Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 712 โครงการการ์เด้น
ในช่วงทศวรรษ 1990 ชาวอเมริกันได้พยายามสร้างระบบนิเวศเทียมขนาดเล็กในทะเลทรายทางตอนเหนือของเมืองทูซอน รัฐแอริโซนา จุดประสงค์ในการสร้างคือเพื่อทำการวิจัยระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมในสภาพแวดล้อมแบบปิด ตลอดจนช่วยให้มนุษย์เข้าใจว่าโลกจะเป็นอย่างไรบ้างโดยการลอกเลียนแบบสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาประเภทนั้น
โครงการนี้เดิมแล้วถูกเสนอโดยนักกีฬารักบี้และได้รับเงินทุนจากกลุ่มสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึงมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ รวมทั้งสิ้น 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในตอนนั้นเกิดความสับสนวุ่นวายพอสมควร
น่าเสียดายที่ผลการทดลองขั้นสุดท้ายไม่น่าดึงดูดใจเท่าที่ได้นำเสนอไว้ หนึ่งปีหลังจากที่ทีมทดลองเริ่มปฏิบัติงานที่พื้นที่ชีวมณฑล 2 พวกเขาได้เปิดเผยว่าโปรเจกต์นี้ล้มเหลว พวกเขาจึงต้องถอนตัวจากโปรเจกต์นี้
ข้อสรุปเดียวที่ดึงมาจากการทดลองนี้ได้คือ โลกอาจเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่เหมาะสมกับมนุษย์
กล่าวโดยสรุปแล้ว โครงการนี้ประสบความล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่ชีวมณฑล 2 ที่ล้มเหลวในการสร้างระบบนิเวศที่เสถียรและเป็นอิสระ แต่มันยังถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหลังจากโปรเจกต์ถูกทิ้งร้าง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ความคิดนี้ก็ค่อนข้างแหวกแนวทีเดียว มีการคิดค้นเทคโนโลยีขึ้นมากมายอันเนื่องมาจากโปรเจกต์นี้ ซึ่งก็ได้ถูกนำมาประยุกต์ในแวดวงอื่นๆ อีกหลากหลาย
หากพิจารณาจากภารกิจต่างๆ ที่ได้รับการจัดการในระบบ พบว่ามีโอกาส 90 เปอร์เซ็นต์ที่ภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกันในขั้นที่สามคือการจัดตั้งสถานีวิจัยถาวรหรือกึ่งถาวรบนดวงจันทร์ แม้ว่าลู่โจวจะยังไม่ได้ไปเหยียบดวงจันทร์ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดเตรียมพร้อมเพื่ออนาคต
ยังไม่ต้องพูดถึงภารกิจรองในขั้นแรก อย่างเช่น ‘การเพาะปลูกบนดวงจันทร์’
ดังนั้นหลังจากมีการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน องค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โปรเจกต์ ‘การ์เด้น’ ชีวมณฑลเทียมก็ได้กำเนิดขึ้น
หากเปรียบเทียบกับพื้นที่ชีวมณฑล 2 ของจีน โครงการ ‘การ์เด้น’ นี้มีเป้าหมายที่ชัดเจนกว่า ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การตั้งรกรากในอวกาศ
เมื่ออ้างอิงจากกลุ่มปัจจัยภายนอก อย่างเช่น สภาพอากาศและสภาพแวดล้อม ที่ตั้งของสวนชีวมณฑล A ได้รับเลือกให้ตั้งอยู่ในทะเลทรายซูโซตอยน์ เอลีเซ็น และที่ศูนย์กลางของแอ่งจุงการ์ พื้นที่ชีวมณฑลอาจจะถูกบรรจุอยู่ในอาคารรูปครึ่งทรงกลม และอาจจะถูกแยกออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่า ด้วยปัจจัยที่หลากหลาย ลู่โจวไม่ได้วางแผนจะลอกเลียนโครงการพื้นที่ชีวมณฑล 2 ซึ่งทำขึ้นเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เหมือนกับรัฐแอริโซนาทั้งหมด ในทางกลับกัน