Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 539 การล่าถอย
ประเทศฝรั่งเศส เมืองเซนต์เปาลีดูแรนต์ ทั่วทั้งท้องฟ้ามีแต่ละอองฝน
เมืองที่อยู่ทางตอนใต้แห่งนี้ ที่ซึ่งมักจะไม่ค่อยถูกรบกวนจากโลกภายนอกกำลังถูกสายตาจากทั่วทุกมุมโลกจ้องมองอยู่
อีกไม่นาน การประชุมของสภา ITER ก็จะถูกจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่
ในการประชุมครั้งนี้ ทางสหรัฐฯจะตั้งคำถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าทางฝั่งจีนจะปฏิบัติตามข้อตกลงแบ่งปันเทคโนโลยีหรือไม่
หากการประชุมยังไม่บรรลุผลที่น่าพอใจ ทางสภา ITER ก็จะลงคะแนนเสียงในที่ประชุมและตัดสินใจให้ประเทศจีนอยู่ต่อ
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนี้ ผู้คนที่อยู่ในโลกภายนอกก็มักจะคาดเดาสถานการณ์ในประเด็นนี้เอาเองแทนฝั่งจีน
ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการคาดเดาแบบใด ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้รับความเห็นชอบในประเด็นนี้
ในปัจจุบัน สภาพอากาศที่มีแต่ฝนตกเช่นนี้เหมือนจะเป็นการคาดเดาการประชุมในครั้งนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบ เหมือนมันจะถูกลิขิตไว้แล้วว่าตอนจบจะไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง
ผู้แทนจากจีน ฮูจั่นหยวนกำลังนั่งอยู่ในที่ประชุม เขาได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงการต่างประเทศให้รับผิดชอบในการประชุมครั้งนี้
เวลาเก้าโมงครึ่งในช่วงเช้า
ยังเหลือเวลาอีกสามสิบนาทีก่อนเริ่มการประชุม
ทั้งนี้ อดัม โคเฮน ตัวแทนของสหรัฐอเมริกาเองก็กำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตัวแทนของสหภาพยุโรปอยู่ไม่ไกลนัก เขาพลันมองไปทั่วห้องประชุมเป็นครั้งคราว
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการบรรลุฉันทามตินอกที่ประชุม
เขาเผยยิ้มให้กับทุกคนที่มอง แต่ทว่า ในใจนั้นกลับเงียบสนิท
จนในปัจจุบัน…
เขาเองก็ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ผู้อำนวยการขององค์กร ITER ก็ได้ประกาศเริ่มการประชุม
นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าทางฝั่งจีนได้ปฏิบัติตามข้อตกลง ITER หรือไม่ ก็จะมีการหารือเกี่ยวกับกฎเฉพาะในการเปลี่ยนแปลงแนวทางเชิงเทคนิคของอุปกรณ์ฟิวชั่นแบบควบคุมขนาดยักษ์อีกด้วย
นั่นคือเรื่องของส่วนประกอบต่างๆ ที่ในหลายประเทศได้สร้างขึ้นรวมถึงการติดตั้งเครื่องโทคาแมกขนาดยักษ์
ในเวลาเดียวกันกับที่ประธานกรรมการอ่านวาระการประชุม อดัม โคเฮน ผู้แทนของสหรัฐอเมริกาก็พลันพูดขึ้นมาทันใด
“เราจะขอย้ำจุดยืนของเราที่นี่อีกครั้ง โครงการนี้มีไว้สำหรับแบ่งปันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุม”
“เราเชื่อว่าในระหว่างการยอมรับเทคโนโลยีขององค์กร ITER ทางฝ่ายจีนก็ยังไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างประเทศขององค์กร”
“เราได้โต้เถียงกันเกี่ยวกับปัญหานี้มานานพอสมควรแล้ว วันนี้อาจเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ หากพวกคุณยังคงปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อสัญญานี้ เราจะยื่นคำร้องต่อสภาเพื่อถอนประเทศจีนออกจากองค์กร ITER และการเริ่มต้นการลงคะแนนเสียงของฝั่งตุลาการ…”
ทันทีที่โคเฮนกำลังจะพูดนั้น ทั้งห้องประชุมก็เต็มไปด้วยความโกลาหล
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคาดเดาเรื่องนี้ได้ แต่ผู้เข้าร่วมที่มาที่นี่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าตัวแทนของสหรัฐฯจะแสดงการคุกคามที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ตั้งแต่เริ่มการประชุม
ถ้าไม่การยอมรับ ก็จะมีการโหวตให้ออก
ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่เหลือช่องว่างการเจรจาสำหรับผู้แทนทางฝั่งจีนเลย
ผู้อำนวยการที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประชุมก็กำลังจดจ่ออย่างครุ่นคิดและกล่าวคำพูดออกมา
“ดูเหมือนว่าการอนุมานครั้งก่อนของฉันจะผิด”
ทันใดนั้น ตัวแทนจากญี่ปุ่นก็พลันถามขึ้น “ยังไงกัน?”
