก็จะถูกจำกัดโดยอิทธิพลของความไม่แน่นอนทางควอนตัม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดผลกระทบจากอุโมงค์ควอนตัมได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทรานซิสเตอร์ที่ใช้ซิลิกอนจะมีความน่าเชื่อถือน้อยลง อีกทั้ง การยกระดับชิปเองก็จะต้องเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้น
เพื่อที่จะเผชิญกับความท้าทายนี้ การค้นหาวัสดุใหม่เพื่อทดแทนวัสดุซิลิกอนแบบดั้งเดิมและการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดเล็กลงและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นนั้นถือเป็นความเห็นร่วมกันระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรมและสถาบัน
อ้างอิงจากผลการวิจัย วัสดุทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นท่อนาโนคาร์บอน โมลิบดีนัมไดซัลไฟด์ ฟอสฟอรัสดำ กราฟีนและทังสเตนดิสไลไนด์ ทั้งหมดนี้ได้รับการคัดเลือกแล้ว
เนื่องจากกำลังศึกษาวัสดุนาโนคาร์บอนอยู่ ลู่โจวจึงมุ่งเน้นไปที่กราฟีน
แท้จริงแล้ว มันคือความจริง กราฟีนนั้นมีศักยภาพในการนำไปใช้เป็นวัสดุเซมิคอนดักเตอร์กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
อย่างเช่น ชิป…
ลู่โจวเองก็เคยบอกกับผู้จัดการซุนว่าเขาปวดหัวไม่น้อยกับเรื่องนี้
แม้ว่าลู่โจวจะมีความรู้ในเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังเป็นกังวลอยู่
“งั้นเราควรไปลงทุนกับชิปใช่ไหม?”
ลู่โจวพลันหัวเราะออกมาและมองไปยังสีหน้าที่ลำบากใจของผู้จัดการซุน
“คุณไม่ได้อยู่ในองค์กรอิเล็กทรอนิกส์สักหน่อย การพัฒนาชิปเป็นเรื่องที่ยากอยู่แล้ว ผมเองก็กำลังคิดอยู่ว่าเราจะสร้างชิปที่มีความกว้างสองหรือสามพันนาโนเมตรเสร็จตอนไหน แล้วสำหรับการผลิตวัสดุกราฟีน ทำไมไม่ลองใช้นาโนริ้บบอนดูล่ะที่มีหน่วยความกว้างเป็นนาโนเมตรดูล่ะ? มันอาจจะเป็นเทคโนโลยีที่จัดการยากหน่อย แต่ผมคิดว่าเราทำได้นะ”
ลู่โจวเองทำเพียงแค่พูดอ้อม
ในช่วงที่ลู่โจวได้คุยกับศาสตราจารย์บาวานดิ เขาก็ได้วางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้ว
แน่นอน การวิจัยในปัจจุบันจะต้องเปลี่ยนเป็นนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเขาจะสนใจเทคโนโลยีของชิปที่ทำจากคาร์บอน แต่นักวิชาการในสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงเองก็ไม่ได้มีความสามารถด้านนี้ขนาดนั้น
ลู่โจวเองก็ยังคงรอจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุม จากนั้น เขาจะได้พิจารณาถึงปัญหานี้
เขาเชื่อว่าปัญหาหลายอย่างในตอนนี้กลับไม่ใช่ปัญหา
ผู้จัดการซุนพลันส่ายหัวและทำอะไรไม่ถูก
ความกว้างหลายนาโนเมตรของนาโนริ้บบอนกราฟีน…
ใครก็พูดได้
แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินอยู่ดี…
…
การประชุมแลกเปลี่ยนนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมได้ดำเนินไปเป็นเวลาห้าวัน
สำหรับลู่โจวแล้ว ระยะเวลาห้าวันนี้ทำให้เขาได้รู้อะไรต่อมิอะไรเยอะมาก
นอกเหนือจากการบรรยายที่น่าสนใจแล้ว ยังมีเทคโนโลยีขั้นสูงที่จัดแสดงโดยสถาบันวิจัยชั้นนำ ซึ่งช่วยเพิ่มขอบเขตความรู้อันไกลโพ้นของเขาขึ้นไปอีก
เขารวบรวมอุปกรณ์ได้อย่างน้อยสี่สิบล้านเหรียญ รวมทั้งอุปกรณ์ FRC ของบริษัทไตรอัลฟ่าด้วย
แม้ว่าฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ FRC จะเร็วกว่าและเสถียรกว่าอุปกรณ์ทำความร้อนด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ใช่เทคโนโลยีหลัก อีกทั้งยังมีประโยชน์ไม่มากเท่าไหร่
นอกจากอุปกรณ์ FRC แล้ว ส่วนประกอบหลักของเอกสารวิจัยก็คืออะตอมโพรบฮีเลียมสาม
เมื่อพูดถึงอะตอมโพรบฮีเลียมสามแล้ว เราก็ต้องถึงศาสตราจารย์เลเซอร์สันด้วย