แผนของลู่โจวคือจัดตั้ง ‘การนำเข้าของแร่ธาตุ น้ำจืด และทรัพยากรชีวภาพอย่างจำกัด’ จุดประสงค์ในการทดลองของเขาคือเพื่อลดการนำเข้าทรัพยากรให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้ว่าลู่โจวจะมีแผนดำเนินการสำหรับโปรเจกต์นี้โดยเฉพาะ แต่เขาก็ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์นี้โดยตรง แต่เขากลับเลือกที่จะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน และมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งประเทศจีน เขายังเลือกคนหนึ่งคนจากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งประเทศจีนมาเป็นผู้รับผิดชอบการวิจัย…
หลังจากลู่โจวอยู่ที่ค่ายกองร้อย 150 เป็นเวลา 1 คืน เขาก็ได้พบกับนักวิจัยของจินหลิงในวันถัดมา เขาอธิบายเรื่องงานกับพวกเขาแบบย่อๆ เขาได้รับโทรศัพท์จากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งประเทศจีน ซึ่งโทรมาแจ้งเขาว่านักวิจัยมาถึงอู๋ซีแล้ว
แอ่งจุงการ์อยู่ค่อนข้างไกลจากอู๋ซี แต่ลู่โจวไม่ได้เร่งรีบ หลังจากมื้อกลางวัน หวังเผิงได้ขับรถพาลู่โจวและทหารนำทางไปรอบๆ พื้นที่ทะเลทรายเพื่อตรวจสอบภูมิประเทศรอบพื้นที่
เมื่อใกล้จะถึงช่วงค่ำ รถจี๊ปทหารสีทะเลทรายและรถน้ำก็ปรากฏขึ้นที่ขอบทะเลทราย พวกเขาเข้ามาใกล้ด่านตรวจอย่างช้าๆ
บังเอิญว่าลู่โจวก็เพิ่งจะกลับมาจากการตรวจสอบภูมิประเทศของเขาพอดี เขาลงจากรถแล้วเดินตรงไปยังรถจี๊ปสีทะเลทราย เมื่อเขาเดินเข้าไปหารถ ชายวัยกลางคนร่างผอมซึ่งสวมแว่นตาและเสื้อโค้ตกันลม ก็ลงมาจากรถพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้ที่ดูสกปรกมาด้วย
ชายวัยกลางคนจำลู่โจวได้ทันที เขาพาดกระเป๋าเป้ไว้ที่บ่าแล้วยิ้มให้
“ยินดีที่ได้พบครับ ศาสตราจารย์ลู่! เป็นเกียรติอย่างยิ่ง!”
“ชมกันเกินไปแล้วครับ” ลู่โจวจับมือทักทายกับเขาแล้วทำท่าทางเชื้อเชิญชายคนนั้น “ตรงนี้ไม่เหมาะจะคุยกันเท่าไหร่ เชิญเข้าไปด้านในดีกว่าครับ”
นอกจากผู้ชายที่ถือสิ่งของจำเป็นเพื่อยังชีพและอาหารมาแล้ว ก็ยังมีนักศึกษาปริญญาเอกอีกสองคนอยู่ในรถด้วย พวกเขาดูท่าทางไม่ค่อยดีนัก และดูเหมือนว่าพวกเขาจะนอนไม่หลับ
ด้วยลมที่แรงและทรายที่อยู่ด้านนอก ทุกคนในกลุ่มจึงรู้สึกเหนื่อยเพลีย ลู่โจวเชิญพวกเขามาที่โกดังแล้วเดินไปหาชุดน้ำชา เหยียนเหยียน ผู้ซึ่งสวมชุดทหารสีเขียวแบบไม่เป็นทางการ เดินเข้ามาในโกดัง
“น้ำกำลังต้มอยู่ นั่งลงเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะช่วยคุณเอง”
ลู่โจวพยักหน้าให้เหยียนเหยียนแล้วพูดว่า “ขอบคุณมากๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เหยียนเหยียนสะบัดผมของเธอแล้วรินน้ำชาใส่ถ้วยสำหรับคนสี่คนที่นั่งอยู่ในห้อง จากนั้นเธอก็วางกาน้ำชาทิ้งไว้บนโต๊ะ เธอหมุนตัวแล้วเดินออกจากประตูไป
ลู่โจวกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขาดึงประวัติออกมาแล้วมองที่ศาสตราจารย์วัยกลางคน ผู้ซึ่งนั่งอย่างมืออาชีพอยู่บนโซฟา เขาเทียบหน้าศาสตราจารย์กับรูปที่อยู่บนประวัติ
ศาสตราจารย์ค่อนข้างจะรู้สึกอายที่ลู่โจวกำลังมองเขาอย่างพิจารณา ดังนั้นเขาจึงกระแอมออกมาแล้วพูดว่า “มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ?”
