Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 603 ผมก็อยากอยู่แต่ผมกลัว...
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 603 ผมก็อยากอยู่แต่ผมกลัว...
เซี่ยงไฮ้ ไห่เซียงแคปิตอล ออฟฟิศผู้จัดการทั่วไป
หลี่เซียงนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่เก้าอี้ออฟฟิศ เขาพยักหน้าระหว่างที่เหงื่อออกแล้วพูดว่า “โอเค ผู้อำนวยการอู๋! ผมเข้าใจ…ไม่ ไม่! ผมไม่มีทางทำอะไรโดยที่คุณไม่อนุมัติ”
สายโทรศัพท์สิ้นสุดลง
หลังจากเขาวางสาย เขาถอนหายใจและเอนหลังที่เก้าอี้ มันเหมือนว่าเขาวิ่งมาราธอนมา หน้าผากเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
แน่ชัดว่าผู้อำนวยการอู๋เป็นผู้ถือหุ้นไห่เซียงแคปิตอล เขาเป็นคนที่ได้รับข่าวล่วงหน้าเรื่องอีสต์เอเชียเอเนอร์จี้และบอกหลี่เซียงให้ซื้อหุ้น
หลี่เซียงกังวลว่าผู้อำนวยการอู๋จะโทษเขาที่ไม่สามารถซื้อหุ้นได้ หลี่เซียงอยากสอบสวนว่าใครอยู่เบื้องหลังสตาร์สกายเทคโนโลยีและถ้าหากเขาได้หุ้นของสตาร์สกายเทคโนโลยีด้วยสักวิธีหนึ่ง
แต่สายจากผู้อำนวยการอู๋ทำให้หลี่เซียงเสียขวัญ
เขาไม่คาดคิดว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีจะมีพื้นหลังที่น่าประทับใจแบบนี้
เมื่อเขานึกได้ว่าเขาเกือบจะได้คุยกับผู้ถือหุ้นจากสตาร์สกายเทคโนโลยีสตาร์สกายเทคโนโลยี เขามีเหงื่อท่วมตัว
คุยกับเขาเหรอ?
ผมคงถูกไล่ออกก่อนที่จะเริ่มคุย
ทันใดนั้น ประตูออฟฟิศถูกเปิดออกรองผู้จัดการทั่วไปถังกวงเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เจ้านาย พวกเราเจอข้อมูลที่คุณต้องการ! ลู่โจวถูกจดทะเบียนว่าเป็นคนของสตาร์สกายเทคโนโลยี เขาคือศาสตราจารย์ลู่ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยจินหลิง!”
หลี่เซียงพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยและพูดว่า “โอเค ผมเข้าใจ…ตามนั้น”
เมื่อเห็นว่าหลี่เซียงสีหน้านิ่ง ถังกวงหยุดไปสักพักแล้วพูดอย่างกังวล “ผู้จัดการหลี่ นี่เป็นโอกาส!”
หลี่เซียงนิ่งสักพักแล้วทำอะไรไม่ถูก
“อะไรเหรอ? “
“โอกาสที่จะสร้างรายได้!” ถังกวงพูดอย่างตื่นเต้น “ทำไมคุณคิดว่านักวิจัยทางวิทยาศาสตร์คนนี้ถึงรวยล่ะ? ผมเดาว่าเงินพวกนี้คงเป็นเงินสกปรก! พวกเราแค่ต้องบอกให้สาธารณะรู้เกี่ยวกับแมนชั่นและบริษัทของเขา และทำให้พวกนั้นคิดว่าเขาใช้เงินทุนของรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง! ธนาคารจะอายัดบัญชีของเขาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสอบสวนเขา…”
แผนของถังกวงค่อนข้างชั่วร้าย
ถึงแม้ว่ามันอาจจะมีเงินสดเจ็ดพันล้านดอลลาร์ มันเป็นไปไม่ได้ที่เงินจะเข้าบัญชีเร็วขนาดนี้
ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเงินนั้นและลู่โจวไม่สามารถจ่ายเงินได้ หุ้นเจ็ดร้อยล้านก็จะเปิดอิสระต่อสาธารณะ?
โปรเจกต์ระดับชาติแบบนี้คงไม่อยากเจอความล่าช้า
แล้วก็มีคนจำนวนมากกำลังจ้องมองพายชิ้นนี้ ตราบใดที่เขาทำงานนี้ มันเป็นไปได้สูงมากที่หุ้นจะถูกจำหน่ายอีกครั้ง พวกเขาไม่สามารถซื้อหุ้นได้ทั้งหมด แต่พวกเขาอาจจะซื้อได้บางส่วน
สำหรับการให้ร้ายนักวิชาการชื่อดังระดับชาติ…
ทำไมพวกเขาต้องสนใจ?
