Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 512 บอกลาพรินซ์ตัน
ผ่านมาสองวันแล้วตั้งแต่ตอนที่วิจัยต้นฉบับถูกบริจาคให้กับห้องสมุดฟายสโตน
หลังจากติดต่อกับบริษัททำความสะอาดในพื้นที่แล้ว บ้านพักของลู่โจวก็สะอาดตั้งแต่หลังคาจรดพื้น
จากนั้น ในวันที่สาม เขาได้ส่งคำเชิญไปยังที่ปรึกษา เหล่าเพื่อนและศาสตราจารย์คุ้นเคยของสถาบันพรินซ์ตันเพื่อจัดปาร์ตี้ที่สนามหญ้าหน้าบ้านของตน
หนึ่งคือบอกลาพรินซ์ตัน
สองคือเพื่อแสดงความยินดีให้กับนักเรียนหลายคนที่สำเร็จการศึกษา
นอกเหนือจากศาสตราจารย์เดอลีงย์ คณบดีปีเตอร์ ศาสตราจารย์เฟฟเฟอร์แมนและศาสตราจารย์วิตเตน เกือบครึ่งหนึ่งของนักวิจัยด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ของพรินซ์ตันก็ต้องมาอยู่ในงานปาร์ตี้นี้เช่นกัน
เนื่องจากความโด่งดังของลู่โจว ทุกคนก็อยากที่จะมาร่วมงานด้วย
ด้วยเหตุนี้ หลายต่อหลายคนก็พลันตกใจทันทีที่รู้ว่าเขาจะจากไปแล้ว
“จำได้ว่าเมื่อนานมากแล้ว ฉันได้ยินว่าฟาลติ้งบอกว่าจะกลับไปที่เยอรมนี ตอนนั้นฉันหัวเราะจนแทบจะนอนไม่ได้ แต่พอได้ยินว่านายจะไปแล้ว มันกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ” ศาสตราจารย์ซาร์นักกล่าวกับลู่โจวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ
ในฐานะอดีตหัวหน้าบรรณาธิการของหนังสือคณิตศาสตร์ประจำปีและยักษ์ใหญ่ในสาขาทฤษฎีจำนวน เขาเป็นคนที่คอยช่วยลู่โจวพิสูจน์งานวิจัยตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่อเทียบกับฟาลติ้ง ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของเขาแล้ว ศาสตราจารย์ซาร์นักก็รู้สึกเสียใจในประเด็นของลู่โจวมากกว่า
แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขาฟาลติ้งจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะไม่เคยผิดใจกันเลย
แม้ว่าจะไม่มีโอกาสพิสูจน์ความจริงด้วยตนเอง แต่ลู่โจวเองก็ยังคงเชื่อมั่นว่าตนนั้นเป็นที่ชื่นชอบในโลกของคณิตศาสตร์ ลู่โจวเป็นเหมือนหมากที่ต้องทำการรุกอยู่ตลอดเวลา แต่ทว่า นั่นก็อาจจะไม่ใช่เหตุผล
“จะกลับไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ”
ต่างจากคนอื่น ศาสตราจารย์เดอลีงย์ไม่ได้พูดอะไรเพื่อให้ลู่โจวอยู่ต่อเลย “งั้นจดหมายที่มิสเตอร์ก็อตเทนดิ๊กยังอยู่ใช่ไหม?”
“แน่นอนครับ”
ศาสตราจารย์เดอลีงย์พยักหน้า “อย่าทำหายเสียล่ะ แต่ถ้าไม่ต้องการแล้ว ก็ส่งกลับมาได้นะ”
ลู่โจวพลันกระแอม “ผมจะเสียมันไปได้ยังไงกันล่ะ?”
