Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 615 ไม่ต่างกันในความเห็นผม
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 615 ไม่ต่างกันในความเห็นผม
นักวิชาการหวังเป็นผู้นำด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยเหยียนเป็นเวลาหลายปี อีกทั้งเขายังเป็นประธานสมาคมคณิตศาสตร์ประเทศจีน
เขาอารมณ์เสียพอตัว
หลังจากเขาออกมาจากออฟฟิศของอาจารย์ใหญ่ เขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ แต่เขากลับถามนักศึกษาและเจอทางไปออฟฟิศของศาสตราจารย์ลู่
หลังจากลู่โจวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะได้ฟังคำขอของนักวิชาการหวัง เขาหยุดเขียนงาน
“ทำการรายงานที่มหาวิทยาลัยเหยียน?”
“ใช่” นักวิชาการหวังไม่ได้ซ่อนเจตนาที่แท้จริงระหว่างที่เขาพูดว่า “ภาคคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเหยียนนั้นแข็งแกร่งกว่าภาคคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยจินหลิงทั้งในแง่บรรยากาศวิชาการและทักษะ การสัมมนาวิชาการระดับโลกประเภทนี้เป็นโอกาสที่จะแสดงศักยภาพชุมชนคณิตศาสตร์ของจีนให้โลกได้รับรู้ มันยังเป็นโอกาสสำคัญที่นักคณิตศาสตร์ชาวจีนจะได้รวมเป็นหนึ่งกับโลก ผู้คนรู้ว่ารายงานนี้เป็นของคุณ และคุณมีสิทธิ์เลือกว่าจะจัดงานที่ไหน แต่ผมหวังว่าคุณสามารถเป็นภาพใหญ่แล้วตัดสินใจใหม่”
ลู่โจวยิ้มและพูดว่า “ผมขอถามคุณหน่อยได้ไหม?”
หวังซื่อเฉิงพูด “ถามมาเลย”
ลู่โจวถาม “คุณคิดว่ากระจกหรือสิ่งของในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ?”
หวังซื่อเฉิงตอบ “แน่นอนว่าผมคิดว่าสิ่งของในบ้านสำคัญ”
“ผมก็คิดแบบนั้น” ลู่โจวพยักหน้าและนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดว่า “ไม่ว่าชุมชนคณิตศาสตร์ประเทศจีนจะเชื่อมต่อกับโลกได้หรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนหรือตำแหน่งของหน้าต่าง มันขึ้นอยู่กับสิ่งของในบ้าน ผมของให้คุณคิดถึงภาพรวม ผมกำลังบอกคุณว่าตำแหน่งของการรายงานเองไม่สำคัญ งานวิจัยของผมเองเป็นสะพานระหว่างประเทศจีนและทั้งโลก”
ความคิดของหวังซื่อเฉิงถูกปิดกั้นโดยคำพูดของลู่โจว
เขาเปิดปากแต่พูดอะไรไม่ออก จากนั้นสักพัก เขาพูดขึ้น “ผมไม่เข้าใจ”
ลู่โจวถาม “ไม่เข้าใจอะไรครับ?”
หวังซื่อเชิงพูดด้วยสีหน้าสับสน “ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณไม่อยากไป? คุณคิดว่าอะไรเป็นได้จริงมากกว่า การที่มหาวิทยาลัยเหยียนเป็นศูนย์กลางคณิตศาสตร์เอเชียหรือว่ามหาวิทยาลัยจินหลิงล่ะ?”
หลังจากได้ยินคำถามนี้ ลู่โจวยิ้ม
“เอาจริงแล้ว มันไม่มีเหตุผลพิเศษอะไร ที่นี่เป็นโรงเรียนเก่าของผม”
ถึงเขาจะมีเหตุผลพิเศษ เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกไป
ทำไมเฉินเสิ่งเซินถึงเลือกมหาวิทยาลัยไค? ทำไมชิวเฉิงถงถึงเลือกสุ่ยมู่? มหาวิทยาลัยเหยียนควรจะดีกว่าใช่ไหม? จริงๆ แล้ว มันกลับตรงกันข้าม นั่นเป็นเพราะว่ามหาวิทยาลัยเหยียนนั้นแกร่งเกินไป ที่นั่นมีนักคณิตศาสตร์มากเกิน
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มันจะต้องมาการปะทะของไอเดียวิชาการ
ลู่โจวคิดถึงผลลัพธ์ระยะยาว ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจไม่ไปมหาวิทยาลัยเหยียน
เมื่อเขาเห็นว่านักวิชาการหวังซื่อเฉิงตัวสั่นแค่ไหน เขาหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดว่า “สำหรับที่ไหนน่าจะเป็นศูนย์กลางของคณิตศาสตร์…”
“ทั้งสองที่นี้ก็ไม่ต่างกันสำหรับผม”
…
มันยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนครึ่งกว่าจะถึงการรายงานสมการหยาง-มิลส์ แต่การเตรียมการสำหรับการรายงานได้เริ่มขึ้นแล้ว