หลี่เซียงมองดูเขา
“คุณนี่มันอัจฉริยะจริงๆ”
ถังกวงยิ้ม
“ขอบคุณ ทุกอย่างมาจากการชี้แนะของคุณ…”
“ชี้แนะอะไร!” หลี่เซียงโยนแฟ้มเอกสารใส่หน้าเขา ถังกวงงุนงง หลี่เซียงเลยอธิบาย “คิดว่าเป็นคนเดียวที่คิดไอเดียเพี้ยนๆ แบบนี้ได้เหรอ? ถึงแม้ว่ามันจะมีปัญหาเรื่องทุนของเขา คุณคิดจะสืบเรื่องเขาจริงๆ เหรอ? คิดว่าตัวเองเป็น FBI หรือ CIA หรือไง?”
“แต่ แต่ว่า…”
“ไปตายซะ!”
หลี่เซียงโยนที่วางปากกาใส่เขา
ถังกวงยกมือปิดหน้าและออกจากออฟฟิศไป
หลี่เซียงมองดูมองทางเข้าประตูว่างเปล่าแล้วเหงื่อออกสักพักก่อนจะใจเย็นลง
เมื่อเขาคิดถึงแผนของลูกน้อง เขารู้สึกกลัว
โชคดีที่ไอ้งั่งคนนี้รู้ดีว่าต้องเล่าแผนให้เขาฟัง ก่อนที่จะลงมือเองก่อน
ถึงแม้ว่าเขาอิจฉาหลังจากได้รู้พื้นเพของสตาร์สกายเทคโนโลยี เขาก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเหลืออยู่ในจิตใจ
รัฐบาล อุตสาหกรรม นักวิชาการ และสื่อ ไม่มีอะไรที่แตะต้องได้เลย
รวมไปถึงระดับความปลอดภัยของลู่โจว
ถ้าเขาทำอะไรที่เขาไม่ควรทำจริงๆ นอกจากว่าเจ้านายจะปกป้องเขาไม่ได้ แต่ตัวเจ้านายเองก็จะโดนโยนลงบ่อพร้อมกับเขา
ตอนนี้เขาเข้าใจในที่สุดว่าทำไมโบรกเกอร์และนักล่าคนอื่นในอุตสาหกรรมการเงินถึงเงียบกัน
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาไม่อยาก
แต่เป็นเพราะว่าพวกนั้นไม่กล้า…
…
หลังจากที่ได้ข้อตกลงกับเอ็กซอนโมบิลในเรื่องการขายห้องแล็บ ลู่โจวตรงไปที่สถาบันจินหลิงเพื่อการศึกษาขั้นสูง
เขาไม่ได้โกหกวู้ดส์เรื่องแผนการทดลอง เขามีการวิจัยต้องทำจริงๆ
เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน ตัวอย่างและผลทดสอบจากโรงงานผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์เทียนหวันได้ถูกส่งกลับมา สิ่งเดียวที่เขาต้องทำคือกลับไปที่สถาบันวิจัยและดูข้อมูลการทดลอง
มันใช้เวลาขับรถสี่สิบนาทีจากใจกลางเมืองไปย่านไฮเทค เมื่อรถซีดานสีดำถูกจอดหน้าสถาบันวิจัย ตึกในพื้นที่มืดสนิทไปแล้ว อาคารวิจัยเป็นเพียงอาคารเดียวที่ยังเปิดไฟอยู่
หวิงเผิงดับเครื่องและลู่โจวมองเขา
“คุณอยากไปกินอะไรไหม? ผมน่าจะกลับมาหลังเที่ยงคืน”
“ไม่เป็นไร ผมแค่จะสูบบุหรี่สองสามมวน”
“ถ้าอย่างนั้นก็โอเค”
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากที่เขาออกจากรถ เขาเดินไปที่สถาบันวิจัย
เขาผ่านจุดรักษาความปลอดภัยและขึ้นลิฟต์ไป
เมื่อเขามาถึงห้องแล็บ ชางเซี่ย เชิ่งเซี่ยนฟู่ และศาสตราจารย์สองสามคนอยู่ในห้องแล็บแล้ว
เมื่อดูจากสีหน้าของคนพวกนี้ สถานการณ์ดูไม่ค่อยดี
แต่ลู่โจวก็ยังถาม
“ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
เชิ่งเซี่ยนฟู่ถอนหายใจและพูดขึ้น “คุณดูเอาเองละกัน”
ลู่โจวได้รับเอกสารที่เพิ่งถูกพิมพ์ออกมาซึ่งมันยังอุ่นอยู่เลย เขานั่งลงที่เก้าอี้ห้องแล็บและเริ่มอ่านรายงานการทดลองโดยละเอียด
แต่ยิ่งเขาอ่าน หน้าเขายิ่งจริงจังมากขึ้น
เหมือนที่เขาคาดไว้ รายงานการทดลองไม่ค่อยดีนัก
