Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 79
ตอนที่ 79 นักข่าวอยู่ข้างล่าง!
นักข่าว?
ลู่โจวช็อคแล้วมองออกไปนอกระเบียง เขาเห็นรถตู้จากสถานีโทรทัศน์จินหลิง ดูเหมือนว่าจะมีคนแบกกล้องเจรจากับเจ้าหน้าที่หอพัก
เกิดอะไรขึ้น?
สือช่างมองลู่โจวด้วยความนับถือ “ลู่โจว บอกมาตรงๆ นายทำเรื่องที่น่าตกใจอีกแล้ว? สัญชาตญาณของฉันบอกว่ารถข้างล่างมาหานาย”
หลิวรุ่ยมีเหตุผลมากขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของสือช่าง “ฉันจะเข้าเว่ยป๋อไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เขาไม่จำเป็นต้องกดค้นหาด้วยซ้ำ
มันเป็นกระทู้ที่มาแรงอันดับหนึ่ง มันอยู่เหนือข่าวดาราซะอีก!
หวงกวงหมิงนอนไม่หลับอีกต่อไป เขาเอนตัวพิงเตียงแล้วเกาหัว “นายเจออะไร?”
“คาดการณ์ของโจว…”
“อะไรนะ? คาดการณ์ของโจว? อะไรคือคาดการณ์ของโจว?” สือช่างเดินเข้ามาหาแล้วถาม
“ไม่…ลู่โจวพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว” หลิวรุ่ยกล่าวขณะจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ จากนั้นเขาก็มองลู่โจวแล้วกล่าว “…ข้อคาดการณ์ของโจวอันนั้นดูเหมือนจะเป็นปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก ฉันเคยเจอมาในหนังสือทฤษฏีจำนวน”
หลังจากวันนี้ หนังสือทฤษฏีจำนวนเหล่านั้นจะต้องถูกแก้ไข
เป็นไปตามหลักแล้ว ประวัติศาสตร์กำลังเปลี่ยนต่อหน้าต่อตาพวกเขา
หวงกวงหมิงและสือช่างอ้าปากค้าง ทั้งคู่หันไปจ้องมองลู่โจว
ลู่โจวเอามือลูบหน้าอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อ…มีอะไรติดหน้าฉันเหรอ?”
นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ลู่โจวไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
สือช่างกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “โจว เราเป็นพี่น้องกันถูกไหม?”
ลู่โจวถอนหายใจเบาๆ “…หยุดตรงนั้น ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกนาย”
หลังจากการค้นพบที่น่าตกใจของเขา ถ้าเขาไม่เลี้ยงข้าวรูมเมท เขาคงขี้เหนียวเกินไปหน่อย
สือช่างไม่พอใจ “ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”
ลู่โจวถาม “งั้น…ฉันจะไม่เลี้ยงนายแล้ว?”
“เดี๋ยว ไม่! ฉันหมายถึงฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่ถ้านายยืนกรานจะเลี้ยง ฉันก็ขอรับข้อเสนอของนายไว้!” สือช่างกล่าว เขากระแอมก่อนจะหัวเราะอย่างซุกซน “อืมม…ตอนนายสัมภาษณ์ ฉันขอติดกล้องหน่อยได้ไหม? ฉันจะเอาโพสต์บนหน้าฟีดข่าวแล้วไปโม้ให้เพื่อนๆฟัง”
หวงกวงหมิงเบิกตากว้างแล้วคำราม “บัดซบ สือช่าง นี่ไม่เหมือนนายเลย! ฉันไม่รู้เลยว่านายตกต่ำแบบนี้…ฉันต้องติดกล้องด้วย!”
หลิวรุ่ยนั่งอยู่ตรงที่นั่งของตนแล้วเกาหัวเรื่องของการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโจว แม้ว่าเขาจะพบวิทยานิพนธ์ต้นฉบับบนโลกออนไลน์ แต่เขาก็ไม่เข้าใจกระบวนการพิสูจน์เลย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าร่วมการสนทนา
ลู่โจว “…”
เพื่อประโยชน์ต่อชื่อเสียงของเขา ลู่โจวพลันรู้สึกว่าเขาไม่อาจสัมภาษณ์ตรงนี้ได้
ใครจะรู้ว่าเจ้าสามตัวนี่จะพูดอะไรเกี่ยวกับเขา?
จะดีที่สุดถ้านักข่าวไม่สัมภาษณ์พวกเขา!
