Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 590 หัวหน้าที่ปรึกษาของโปรเจกต์ดวงจันทร์
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 590 หัวหน้าที่ปรึกษาของโปรเจกต์ดวงจันทร์
มันมีอุปสงค์พลังงานสูงในจีน แต่มันไม่มีความต้องการในด้านอวกาศ
ถึงแม้ว่าความสำเร็จของโปรเจกต์ฟิวชั่นที่ควบคุมได้จะช่วยประหยัดเงินให้ประเทศปีละ 2 ล้านล้านหยวนต่อปี เงินจำนวนนี้ก็ไม่สามารถใช้กับโปรเจกต์อวกาศได้
ที่ที่เงินจะถูกใช้ไปและผลลัพธ์ที่มันจะนำมา สิ่งเหล่านี้จะต้องผ่านกระบวนการตัดสินใจที่เคร่งครัด
โดยเฉพาะกับเทคโนโลยีรีไซเคิลจรวด ค่าใช้จ่ายการปล่อยจรวดนั้นไม่ใช่แบบที่เคยเป็น
ดูจากดาวเทียมโคจรรอบโลกระยะใกล้เป็นตัวอย่าง จรวดฟัลคอนของสเปซเอ็กซ์นั้นมีราคาที่ 1,141 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับดีไซน์จรวดเดลต้า 4 ของนาซ่าในช่วงปี 1990 มันมีราคาอยู่ที่ 11,660 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ค่าใช้จ่ายนั้นลดลงเกือบสิบเท่า
ค่าใช้จ่ายในการปล่อยจรวดทำปฏิกิริยาเร็วของจีนไคว่โจว ซึ่งเป็นจรวดที่ได้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่สุดในโลก ได้ลดลงจาก 10,000 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม ไปที่ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม
ถ้าภารกิจพาคนไปเยือนดวงจันทร์ต้องใช้ยานอวกาศที่มีมวลประมาณ 50 ตันที่ถูกส่งไปในวงโคจรต่ำของโลก ละเลยข้อเท็จจริงว่ายานอวกาศไม่ใช่ดาวเทียมและไม่สามารถแยกออกเป็นการปล่อยสิบครั้ง ค่าใช้จ่ายในการปล่อยก็ถูกจำกัดอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ ในเชิงทฤษฎี
ดังนั้น ถ้าพวกเขาจำเป็นแค่จะไปดวงจันทร์ มันก็ไม่มีเหตุที่จะต้องประดิษฐ์เครื่องแมสไดรเวอร์ที่เป็นไปได้
แต่ลู่โจวไม่อยากแค่จะส่งคนไปปักธงที่ดวงจันทร์ เขาอยากจะตั้งสถาบันวิจัยทางวิทยาถาวรบนดวงจันทร์…หรือฐานเหมืองทรัพยากร
เนื่องจากเป้าหมายระยะยาวนี้ มันจึงค่อนข้างจำเป็นที่จะต้องหาวิธีที่ถูกลงตามทฤษฎีที่จะเคลื่อนย้ายมวลเข้าไปในวงโคจรต่ำของโลก
ถ้าคนยังใช้จรวดที่ใช้พลังงานจากสารเคมี เมื่อจำนวนการปล่อยถึงช่วงตัวเลขห้าหลัก การสำรวจอวกาศจะเปลี่ยนจากสายการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นอุตสาหกรรม ค่าใช้จ่ายก็จะสูงมาก และจะมีผลกระทบที่ตามมาด้านสิ่งแวดล้อม
เชื้อเพลิงจรวด ซึ่งผลิตจากไดไนโตรเจนไตรตรอกไซด์และไดเมธิลไฮดราไซน์นั้นมีพิษ
แต่ลู่โจวก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะโน้มน้าวให้เบื้องบนให้อนุมัติโปรเจกต์พันล้านนี้ เพราะว่าตอนนี้มันไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับโปรเจกต์อวกาศ
แต่เขาเชื่อว่าเมื่อเขาผลิตผลลัพธ์ได้มากพอ เคสของเขาก็จะโน้มน้าวได้มากขึ้น
การประชุมถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน การพักครึ่งถูกประกาศตอนเที่ยง หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารกลางวันเรียบง่าย พวกเขาก็ประชุมต่อตอนบ่ายโมงครึ่ง