ความเสียหายรังสีนิวตรอนนั้นใช้ได้ การซ่อมแซมตัวเองของวัสดุ PGC-1 และการซึมผ่านของรังสีนิวตรอนเองนั้นค่อนข้างดี มันน่าจะเป็นวัสดุเครื่องปฏิกรณ์ที่สมบูรณ์แบบ
แต่ปัญหาไม่ใช่การแผ่รังสีนิวตรอน มันคือการสลายความร้อน
“แนวคิดเรื่องอิกนิชั่นเร็วอาจจะถูกต้อง แต่การสะสมความร้อนคือปัญหาใหญ่” เชิ่งเซี่ยนฟู่มองดูเขาแล้วถอนหายใจ “ถ้าเราใช้อินเนอร์เชียลคอนไฟน์เมนต์ฟิวชั่น วัสดุของเราจะสัมผัสโดยตรงกับพลาสมาซึ่งมีความร้อนหลายร้อนล้านองศา แม้ว่ามันจะไม่มีตัวทำปฏิกิริยาจำนวนมากที่เกี่ยวกับปฏิกิริยาคอร์นิวเคลียร์ มันก็ยังจะสร้างความกดดันให้เครื่องปฏิกรณ์อย่างมาก เราอาจจะไม่สามารถหาวิธีเหมาะสมที่จะกำจัดความนี้ โดยเฉพาะในอวกาศ…”
แม้ว่าอุณหภูมิในอวกาศต่ำมาก มันเป็นเพราะสภาวะเกือบสุญญากาศ ไม่มีน้ำหรืออากาศให้ถ่ายผ่านความร้อน มันจึงสามารถสลายความร้อนได้ในรูปแบบการแผ่รังสีความร้อน
ถ้าความร้อนที่เกิดจากเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นไม่สลายได้ทัน ส่วนประกอบจะได้รับความเสียหายและยานอวกาศอาจจะถูกเผาไหม้หรือสลายไป
นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาแบตเตอรี่ฟิวชั่น แต่มันเป็นปัญหากับส่วนประกอบยานอวกาศเกือบทั้งหมด โดยปกติแล้ว ทางออกคือการเพิ่มซิงค์ความร้อนและเร่งการแผ่รังสีความร้อนโดยการเพิ่มพื้นที่ผิว
แต่เมื่อมันเกี่ยวกับนิวเคลียร์ฟิวชั่น การแผ่รังสีความร้อนจะกระจายความร้อนที่ย่ำแย่…
หลี่ชางเซี่ยคิดอยู่นานและถอนหายใจก่อนที่จะพูดว่า “ถ้าเราสามารถลดความเร็วพลังงานฟิวชั่นที่ควบคุมได้นะ”
เชิ่งเซี่ยนฟู่อดพูดไม่ได้ว่า “หรือว่าเราแค่ลดอุณหภูมิของปฏิกิริยาฟิวชั่นที่ควบคุมได้ เพราะมันเป็นไปได้แน่นอน”
นิวเคลียร์ฟิวชั่นเย็นเป็นกระแสดังในยุค 1980 แต่มันกลับเป็นเรื่องจกตาทางวิชาการ การสอบสวนนำโดยกลุ่มสมาชิก 22 คน จากกระทรวงพลังงานของอเมริกาถูกสรุปได้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก
แม้แต่ตอนนี้ยังมีคนที่อ้างว่าแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ฟิวชั่นเย็นได้ แต่มันก็มีความผิดพลาดในข้อมูลหรือเป็นเรื่องหลอกลวงโต้งๆ
ไม่ว่านิวนิวเคลียร์ฟิวชั่นเย็นจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตหรือไม่ มันก็เป็นจริงไม่ได้ตอนนี้
แต่คำของหลี่ชางเซี่ยดึงความสนใจจากลู่โจว
ถ้าเขาสามารถลดความเร็วปฏิกิริยาแล้วทำให้มีเวลาเพียงพอที่จะให้คอร์นิวเคลียร์โอนถ่ายความร้อนไปที่เครื่องผลิตพลังงานหรือกระจายความร้อนนอกยานอวกาศ มันน่าจะเป็นไปได้?
แต่ลู่โจวไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างไร
การหารือมีต่อจนถึงช่วงดึก
ลู่โจวมองดูนาฬิกาบนกำแพงแล้วพูดขึ้น “มันดึกแล้ว เราจบการประชุมกันเถอะ”
มันเที่ยงคืนแล้ว
ถึงพวกเขาจะประชุมกันต่อ แต่มันคงไม่ได้ประสิทธิผลแล้ว
และลู่โจวต้องการใช้เวลาคิดเรื่องนี้ เขาจะได้คิดโปรเจกต์วิจัยที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้
……………………………………………………….