ดังนั้นเขาจึงสะพายกระเป๋าและออกจากหอพัก
เมื่อเขารีบลงมาชั้นล่าง เขาก็เมินเสียงกรีดร้องของหวงกวงหมิง
อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะออกจากตึกหอพัก เขาก็ถูกกลุ่มนักข่าวขวางเอาไว้
ลู่โจวคิดว่ามันแย่แล้ว เขาแสร้งทำเป็นนักศึกษาปกติแล้วฝ่าพวกเขาไป โชคร้ายที่เขาชนใส่ไหล่ช่างกล้องแล้วถูกจำได้
นักข่าวจากข่าวภาคค่ำจินหลิงถาม “สวัสดีครับ คุณคือลู่โจวใช่ไหม?”
“ลู่โจว คุณแก้ข้อคาดการณ์ของโจวได้อย่างไร? บทความเป็นความจริงไหม? คุณฝันเห็นการพิสูจน์จริงๆหรือ?”
“…ฉันขอถามได้ไหมว่าปกติคุณเรียนยังไง? คุณมีคำแนะนำให้นักศึกษาคนอื่นๆไหม?”
“…บนโลกอินเตอร์เน็ตบอกว่าศาสตราจารย์เดอลีงย์จากพรินซ์ตันมอบข้อเสนอให้ไปเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่นู่น คุณจะยอมรับข้อเสนอไหม?”
คำถามนี้ทำให้ลู่โจวหนังศีรษะเสียวซ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นภาพสะท้อนจากกล้อง นอกจากนี้ด้วยสายตาของนักศึกษาคนอื่นๆจ้องมองมา เขาจึงเรียบเรียงคำพูดไม่ออก
โชคดีที่ในเวลานั้นมีคนเข้ามาสลายฝูงชน
“หลีกไป หลีกไป”
“อย่าขวางหน้าหอพัก”
ผู้ชายสวมชุดสูทสองสามคนยืนอยู่หน้าหอพักขณะที่นักข่าวเดินออกไป
ลู่โจวยืนอยู่ข้างหลังชายชุดสูทแล้วโล่งอก เขาเห็นคณบดีฉินกับคนแปลกหน้าสองคน จากที่ดู คนแปลกหน้าทั้งสองมีสถานค่อนข้างสูง บางทีอาจเป็นผู้นำของมหาลัย
ขณะที่ลู่โจวกำลังคิดถึงตัวตนของคนทั้งสอง ชายชราชุดสูทก็เดินมาตรงหน้าลู่โจวแล้วยื่นมือขวาออกมาด้วยรอยยิ้ม “ลู่โจว ขอแสดงความยินดีด้วย”
ลู่โจวจับมือแล้วถามอย่างสุภาพ “ศาสตราจารย์ท่านนี้…ผมขอถามได้ไหมว่าท่านคือใคร?”
“ฮ่าๆๆ” ชายชราหัวเราะ เขายิ้มอย่างเป็นกันเอง “…คณบดีฉินเป็นศาสตราจารย์คนเดียว ฉันไม่ได้เป็นศาสตราจารย์”
กล้องที่อยู่ข้างๆก็ถ่ายรูปพวกเขาจับมือกัน
ลู่โจวรู้สึกสับสนยิ่งขึ้น
ถ้าไม่ใช่ศาสตราจารย์ งั้นคุณเป็นใคร?