ส่วนตอนบ่ายของการประชุมนั้นเน้นเรื่องนักวิจัยและวิศวกรเป็นหลัก เนื้อหาของการพูดคุยเน้นไปด้านเทคนิคมากกว่า
ระหว่างการประชุม ตัวแทนจากหน่วยงานวิจัยรายใหญ่พูดอย่างกระตือรือร้นและนำเสนอมุมมองของตัวเอง
นอกจากคอนเซปต์ของจรวดลองมาร์ช 9 ขององค์กรเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์อวกาศ ผู้คนอื่นๆ ได้มีไอเดียทางเทคนิคที่น่าสนใจอยู่มากมาย
ยกตัวอย่างเช่น นักวิจัยระดับสูงที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์อวกาศและประยุกต์จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนแสดงโมเดลคอนเซปต์ของเครื่องทรัสเตอร์ไอออนแมสไดร์ฟ คอนเซปต์เทคโนโลยีการเร่งนั้นต่างจากไอเดียของลู่โจวแต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเป็นไอเดียที่น่าสนใจมาก
ลู่โจวไม่ได้พูดคุยเยอะที่การประชุมนี้ เขาพูดคร่าวๆ เกี่ยวกับไอเดียของเขาเรื่องทรัสเตอร์เอฟเฟกต์ฮอลล์
บางไอเดียนั้นเป็นความเห็นของเขาเพียงคนเดียว บางไอเดียเป็นแรงบันดาลใจที่เขารวบรวมมาได้ระหว่างการพูดคุยกับนักวิจัยของทีมโปรเจกต์ AF-MPD ในช่วงที่เขาเป็นที่ปรึกษาของพีพีพีแอล
เขาคิดว่าความเห็นของเขานั้นดูไซไฟและทดลองอยู่แล้ว เขาไม่คิดว่าไอเดียของหลายคนนั้นจะไซไฟมากกว่าเขา บางคนนั้นก็พูดถึงคอนเซปต์ของไดร์ฟอีเอ็ม
เอาตามตรงแล้ว อีเอ็มไดร์ฟก็ไม่ได้สมมติไปสักทีเดียว นาซ่าวิจัยในสาขานี้มาก่อน ซึ่งธีสิสพวกนี้สามารถหาได้ที่ arXiv
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าอะไรเป็นไปได้ในอนาคต แม้แต่นักวิชาการที่โดดเด่นที่สุดก็ไม่อาจบอกถึงสิ่งยืนยันที่ชัดเจนในอนาคตได้ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่อาจดูเป็นไปไม่ได้
แต่ในทุกกรณี เทคโนโลยีอีเอ็มไดร์ฟนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตอันไกล มันไม่ได้เกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้
ทุกคนหัวเราให้คอนเซปต์นี้และไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
มันไม่มีข้อห้ามในการสัมมนาเช่นนี้ มันเปิดกว้างอิสระ ใครจะพูดอะไรก็ได้ มันไม่มีใครที่จะต่อต้านเส้นทางเทคนิค
สำหรับเรื่องเส้นทางเทคนิคที่จะถูกดำเนินการ เรื่องนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์
ระหว่างช่วงกลางปี จะมีการประชุมเพื่อหารือว่ายานอวกาศเพื่อการใช้งานหนักลำไหนจะถูกใช้สำหรับแผนลงจอดดวงจันทร์
ไม่ว่ามันจะเป็นจรวดหรือกระสวยอวกาศ ใครก็ตามที่สามารถคนของอย่างน้อย 30 ตันจากโลกไปดวงจันทร์และกลับมาอย่างปลอดภัย ก็มีสิทธิที่จะชนะการประมูล
ยานอวกาศที่ดูมีหวังที่สุดน่าจะเป็นลองมาร์ช 9
แต่เวลาบินที่เร็วที่สุดที่เป็นไปได้คือปี 2028 แต่ถึงจะไม่มีการล่าช้า ซึ่งนั้นก็อีกแปดปี