ทั้งนี้ แม้ว่าการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์จะมีหลายแขนง แต่เรขาคณิตเชิงพีชคณิตก็เป็นสาขาที่สำคัญที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ทำวิจัยอะไรเกี่ยวกับมันก็เถอะ
ถ้าหากเขาต้องการใช้มัน เขาก็จะลองตัดสินใจไปฝรั่งเศสดู
แต่มันไม่ใช่ตอนนี้
ศาสตราจารย์เดอลีงย์มองไปยังลู่โจวอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวคำพูดออกมา “ผมพาเพื่อนนักเรียนมาด้วยเยอะเลยล่ะ เก่ง ๆ มีฝีมือทั้งนั้นเลย บางทีผมก็อยากให้คุณแสดงความรู้ด้านคณิตศาสตร์ให้ดูบ่อย ๆ บ้าง บางอย่างผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเลย”
“ยังไงก็เถอะ อย่าปล่อยให้ความสามารถของตัวเองเสียเปล่าล่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิจัยแบบไหน หรืองานแบบไหน ผมก็หวังว่าคุณจะทำมันให้ดีที่สุด” ลู่โจวกล่าวพร้อมพยักหน้า
“แน่นอน”
…
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
ช่วงใกล้ค่ำ งานเลี้ยงอำลาก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
ในสองวันข้างหน้า เหล่านักเรียนของลู่โจวเองก็จะได้รับวุฒิบัตรและประกาศนียบัตรปริญญาแล้ว ลู่โจวจึงใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์ก่อนที่จะกลับไปจีน
แท้จริงแล้ว เขาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เหล่านักเรียนของเขาเองต่างหากที่ฉลาดเป็นกรด
อย่างที่ลู่โจวเคยบอกไป ไม่ว่าจะเป็นสถาบันวิจัยคณิตศาสตร์แห่งใดหรือมหาวิทยาลัยที่ไหน เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะโดนปฏิเสธ
ท้ายที่สุดแล้ว ภายใต้คำแนะนำของลู่โจว เหว่ยเหวินก็ตัดสินใจที่จะอ่านหนังสือที่ได้มาจากศาสตราจารย์เอ็ดเวิร์ดอย่างจริงจัง แม้ว่าชื่อเสียงของอาจารย์เอ็ดเวิร์ดจะทำให้เหว่ยเหวินรู้สึกกดดันก็เถอะ
และสำหรับเจริก เขาเองก็ไม่ได้จะอยู่ที่สถาบันต่อ วัสดุศาสตร์ไม่ใช่ศาสตร์เฉพาะทางของสถาบันพรินซ์ตัน อีกทั้ง เขายังต้องการศึกษาวิทยาศาสตร์วัสดุเชิงคำนวณให้มากขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ภายใต้คำแนะนำของลู่โจว เขาจึงเลือกที่จะไปเรียนปริญญาเอกต่อที่มหาวิทยาลัยเอ็มไอที
และสำหรับนักเรียนอีกสามคน พวกเขาเลือกที่จะอยู่ต่อ
พอรู้เช่นนี้แล้ว ลู่โจวก็จะได้กลับบ้านไปอย่างมีความสุขและสบายใจ
ลู่โจวใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในการเก็บของ เขาเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกระเป๋าเดินทาง จากนั้น ก็เดินไปนั่งขึ้นรถฟอร์ดที่จอดอยู่หน้าประตู
ในตอนนั้นเอง คนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับก็คือฉินเยว่
โดยปกติแล้ว ลู่โจวจะมีปัญหากับเจริกทุกครั้งที่นั่งรถตลอดเวลา
ในตอนนี้ ฉินเยว่จึงเป็นคนอาสาที่จะไปส่งลู่โจว
ฉินเยว่จะขับรถฟอร์ดไปส่งลู่โจวที่สนามบิน
หลังจากลงจากรถแล้ว ลู่โจวก็เดินไปที่ด้านหลังและหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาจากท้ายรถ
หลังจากหยิบกระเป๋าเดินทางออกมาแล้ว ลู่โจวก็พยักหน้าให้กับฉินเยว่
“ขอบใจมาก”
“ยินดีเสมอครับ” ฉินเยว่ตอบกลับ
ลู่โจวเผยยิ้มและโบกมือลา
ในตอนนั้นเอง ลู่โจวก็ตระหนักได้ถึงอย่างบาง เขาพลันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและดึงกุญแจออกมาหนึ่งพวง
“ใช่แล้ว เกือบลืมไปเลย”
ทันทีที่มองไปยังลูกกุญแจในมือของลู่โจว ฉินเยว่ก็พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย
“นี่คือ?”
