Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 784 ไดอารี่จากดาวอังคาร
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 784 ไดอารี่จากดาวอังคาร
มันเป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์หลังจากที่พวกนี้ลงจอดดวงจันทร์ สามวันหลังจากที่ระบบช่วยชีวิตถูกตั้งชื่อว่า ‘นิวเวอร์จิเนีย’
ระหว่างช่วงเวลานี้ แผนการสำรวจนิวเวอร์จิเนียเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงแม้ว่าพวกเขาประสบกับพายุทรายนานถึง 17 ชั่วโมง มันผ่านพ้นไปโดยไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร
ในความเป็นจริง บรรยากาศของดาวอังคารบางกว่าโลกร้อยเท่า พายุทรายเองจึงไม่อันตรายเท่าไหร่ สิ่งที่อันตรายคือฟ้าผ่าไฟฟ้าสถิตที่มากับพายุทรายและการลดลงของแสงอาทิตย์ สิ่งนี้ยับยั้งไม่ให้อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ได้รับพลังงานเพียงพอ
แต่เหตุการณ์นี้ถูกพิจารณาไตร่ตรองโดยทีมโปรเจกต์อาณานิคมดาวอังคารของสเปซเอ็กซ์แล้ว ระบบช่วยชีวิตถูกติดตั้งด้วยเครื่องผลิตไฟฟ้ามีเทนซึ่งสามารถแทนที่อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้พลังงาน
สิ่งแรกที่ชาวอาณานิคมพวกนี้ทำหลังจากลงจอดคือการติดตั้งเสาล่อไฟฟ้าที่บ้านของพวกเขาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย…
ถึงแม้ว่าพวกเขาเจอความยากลำบากหลายอย่างในการปรับตัวเข้ากับชีวิตบนดาวอังคาร พวกเขาก็สามารถก้าวผ่านมันได้ พวกเขาร่วมมือกับศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินของนาซาเพื่อทำภารกิจวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่กำหนดไว้ จอห์นสันใช้เวลาวันละครึ่งชั่วโมงเพื่อถ่าย ‘ไดอารี่จากดาวอังคาร’ ของเขา
เขาเป็น ‘โคลัมบัส’ ของ ‘ทวีป’ ใหม่นี้ เขาจึงหวังว่าจะมีคนสนใจใน ‘นิวเวอร์จิเนีย’ มากขึ้น ดังนั้น ตอนที่เขาถ่ายวิดีโอ เขามักจะเลือกแสดงด้านที่สวยงามมากกว่าของชีวิตชาวดาวอังคาร เขาไม่เคยถ่ายด้านที่อันตรายและแย่ของชีวิตเลย
เอาจริงแล้ว ‘วล็อกโฆษณา’ ของเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จ ผู้คนติดเบ็ดและเริ่มพูดคุยเรื่องการใช้ชีวิตบนดาวอังคาร ไดอารี่จากดาวอังคารแต่ละตอนทำให้เกิดการพูดคุยอย่างครึกครื้นบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
จนถึงตอนนี้ ‘ไดอารี่จากดาวอังคาร’ ถูกปล่อยมาแล้วห้าตอน มันกลายเป็นหนึ่งในรายการอินเทอร์เน็ตที่ดังที่สุดในอเมริกาเหนือ หลายสถานีโทรทัศน์ก็ได้ซื้อสิทธิ์ออกอากาศจากสเปซเอ็กซ์
วันนี้เป็นวันถ่ายตอนที่ 6
จอห์นสันวางกล้องไว้ที่โต๊ะ และถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นเขายิ้มสดใสโชว์ฟันขาวในขณะที่เขาทักทายกล้อง
“สวัสดี ทุกคน! ผมจอห์นสัน กัปตันแห่งหัวใจทองคำ! เราไม่ได้คุยด้วยกันมาสักพักแล้ว!