“ฉันคิดมาเสมอว่าทางสหรัฐฯคงหวังที่จะกดดันทางฝั่งจีนผ่านปัญหาของทรัพย์สินทางปัญญา และบังคับให้พวกเขาเปิดเผยชุดเทคโนโลยีที่เป็นความลับอย่างเช่น แม่เหล็กตัวนำยิ่งยวด แผนการควบคุมพลาสมาและอื่นๆ แต่ทว่า ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขาแค่ต้องการให้ทางฝั่งจีนถอนตัวออกไป”
อิชิดะพลันขมวดคิ้ว “แล้วมันดีกับคนอเมริกันยังไง?”
นากาจิมะพลันกล่าวคำพูดออกมาอย่างจริงจัง “อิชิดะคุง สิ่งที่เรียกว่าผลประโยชน์นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่คุณต้องได้รับก็ได้นะ”
“ใช่ไหมล่ะ?”
เทียนชิงพลันแสดงสีหน้าอย่างครุ่นคิด
ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติในเรื่องนี้…
แต่มันจะเป็นเช่นนั้นหรือ? เพียงแค่เขี่ยจีนออกไปก็จะทำให้พวกเขาพัฒนาการศึกษาเรื่องนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมได้อย่างรวดเร็วเลยหรือยังไงกัน?
เขามักจะรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น…
ท้ายที่สุดแล้ว เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องของหัวหน้านักออกแบบของโครงการดวงดาวจำลองของสถาบันฮัววากี บุคคลนั้นถือเป็นคนที่สร้างปาฏิหาริย์มาแล้วนับไม่ถ้วน…
ผู้อำนวยการที่กำลังนั่งฟังอยู่พลันกอดอกและมองไปยังท่าทีที่ก้าวร้าวของอดัม โคเฮน
เมื่อผู้จัดการการประชุม ITER ส่งสัญญาณว่าสามารถเริ่มพูดได้ เขาก็เอื้อมมือออกไปเพื่อหยิบไมโครโฟนตรงหน้า
ถึงอย่างไร ในตอนนี้ อุปกรณ์ที่อยู่ในกระเป๋าพลันทำให้ฮูจั่นหยวนรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
ผู้อำนวยการขมวดคิ้วเล็กน้อยทันทีที่รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากในกระเป๋า จากนั้น ฮูจั่นหยวนก็พลันเอื้อมมือออกไปและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็พลันรับสายใครคนหนึ่ง
“ว่าไง?”
ผู้อำนวยการขมวดคิ้วอีกครั้งในระหว่างนั้น
ฮูจั่นหยวนพลันหายใจเข้าเฮือกใหญ่
“อ่า เข้าใจแล้ว”
ตัวแทนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พลันชำเลืองมอง
แม้ว่าจะเป็นการพูดคุยแค่คำสองคำ แต่โคเฮนก็พลันรู้สึกว่าประโยคหลังที่ได้ยินนั้นแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
จากนั้น ฮูจั่นหยวนก็วางสายลง โคเฮนจึงกล่าวคำพูดขึ้น
“คุณมีอะไรจะพูดหรือเปล่า?”