“กุญแจบ้านของฉันเองแหละ” ลู่โจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันเองก็คงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกสักพัก เลยอยากจะให้นายเอาไว้ ลองย้ายมาอยู่แทนอพาร์ทเมนต์นักเรียนก็ได้นะ ทำตัวตามสบายเลย”
ฉินเยว่จ้องมองพวงกุญแจในมือและกล่าวคำพูดออกมา “งั้นขอหมายเลขบัตรธนาคารของคุณด้วยได้ไหม?”
“ทำไมล่ะ?”
ฉินเยว่กล่าวอย่างจริงจัง “ผมจะได้โอนค่าเช่าให้”
“ไม่ต้องเลย” ลู่โจวส่ายหัวพร้อมเผยยิ้ม “ฉันไม่สนใจเรื่องเงินหรอก แค่ช่วยทำความสะอาดหน่อยก็พอ แล้วก็อีกอย่างอย่าไปจับตรงเตาไฟล่ะ มันเสียอยู่ หวังว่ากลับมาครั้งหน้า สภาพบ้านยังคงเหมือนเดิมนะ”
ฉินเยว่พยักหน้า
“เข้าใจแล้วครับ”
ทั้งสองก็บอกลากันเป็นที่เรียบร้อย
ลู่โจวพลันโบกมือทันทีที่เห็นรถฟอร์ดขับหายไป ไม่ช้า ลู่โจวก็เดินเข้าไปยังสนามบิน
แต่ทว่า ทันใดนั้นเอง ลู่โจวก็พลันได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“ลู่โจว”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลู่โจวก็หยุดเดิน
เขาหันหลังกลับและเห็นบุคคลที่ไม่คาดคิดยืนอยู่ตรงหน้า
เวร่าพลันหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพราะว่าเธอรีบวิ่งมาลู่โจว เธอยืนหอบอยู่ตรงหน้าลู่โจวพลันเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
ลู่โจวไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่ ไม่ช้า เขาก็พูดขึ้น “เธอมาได้ยังไงกัน?”
“ฉันนั่งรถไฟมา”
ระหว่างยืนหอบ เธอก็ได้อธิบายให้ลู่โจวฟัง
“ไม่ต้องมาส่งฉันจนถึงสนามบินก็ได้”
“ฉันไม่ได้มาส่ง แต่แค่ลืมบอกอะไรไปอย่าง มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”
ลู่โจวพลันถอนหายใจและมองไปยังเวร่าที่กำลังเหนื่อยหอบ
“แล้วบอกทางโทรศัพท์หรืออีเมลไม่ได้หรือยังไงกัน?”
ลู่โจวพลันคิดว่าเวร่าเป็นคนที่ค่อนข้างดื้อรั้นมาโดยตลอด
“มันไม่ใช่แบบนั้น!”
เวร่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าลู่โจวพลันหายใจเข้าเฮือกใหญ่
เธอต้องการจะบอกบางอย่างกับลู่โจว
เธอคิดว่าบางที่ก็ควรจะแต่งตัวให้ดูดีกว่านี้ หรือไม่ก็แต่งหน้าให้มากกว่านี้หน่อย…
แต่ทว่า มันไม่มีเวลาที่จะมาลังเลแล้ว
หลังจากที่เธอลังเลอยู่นาน…
ริมฝีปากของเธอก็อ้าขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉัน…”
“ฉัน?” ลู่โจวพูดตาม
ถ้าเธอยังคงลังเลอยู่ ก็คงจะไม่เหลือโอกาสอีกแล้ว…
ท้ายที่สุดแล้ว เวร่าก็รวบรวมความกล้าและหลับตาลงพร้อมกับหายใจเข้าเฮือกใหญ่อีกครั้ง
ในไม่ช้า เธอก็ตะโกนเสียงดังออกมา
“ฉันชอบคุณ!”
………………………………………………