รัฐบาลอาจจะหวังที่จะสำเร็จภารกิจส่งคนไปดวงจันทร์ภายในห้าปี เพื่อที่จะทำแผนกลยุทธ์เพื่อกดดันอเมริกาและยุโรปให้สำเร็จ ดังนั้น ลองมาร์ช 9 ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบก็อาจจะพลาดการต่อสู้นี้
บริษัทอื่นที่สามารถสร้างทางออกที่ค่าใช้จ่ายถูกในระยะเวลาสั้นก็จะเป็นคนประมูลที่แข่งขันได้
ส่วนเรื่องที่ลู่โจวจะเข้าร่วมการลงจอดดวงจันทร์นี้หรือไม่…
เขายังไม่ได้ตัดสินใจ
เขาเพียงแค่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยทรัสเตอร์ไอออน ถึงเขาจะทำการวิศวกรรมย้อนกลับเศษซากได้ เขาไม่อาจจะที่ใช้มันในชั้นบรรยากาศของโลกได้
ถ้าหากเศษซากชิ้นนี้เป็นส่วนประกอบของสถานีอวกาศล่ะ? มันอาจจะไม่สามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศโลกแล้วไปวงโคจรได้
สิ่งนี้ก็เป็นไปได้ทั้งหมด
โดยสรุป ก่อนที่เขามั่นใจในทักษะว่าจะได้รับเทคโนโลยีนี้มา เขาก็ไม่สามารถให้สัญญาอะไรได้ เขาทำได้แต่แสดงความเห็นของเขาสำหรับสงครามประมูล ซึ่งเขาก็คงจะไม่มีเข้าร่วมด้วย…
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ลู่โจวก็เดินออกจากที่ประชุม
เขาพบในทันทีว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากยืนรอบที่ประชุม
เมื่อดูกล้องกับไมโครโฟน คนพวกนี้เป็นนักข่าวแน่นอน
เมื่อตัวแทนจากเพนกวิ้นและอาลีบาบาเดินออกจากที่ประชุมมา นักข่าวรุมล้อมพวกเขาเหมือนกับฝูงฉลามที่ได้กลิ่นเลือด
เมื่อลู่โจวมองดูนักข่าวพวกนี้ เขาอดที่จะสะดุ้งไม่ได้ ทันทีที่เขารู้สึกโชคดีพอที่ไม่ถูกนักข่าวล้อม ทันใดนั้น มีนักข่าวสังเกตเห็นเขาแล้ววิ่งพุ่งมาหาอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าหวังเผิงจะยืนอยู่หน้าเขา ไมโครโฟนก็ยังถูกพุ่งมาใส่หน้า
“ศาสตราจารย์ลู่ สวัสดี พวกเราเป็นนักข่าวจากช่องเทคโนโลยี CTV ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นคนเสนอโครงการส่งคนไปเยือนดวงจันทร์ใช่ไหม?”
“ศาสตราจารย์ลู่ สวัสดี เราเป็นนักข่าวจากช่องเทคโนโลยีเพนกวิ้น มีข่าวลือในโลกออนไลน์ว่าจีนจะเดินทางในอวกาศได้ในอีกไม่นาน คุณคิดเห็นอย่างไร?”
“ข่าวลือบอกว่าคุณเป็นหัวหน้านักออกแบบของโครงการอวกาศนี้ ถูกต้องใช่ไหม?”
ลู่โจวรู้สึกปวดหัวกับคำถามทั้งหมดนี้ แต่เขาหาวิธีที่จะหลบหนีไม่ได้ เขารีบคว้าไมโครโฟนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วพูดด้วยความโกรธว่า “มันไม่จริง”
นักข่าวพูดตอบ “เอ่อ…งั้น ขอถามหน่อย…”
ลู่โจวสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “การเริ่มโปรเจกต์ส่งคนไปดวงจันทร์ไม่ใช่ข้อเสนอแนะของผมทั้งหมด มันก็มาจากความต้องการทางกลยุทธ์ของประเทศ สำหรับเรื่องหัวหน้านักออกแบบของโปรเจกต์ ผมก็ไม่รู้ว่าคุณได้ยินข่าวลือนี้มาจากไหน แต่จากที่ผมรู้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แค่เชิญผมมาเป็นหัวหน้าที่ปรึกษา”
เลขาสวี่ที่ยืนอยู่ข้างเขายิ้มและพูดว่า “หัวหน้าที่ปรึกษา”
หัวหน้าที่ปรึกษา!
สองคำสั้นๆ ทำให้นักข่าวอึ้งกันถ้วนหน้า
………………………………………………………..