“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ต้องการให้แน่ใจ” ลู่โจวยิ้มเยาะแล้ววางประวัติลง เขามองไปที่ศาสตราจารย์แล้วพูดว่า “ยินดีต้อนรับสู่ทะเลทรายซูโซตอยน์ เอลีเซ็น”
ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าลู่โจวชื่อว่า หูหยาง เขาเป็นคนที่ท่าทางติดดินและขยันขันแข็ง
ลู่โจวไม่เคยพบเขามาก่อน เขาเพียงแต่เคยเห็นรูปของหูยางบนประวัติเท่านั้น และเขาก็ทราบเกี่ยวกับทิศทางการวิจัยและภูมิหลังด้านวิชาการมาโดยสังเขป
หากกล่าวโดยทั่วไปถือได้ว่าประวัติของเขาค่อนข้างได้มาตรฐาน เหมือนกับนักวิชาการส่วนใหญ่ที่ทำการวิจัยในเรื่องที่ไม่เป็นที่รู้จัก เขาจึงไม่ได้อยู่ในโครงการนักวิชาการฉางเจียงและไม่ได้มีโอกาสในการเป็นนักวิชาการเช่นกัน… แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ลู่โจวใส่ใจ
อย่างไรก็ตาม มันอาจจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับนักวิจัยด้านเกษตรกรรมที่จะมีประวัติยาวเป็นตั้งๆ
หลังจากลู่โจวดูประวัติของเขาแบบผ่านๆ เขาก็ตัดสินใจมอบให้เขาบริหารจัดการโปรเจกต์
เหตุผลนั้นไม่ใช่แค่เพราะว่าหูหยางมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่ยังเป็นเพราะหูหยางสามารถอยู่ในพื้นที่วิจัยแห่งนี้ได้นานหลายปี นั่นหมายความว่าเขามีความอึดและความดื้อรั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
งานนี้ยากลำบากมาก และคนที่มาทำงานนี้จะต้องอยู่ในทะเลทรายหินเป็นเวลาหลายปี ซึ่งอาจจะทำให้ความอ่อนเยาว์และชีวิตของเขาถูกพรากไป
นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นสมัครมาที่นี่เลย
ดังนั้น ลู่โจวจึงไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก
หลังจากพูดคุยกันได้สองนาที ลู่โจวก็วางถ้วยชาลงแล้วเข้าสู่เรื่องสำคัญ
“ผมจะข้ามเรื่องหลักการต่างๆ ไปแล้วกัน ผมมั่นใจว่าทางมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมได้แจ้งคุณเรียบร้อยแล้วเกี่ยวกับเรื่องโปรเจกต์การ์เด้น”
“ใช่ครับ” หูหยางพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ผมได้รับโปรเจกต์มาเมื่อสองวันก่อน แล้วผมก็มาที่นี่ทันทีเลย”
“ขอบคุณที่กรุณามาทั้งๆ ที่แจ้งล่วงหน้าไม่กี่วัน”
“ไม่ต้องกังวลครับ” หูหยางยิ้มอย่างประหม่าแล้วพูดว่า “ผมต้องมาสำรวจเพื่อทดสอบภาคสนามตลอดอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ว่าจะในทะเลทรายหรือในเมือง สำหรับผมไม่ต่างกัน!”
ลู่โจวพยักหน้าแล้วพูดต่อไปว่า “น่าชื่นชมที่คุณคิดเช่นนั้น มันไม่ง่ายเลยที่จะตัดสินใจแบบนี้ คุณคงต้องใช้เวลาคิดเรื่องนี้อยู่นานเลยทีเดียว แต่ผมก็ยังคงต้องเน้นหลายๆ เรื่อง โปรเจกต์นี้มีความสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของจีน มันคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย”
ลู่โจวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำโปรเจกต์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์นี้ ผมหวังว่าคุณจะทราบว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าหรืออาจจะหลายสิบปี คุณจะถูกแยกออกจากโลกปกติ และผมเกรงว่าคุณอาจจะสามารถลาพักร้อนได้เพียงหนึ่งหรือสองครั้งต่อปีเท่านั้น”
นักศึกษาปริญญาเอกสองคนที่นั่งอยู่ข้างหูหยางถึงกับกลั้นหายใจ แต่ไม่นานพวกเขาก็ผ่อนคลายลง
แม้ว่าพวกเขาจะเรียนอยู่ในสาขาที่ค่อนข้างยากลำบาก แต่พวกเขาก็ไม่ต้องทำงานหนักเท่ากับเจ้านายของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็จะสำเร็จการศึกษาในอีกไม่กี่ปี อย่างมากที่สุด พวกเขาก็คงจะอยู่ที่นี่แค่สองปีเท่านั้น
แต่สำหรับหูหยางแล้ว สีหน้าของเขายังเหมือนเดิม
เขาพยักหน้าแล้วพูดอย่างไม่ลังเลว่า
“ผมคิดไตร่ตรองเรื่องนี้มาแล้ว”
ลู่โจวมองมาที่เขาด้วยสายตาจริงจัง
“ถ้าอย่างนั้น…รบกวนช่วยดูแลโปรเจกต์นี้ด้วยนะครับ”
…………………………..