ฮูจั่นหยวนพลันเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าและมองไปยังโคเฮนด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า
เมื่อเขาเห็นท่าทีของโคเฮน ฮูจั่นหยวนก็ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้
โคเฮนพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยทันทีที่มองไปยังตัวแทนทางฝั่งจีน
ซีไอเอเฮล์มที่กำลังนั่งอยู่ข้างคณะผู้แทนของสหรัฐฯ ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนจีนถึงยังหัวเราะได้อยู่อีก
“ไม่น่าเชื่อ” ฮูจั่นหยวนเผยยิ้มออกมา ซึ่งนั้นทำให้อีกฝ่ายเกิดความสงสัยไม่น้อยว่าเขาเป็นอะไรหรือกำลังคิดอะไรอยู่
เดิมที ตัวแทนจากจีนเองก็ต้องการที่จะหลีกเลี่ยงประเด็นนี้ไม่น้อยเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าการอภิปรายจะรุนแรงเพียงใด ผลลัพธ์สุดท้ายก็จะไม่เปลี่ยนแปลง
ทันใดนั้น โคเฮนก็ดูเริ่มที่จะดำเนินการต่อในขั้นต่อไป เขาพร้อมแล้วที่จะลงคะแนนเสียง และในตอนนั้นเอง ฮูจั่นหยวนที่เงียบไปชั่วครู่ก็พลันกล่าวคำพูดขึ้น
“หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เราได้เปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นตามข้อตกลงขององค์กร ITER แล้ว ทั้งนี้ เราเองก็ได้รับผิดชอบต่อสาธารณะอีกด้วย ยังไงก็เถอะ ความต้องการของทางฝั่งคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้พวกเรารู้สึกผิดหวังไม่น้อย”
“ภายใต้เงื่อนไขของความเสมอภาคและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เรามีความตั้งใจอย่างมากที่จะเปิดเผยความร่วมมือ แต่ด้วยข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม คำตอบของเราก็ยังคงถูกปฏิเสธอยู่เรื่อย”
“ถ้าเป็นแบบนี้ เราเองก็จะไม่เสียเวลาของพวกคุณ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฮูจั่นหยวนก็พลันจับคอปกเสื้อและมองไปยังทุกคนที่นั่งอยู่ในที่ประชุมอย่างจริงจัง จากนั้นไม่นาน เขาก็พลันกล่าวคำพูดออกมา
“ในนามของกระทรวงการต่างประเทศ”
“นับจากนี้ไป จีนจะถอนตัวจากข้อตกลงขององค์กร ITER อย่างเป็นทางการ!”
เมื่อน้ำเสียงของเขาแผ่วลง ทั่วทั้งห้องประชุมก็เงียบสนิท
ฮูจั่นหยวนพลันมองไปยังโคเฮนด้วยสายตาที่จริงจังและกล่าวคำพูดออกมา
“รักษาตำแหน่งของนายเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน”
“โชคดี”
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เก็บข้าวของบนโต๊ะและหันหน้าไปยังประตูของห้องประชุม
ผู้อำนวยการขององค์กร ITER เผยท่าทีที่ดูเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เขาพลันมองไปยังตัวแทนของทางฝั่งจีนที่กำลังเก็บของและเดินจากไป
เช่นเดียวกับอดัม โคเฮน เขาเผยใบหน้าที่ซึ่งราวกับเต็มไปด้วยคำถามากมายออกมาทันที
โดยปกติแล้ว ตามกระบวนการ พวกเขาทุกคนจะต้องลงคะแนนเพื่อไล่ตัวแทนจีนออกไป แต่ทว่า การลงคะแนนยังไม่ทันได้เริ่ม จีนก็ได้ถอนตัวออกไปเสียแล้ว
ความวุ่นวายพลันหายไปจากห้องประชุม
ไม่เพียงแต่ประธานคณะกรรมการและตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เกือบทุกคนในที่ประชุมเผยท่าทีที่ตกตะลึง
ซีไอเอเฮล์มที่ซึ่งนั่งอยู่ข้างคณะผู้แทนของสหรัฐฯ รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ได้ เขาพลันมองไปยังที่นั่งที่ว่างเปล่า
เห็นได้ชัดว่าเขาควรจะมีความสุขนับจากนี้ไป
ถึงอย่างไร การทำให้จีนถอนตัวออกไปจากองค์กร ITER ก็คือสิ่งที่ทำเนียบขาวและซีไอเอคาดหวังว่าจะได้เห็นอยู่แล้ว
แต่นี่มัน…
ทางฝั่งจีนประสบความสำเร็จในเทคโนโลยีหลักสำหรับการสร้างนิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมแล้วหรืองั้นหรือ?
ทันใดนั้น เขาก็พลันคิดถึงความเป็นไปได้ที่เลวร้าย แต่ในไม่ช้า เขาก็ส่ายหัวและขับไล่ความคิดที่ดูจะไม่มีเหตุผลนี้ออกไป
ไม่เป็นไปไม่ได้…
มันยังเร็วเกินไป
ในขณะเดียวกัน เลขานุการการประชุมที่นั่งถัดจากผู้อำนวยการพลันมองไปยังห้องประชุมที่เต็มไปด้วยยุ่งเหยิงและกระซิบขึ้น
“ท่านประธาน… เราจะต้องมีการประชุมต่อไปอีกไหม?”
ประธานคณะกรรมการเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นไม่นาน เขาก็กล่าวคำพูดออกมา
“เริ่มวาระต่อไปได้”
ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร งานที่ต้องทำก็ยังต้องดำเนินต่อไป
ในวาระต่อไป พวกเขาจะหารือเกี่ยวกับปัญหาของอุปกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นแบบควบคุมได้ขนาดยักษ์
นี่เป็นหัวข้อที่น่าตื่นเต้นกว่ามาก
แต่ทว่า ในตอนนี้ พวกเขากลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย…
…………………………………………