โชคร้ายที่เราเจอกับพายุทราย! วันนี้เราจึงไปสำรวจข้างนอกไม่ได้…แต่ไม่ต้องห่วงพวกเรา เราไม่กังวลว่าจะโดนลมพัดปลิวไปหรอก แล้วอีกอย่างทอร์นาโดทำได้แค่สะกิดเรา
ผมอยากใช้โอกาสนี้แสดงให้พวกคุณเห็นว่าเราทำอะไรที่ดาวอังคารช่วงที่ออกไปสำรวจข้างนอกไม่ได้…”
จอห์นสันหยิบอุปกรณ์กล้องจากโต๊ะแล้วเดินไปพื้นที่ส่วนกลาง เขาเล่าให้ผู้ชมฟังว่าพวกเขาทำอะไรฆ่าเวลา อย่างเช่น การเล่นเกม VR หรือวิ่งบนลู่วิ่ง
“นี่เป็นห้องนันทนาการของเรา…ถึงมันเล็กไปหน่อย แต่มันก็ยังอยู่ในขั้นตอนแรกเริ่ม…เฮ้ทราวิส สวัสดีทุกคนหน่อย”
ทราวิสกำลังเล่นวิดีโอเกม ตอนแรกเขาฝืนยิ้ม แต่เมื่อเขาเห็นสายตาน่ากลัวของจอห์นสัน เขาเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างจริงใจ
จอห์นสันยกนิ้วให้กับเขา
“ผมจะตัดส่วนนั้นออก ด้วยความยินดีครับ”
“ขอบใจ จอห์นสัน”
ทราวิสกลอกตาและใส่แว่นตา VR จากนั้นเขากลับไปเล่นวิดีโอเกม
เอาจริงแล้ว ชีวิตที่นี่ค่อนข้างน่าเบื่อ มันห่างไกลจากยูโทเปียที่จอห์นสันวาดฝันไว้
แต่ด้านไม่ดีนั้นไม่ถูกโชว์ในวล็อกอย่างแน่นอน ถึงเขาจะเผลอถ่ายมัน ทีมสเปซเอ็กซ์จะตัดส่วนที่ ‘ไม่ดี’ ของวิดีโอออก
แต่นั่นก็ไม่จำเป็นเสมอไป
เพราะเขาแทบไม่ได้ถ่ายด้านที่แย่ไว้เลย
จากการพูดกับกล้อง เขากำลังสื่อสารกับผู้คนที่ห่างออกไปหลายสิบล้านกิโลเมตร มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับเขา ถ้ามีเรื่องให้ถ่ายเพิ่มและการตัดต่อไม่ได้ใช้เวลานาน เขายินดีที่จะถ่ายวล็อกวันละหนึ่งครั้ง
หลังจากแสดงให้ผู้ชมเห็นทราวิสเล่นวิดีโอเกมและจูเลียนั่งอ่านหนังสือข้างเครื่องทำกาแฟ จอห์นสันเดินไปที่โรงรถและยืนข้าง ‘รถ’ ของเขา
“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถึงเวลาบอกลาแล้ว ผมเฝ้ารอที่จะพูดคุยกับพวกคุณอีกครั้ง ผมหวังว่าคุณจะจดจ่อรอตอนต่อไปนะครับ บาย…”
จอห์นสันโพสต์ท่าเท่ต่อหน้ากล้องและจบการถ่ายทำวันนี้
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางโรงรถ ทราวิสที่เล่นวิดีโอเกมเสร็จแล้วเดินมาหา
เขามองดูจอห์นสันยืนข้างรถโรเวอร์และกอดอก เขาบ่นกับจอห์นสัน
“ไอ้วล็อกเวรนี้ไม่ทำให้ผมรู้สึกดีเลย”
จอห์นสันยิ้มและเก็บกล้องเข้ากระเป๋ากางเกง เขาเดินไปหาทราวิสและตบไหล่เขา
“ใจเย็นนะเพื่อน หลังจากพายุทรายผ่านไป ผมจะพาคุณขับรถ”
ทราวิสพูดตอบว่า “ผมไม่อยากไป คุณไปเองเถอะ มันไม่มีอะไรนอกจากทราย! ให้ตายเถอะ ผมจะมาที่นี่ทำไมเนี่ย?”
มันไม่มีถนนบนดาวอังคาร ฉะนั้นการขับรถบนทรายก็โอเค แต่ครั้งล่าสุด พวกเขาต้องขับรถบนพื้นที่ขรุขระมากกว่าเพื่อเก็บตัวอย่าง การขับรถขรุขระอย่างมากและไม่สบายเสียเลย
หลังจากใช้ชีวิตบนดาวอังคารมาสักพัก ทราวิสค่อนข้างต่อต้านภารกิจเอาท์ดอร์ เขาเรียกร้องให้เขาทำงานแต่ข้างใน
จอห์นสันตัดสินใจอนุมัติข้อเรียกร้อง
จูเลียถูกย้ายไปทำงานภารกิจเอาท์ดอร์แทน
โชคดีที่ภารกิจพวกนี้ไม่ต้องใช้ผู้คนจำนวนมาก อุปกรณ์ส่วนใหญ่ทำงานอัตโนมัติสูง เวลาส่วนใหญ่พวกเขาเลยไม่ต้องลงจากรถโรเวอร์
ก่อนที่จะส่งระบบช่วยชีวิตไปดาวอังคาร นาซาพิจารณากรณีที่ไม่มีชาวอาณานิคมคนไหนอยากจะออกจากเคบิน
พูดแบบห้วนๆ ภารกิจหลักของพวกเขาคือการทดสอบระบบช่วยชีวิต และกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นแค่งานเสริม
“โอเคเพื่อน ทุกอย่างจะโอเค เราบินมาสองเดือนเพื่อมาถึงที่นี่ ความสนุกเพิ่งเริ่มต้นขึ้น
จอห์นสันไม่รู้ว่าจะตอบกลับที่เพื่อนร่วมทีมบ่นอย่างไรดี เขาเลยแค่พยายามจะปลอบเขา
ไม่ว่าทราวิสจะถูกปลอบใจหรือไม่ มันเป็นสิ่งเดียวที่จอห์นสันทำได้
แต่สิ่งที่จอห์นสันไม่รู้คือห่างออกไปหลายสิบล้านกิโลเมตร ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินนาซากำลังวุ่นวาย
ถูกต้องแล้ว
พายุทรายดาวอังคารไม่มีอะไรที่ต้องไปกลัว
แต่พายุทรายดาวอังคารลูกหนึ่งอาจอยู่ได้นานกว่าหกเดือน ถึงแม้พวกเขาจะใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีเทนเป็นแหล่งพลังงานสำรอง พวกเขาอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงหกเดือน
…………………………………………