การเตรียมงานเป็นเรื่องอย่างเช่นการเตรียมงานสัมมนาและการเปลี่ยนภาพลักษณ์มหาวิทยาลัย ตรวจสอบความปลอดภัย รวมไปถึงการปรับปรุงหอพักค่ำครึที่วิทยาเขตเก่าแก่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลู่โจวอยู่ในการแข่งขันโมเดลคณิตศาสตร์ เขาอาศัยอยู่ในหอพักหกที่มีชื่อ ตอนนั้น ผู้นำมหาวิทยาลัยได้ตัดสินใจให้ปรับปรุงหอพักหลายแห่งทั้งหมด พวกเขาทำแม้กระทั่งติดเครื่องปรับอากาศในตึกที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่
จริงๆ แล้ว ลู่โจวรู้สึกละอายเล็กน้อยที่มหาวิทยาลัยจินหลิงได้จริงจังกับการรายงานนี้มาก
ท้ายที่สุดแล้ว ตอนที่เขายังอยู่ที่พรินซ์ตัน รายงานของเขาไม่ได้ฟุ้งเฟ้อขนาดนี้ แม้แต่รายงานข้อคาดการณ์ของก็อลท์บัคก็ถูกจัดที่โถงเลคเชอร์ หมายเลข 1
แต่เขาก็เข้าใจเหตุผลที่อาจารย์ใหญ่สวี่ทำแบบนี้
สุดท้ายแล้ว ภาคคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยจินหลิงไม่เคยจัดรายงานที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
นี่เป็นสิ่งที่ชุมชนฟิสิกส์เชิงทฤษฎีระดับชาติที่ใกล้เคียงกับจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งวงการฟิสิกส์มากที่สุด แล้วมันก็เป็นความสำเร็จด้านวิชาการที่สุดยอดระดับนานาชาติของมหาวิทยาลัยจินหลิง ไม่ว่าอาจารย์ใหญ่จะทำมันเพราะตัวผลลัพธ์เองหรือเพราะว่าตัวลู่โจว มันก็คุ้มค่า
ในทางกลับกัน นอกจากโรงเรียนที่เตรียมการสำหรับการรายงาน ผู้ช่วยสามคนของลู่โจวก็ยุ่งเช่นกัน
โดยเฉพาะผู้ช่วยหลิน ซึ่งรับผิดชอบด้านประชาสัมพันธ์ โดยปกติแล้ว เธอมีเวลาว่างเยอะ แต่ตอนนี้เธอมีเรื่องให้ทำเสียที เธอจะได้วิ่งไปทั่ววิทยาเขตฝั่งใหม่และฝั่งเก่าพร้อมกองเอกสาร แต่ดูเหมือนว่าเธอมีความสุขกับสิ่งนี้?
ลู่โจวไม่เข้าใจว่าสิ่งนี้น่าสนุกตรงไหน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อมีหลายคนได้จัดการประชุมรายงาน ลู่โจวก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันเอง เขาวิจัยทางแก้ทั่วไปสำหรับสมการหยาง-มิลส์ต่อไป
แต่เรื่องต่างๆ นั้นซับซ้อนกว่าที่เขาจินตนาการไว้
งานวิจัยของเขาไม่ได้อยู่ในคอคอด มันไม่มีขวดอยู่เลย…
[F^i(μv)≡δμ·Av^i-δv·Aμ^i+g(f^ijk)·(Aμ^j)·(Av^k).]
[…]
“ไม่รู้เลยว่าคุณหยางและคุณมิลส์สามารถสร้างสมการนี้ได้อย่างไร” ลู่โจวขยำกระดาษในมือแล้วโยนก้อนกระดาษลงถังขยะ
แอล แมนิโฟลด์ มีประโยชน์มากสำหรับการทดสอบสมการอนุพันธ์บางส่วนที่ไม่เป็นเส้นตรง แต่นั่นก็ค่อนข้างจำกัด เมื่อมันถูกใช้เพื่อแก้บางปัญหา
นี่เป็นเหตุผลที่ลู่โจวไม่เคยคิดเรื่องการแก้สมการนาเวียร์-สโตคส์
ไม่ใช่เพราะว่ามันยาก แต่เพราะว่าเขารู้ว่าเขาไม่สามารถทำได้
หานเมิ่งฉีเดินไปที่โต๊ะของเขาแล้วยื่นธีสิสที่เพิ่งปรินท์ให้
“อาจารย์ นี่คือธีสิสของฉัน”
ลู่โจวหยุดเขียนแล้วมองดูบทคัดย่อและหัวข้อธีสิสคร่าวๆ จากนั้นเขาเลิกคิ้วด้วยความสนใจ
[โมเดลทฤษฎีของอินเตอร์เฟสโซลูชั่นอิเล็คโทรดกึ่งตัวนำบนฐานของบาร์เรียซ๊อดกี้]
ดูเหมือนว่าเธอคนนี้ค่อนข้างมีความสามารถด้านวัสดุเชิงคำนวณ
หลังจากทำงานมาสองเดือน เธอสามารถเขียนงานของตัวเองได้
“อ่อ วางไว้ตรงนี้ก่อนนะ…ไว้ผมจะอ่านทีหลัง”
“โอ้…” หานเมิ่งฉีพยักหน้าและลังเลเล็กน้อย จากนั้นเธอถามเสียงเบา “เอ่อ…อาจารย์ มีอะไรที่ฉันพอช่วยได้ไหม?”
ลู่โจวหยุดนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้ม
มันไม่มีใครที่จะช่วยเขาได้จริงๆ
แต่เขาก็ต้องทำถ่อมตัว
“คุณก็ทำงานที่ผมมอบหมายให้เสร็จ นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณทำให้ผมได้ตอนนี้”
ในมุมหนึ่ง มันก็ถูก
ท้ายที่สุดแล้ว รางวัลสุดท้ายของภารกิจรางวัลเกี่ยวกับปัจจัยผลกระทบของธีสิสนักศึกษาของเขา นอกเหนือจากคุณภาพการสอน
แต่หานเมิ่งฉีไม่รู้เรื่องระบบแน่นอน เธอรู้สึกซึมเล็กน้อยระหว่างพยักหน้า
“โอเค ตามนั้น…”
ถ้าฉันแข็งแกร่งกว่านี้
ด้วยวิธีนี้ ฉันจะได้เป็นประโยชน์จริงๆ…
……………………………………………………………