เขาไม่รู้ว่าชายชราท่านนี้คือใครกันแน่
คณบดีฉินกล่าว “ท่านนี้คือเลขาหลิว เขาทำงานให้กับรัฐบาลเมืองจินหลิง” เขายิ้มแล้วแนะนำตัวคนอื่นๆเสียงเบา “ท่านนี้คือประธานสมาคมคณิตศาสตร์ซูและรองประธานสมาคมคณิตศาสตร์จีน ศาสตราจารย์หวังจ้งหมิง”
ศาสตราจารย์ท่านนี้สวมแว่น เขาพยักหน้าให้ลู่โจวด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับศาสตราจารย์หวัง” ลู่โจวกล่าวอย่างสุภาพและยื่นมือขวาออกไป
กลายเป็นว่าเป็นคนใหญ่คนโตทั้งสอง…
“สวัสดี” ศาสตราจารย์หวังกล่าวด้วยรอยยิ้มแล้วจับมือของหลินฟ่าน เขาจับมือเบาๆแล้วกล่าว “ไม่แปลกใจเลยที่ศาสตราจารย์ถังประเมิณเธอไว้สูง เธอมีความสามารถจริงๆ”
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าวอย่างถ่อมตน “ศาสตราจารย์หวัง ชมเชยเกินไปแล้ว”
“ไว้คุยกันเวลาอื่นเถอะ เลขาหลิวยังมีเรื่องจะพูด อาจารย์ไม่อยากให้เสียเวลา” ศาสตราจารย์หวังกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ครั้งนี้ฉันยอมเสียเวลาได้” เลขาหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองลู่โจวแล้วกล่าว “ลู่โจว ในนามของเมืองจินหลิง ฉันขอขอบคุณผลงานของเธอจากใจ”
ลู่โจวเป็นปลื้ม
อย่างมากเขาก็มีส่วนร่วมในสาขาคณิตศาสตร์เท่านั้น เขาไม่ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือเมืองจินหลิงเลย
“ผมแค่แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ ผมไม่สมควรได้รับ” ลู่โจวกล่าวแล้วยิ้มอย่างสุภาพ
“เธอคิดผิดแล้ว” เลขาหลิวตอบ เขายิ้มแล้วกล่าวต่อ “ปัญหาที่เธอแก้ไม่ใช่ปัญหาคณิตศาสตร์ธรรมดา มันเป็นโจทย์ที่เป็นปัญหาต่อวงการคณิตศาสตร์มากว่ายี่สิบปี! เธอมาจากมหาลัยจินหลิง ดังนั้นเมืองจินหลิงจะไม่ขอบคุณเธอได้ยังไง?”
เลขาหลิวพูดได้ดี แต่มันเป็นทางการเช่นกัน
มันเป็นเพราะเขาไม่ได้อยู่ในวงการคณิตศาสตร์
ปัญหาคณิตศาสตร์ยี่สิบปีไม่ได้หมายความว่านักคณิตศาสตร์ทั่วโลกพยายามแก้ไขมายี่สิบปี ทุกคนมีหัวข้อวิจัยที่แตกต่างกัน นักคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่ได้สละเวลาและพลังงานมาให้ปัญหานี้
ลู่โจวยิ้ม แต่เขาไม่ได้พยายามอธิบายอะไร เรื่องบางอย่างไม่พูดจะดีกว่า บทสทนานี้เป้าหมายหลักมีไว้ให้ไมโครโฟนและกล้องรอบตัวพวกเขา ลู่โจวแค่ต้องเป็น’ผู้ฟัง’ที่ดี
ลู่โจวเห็นรอยยิ้มของเลขาหลิวแล้ววิเคราะห์อยู่ในใจ
คนที่ยุ่งมากท่านนี้จู่ๆก็มาเยือนมหาลัยจินหลิงและมาพบฉันโดยเฉพาะ วิทยานิพนธ์ของฉันส่วนใหญ่มีชื่อเสียงในแวดวงคณิตศาสตร์ระดับโลกและในประเทศ แต่ทำไมนักการเมืองท่านนี้ถึงมาหาล่ะ? คุณได้ยินเรื่องของฉันจากหนังสือพิมพ์ฉบับไหน?
จะว่าไปแล้วถ้าชายคนนี้อยากแสดงการขอบคุณเพราะความสามารถของฉัน งั้นมันก็ควรมีอย่างอื่นกำลังรอฉันอยู่
เงิน?
เกียรติยศ?
ไม่ว่าจะเป็นอะไรเขาก็จะรับไว้ ตราบใดที่มันดีต่อฉัน!
หลังจากหยุดสักพัก เลขาหลิวก็ยิ้มแล้วกล่าว
“นโยบายพื้นฐานของเราก็คือมุ่งเน้นในการศึกษา! การฝึกอบรมผู้มีพรสวรรค์มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆของกระทรวงศึกษาธิการเมืองเรา! เมื่อวานผู้นำสำนักการศึกษาของเราเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟัง เรื่องนี้กระตุ้นความสนใจของฉันทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ครอบครัวของเธอ ผู้นำหลายคนของเมืองเราได้ประชุมกันข้ามคืนและตัดสินใจว่าจะมอบรางวัลให้เธอ นักวิทยาศาสตร์ในอนาคตของเราต้องไม่ยากจน!”
ลู่โจวได้ยินคำพูดของเขาแล้วกล่าวทันที “ท่านเลขาหลิว ท่านทำงานหนักเกินไปแล้ว!”
“ไม่หนักเลย” ชายชราโบก จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อสู้อยู่แนวหน้า เธอต่างหากที่ทำงานหนัก!”