อดีตวิศวกรห้องปฏิบัติการ ซึ่งตอนนี้เขาได้เข้าสู่วงการช่างเทคนิคและอยู่ในแวดวงของสาขาฟิสิกส์พลาสมา
ด้วยเครือข่ายของผู้คนในโลกวิชาการ มันจะดีกว่าหากทุกคนรู้ว่าตัวเองต้องการอุปกรณ์การทดลองประเภทใด
ทั้งนี้ มันก็ยัง มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะสร้างเทคโนโลยีอะตอมโพรบฮีเลียมสามให้ทรงพลังและใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงมื้อค่ำของคืนปิดการประชุม ลู่โจวได้ได้เรียนรู้ว่าธุรกิจของเขานั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากเพื่อนเก่า ไม่เพียงแต่มีสถาบันวิจัยพลาสมากว่ายี่สิบแห่งเท่านั้น แต่เขายังกลายเป็นหนึ่งในผู้จัดหาของโครงการ ITER อีกด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น เทคโนโลยีอะตอมโพรบฮีเลียมสามเองก็ยังได้รับการอัพเกรดภายใต้การปรับปรุงและความแม่นยำในการสังเคราะห์พลาสมาความหนาแน่นสูงอย่างมีนัยสำคัญ
กล่าวคือ ทันทีที่อะตอมโพรบฮีเลียมสามสร้างเสร็จสมบูรณ์ ลู่โจวเองก็ดูเหมือนจะลงทุนไปหลายล้านดอลลาร์แล้ว
ถ้าเป็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่าลู่โจวเองก็จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท
“ฉันพนันได้เลยว่านี่คือหนึ่งในการลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตของนาย” ศาสตราจารย์เลเซอร์สันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เงินทุนของนายมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งร้อยล้านแล้ว แนวโน้มของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันแบบควบคุมนั้นก็ได้รับความสนใจไม่น้อย อีกทั้ง ฉันยังวางแผนเอาไว้ว่าจะเผยแพร่สู่สาธารณะ นายรอรับเงินได้เลย”
ลู่โจวตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “งั้นก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันครับ”
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันมองไปยังลู่โจวด้วยความประหลาดใจ “นายไม่คิดจะตื่นเต้นหน่อยหรือยังไง?”
ลู่โจวตอบกลับด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก “เงินของคุณที่เก็บมาทั้งชีวิตถูกใช้ไป… ถึงแม้จะมีคนมาบอกว่าคุณจะได้เงินกลับคืนมาอีกหลายร้อยล้าน คุณก็จะทำตัวไม่ถูก ยังไงก็เถอะ ผมเองก็ยังมีเงินอยู่ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจว่าทำไม”
แม้ว่าเมื่อเทียบกับมหาเศรษฐีในรายชื่อของนิตยสารฟอร์จูนแล้ว ทรัพย์สินหลายร้อยล้านดอลลาร์ของลู่โจวอาจไม่ได้รับการจัดอันดับ แต่เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ของเขานั้นเป็นเงินสด ซึ่งมันมีความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง…
นอกจากนี้ การใช้เงินของลู่โจวเองก็ไม่สูงมากนัก แม้ว่าการก่อตั้งสถาบันการศึกษาขั้นสูงจินหลิงจะต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ยังได้เงินและค่าสิทธิบัตรมากมายคืนกลับไป
ศาสตราจารย์เลเซอร์สันมองไปยังลู่โจวอยู่ชั่วครู่
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พลันส่ายหัว
“ก็ไม่รู้เหมือนกันสินะ”
…
หลังจากรับประทานมื้อค่ำในที่ประชุมเสร็จแล้ว ผู้คนทั้งหลายก็พากันแยกตัวเข้าไปพักในโรงแรมและเก็บกระเป๋า
พรุ่งนี้ลู่โจวจะต้องขึ้นเครื่องบินกลับจีน เขาจึงต้องเตรียมการก่อนเพื่อเผื่อเวลาเอาไว้
ณ ทางเดินของโรงแรม ลู่โจวก็ได้พบกับเฟยจิงและเตียนซือหลี่
“เครื่องออกแปดโมงเช้าของวันพรุ่งนี้นะ พวกนายต้องนั่งเครื่องบินไปกับศาสตราจารย์หลี่ อย่ามาสายล่ะ”
“ได้เลยครับ แล้วศาสตราจารย์ลู่ไม่กลับกับพวกเราเหรอ?”
ลู่โจวพลันเผยยิ้มและส่ายหัว
“ฉันยังมีบางอย่างที่ต้องจัดการน่ะ พวกนายกลับไปกันก่อนเลย”
………………………………………………