Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 91 ภารกิจวิจัยฟิสิกส์?
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 91 ภารกิจวิจัยฟิสิกส์?
ตอนที่ 91 ภารกิจวิจัยฟิสิกส์?
เช้าวันต่อมา ลู่โจวได้รับสายจากศาสตราจารย์ถัง ดังนั้นเขาจึงไปตึกวิจัย
ทันทีที่เขาเข้าไปในออฟฟิศศาสตราจารย์ถัง เขาก็เห็นอาจารย์ฟิสิกส์ของเขา ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินอยู่ในห้องด้วย
นี่คือ?
“ทำไมเธอถึงยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ มานั่งสิ” ศาสตราจารย์ถังกล่าว จากนั้นเขาก็วางขวดสูญญากาศลงแล้วยิ้ม “ช่วงนี้เธอทำอะไร?”
“ส่วนใหญ่ผมทำแคมปัสแอสซิสแตนท์…”
ลู่โจวยิ้ม จากนั้นเขาก็ทักทายศาสตราจารย์หลี่หรงเอินอย่างสุภาพก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินถามด้วยรอยยิ้ม “เป็นไงบ้าง? มีการพัฒนาขึ้นบ้างไหม?”
ลู่โจวกระแอมเสียงเบาก่อนจะตอบ “เหมือนเดิมครับ…”
จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีการพัฒนาอะไรใหญ่ๆเลย แต่ยังไม่ได้ปล่อยอัพเดท ดังนั้นใครจะรู้?
สมมุติแอพล้มเหลว…
“ศาสตราจารย์ถังเรียกผมมาทำไมเหรอครับ?”
ลู่โจวรีบเข้าประเด็น
“อาจารย์ไม่ได้เป็นคนอยากเจอเธอ” ศาสตราจารย์ถังกล่าวพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นเขาก็กล่าวเสริม “เป็นศาสตราจารย์หลี่ ช่วงนี้เขาวิจัยวิทยาศาสตร์แล้วเจอคอขวด เขาอยากให้อาจารย์หาผู้เชี่ยวชาญไปช่วย อันที่จริงอาจารย์ก็อยากช่วยเขาเองนะ แต่อาจารย์ยุ่งกับโปรเจ็คของตัวเองมาก อาจารย์มาลองคิดดู นักศึกษาปริญญาเอกและปริญญาโทส่วนใหญ่ที่อาจารย์รู้จักไม่ได้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์หน้าที่เท่าเธอ แต่อาจารย์ไม่รู้ว่าศาสตราจารย์หลี่จะพอใจไหม”
ศาสตราจารย์หลี่กล่าวด้วยรอยยิ้มทันที “ฮ่าๆ ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้น? คุณส่งนักศึกษาอันดับหนึ่งของสาขาคณิตศาสตร์ให้ฉัน ฉันต้องอ้าแขนต้อนรับอยู่แล้ว!”
อ่า คุณชมผมเกินไปแล้ว!
ภายนอกลู่โจวยังคงถ่อมตัวอยู่ ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วกล่าว “ศาสตราจารย์ คุณยกยอผมเกินไป ผมไม่ใช่อันดับหนึ่งของสาขา”
นักศึกษาปริญญาโทสองคนที่กำลังวิจัยไม่ได้พูดอะไรเลย แต่พวกเขากลอกตามองบน
บัดซบ ทำไมคุณถึงแสร้งถ่อมตัวได้ห่วยแบบนั้น กลัวคนอื่นมองไม่ออกรึไง?
เวรเอ้ย!
“เอาล่ะ เลิกถ่อมตนได้แล้ว” ศาสตราจารย์ถังทนไม่ไหวจนต้องพูดออกมา เขากล่าวต่อ “เธอแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลก พูดมาตรงๆ เธอจะทำโปรเจ็คนี้ไหม? อาจารย์หาคนอื่นได้”
“ครับ! แน่นอน” ลู่โจวกล่าวและตอบตกลงทันที จากนั้นเขาก็ถาม “ผมขอถามได้ไหมว่าโปรเจ็คนี้เกี่ยวกับอะไร?”
มีโอกาสไม่มากนักที่นักศึกษาปริญญาตรีจะเข้าร่วมโปรเจ็ควิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาขาคณิตศาสตร์ที่เงินทุนแน่นอยู่แล้ว ดังนั้นโปรเจ็ควิจัยจึงมีความต้องการระดับสูง ถ้านักศึกษาปริญญาตรีสามัญอยากทำงานในแล็บ พวกเขาก็ต้องขอร้องศาสตราจารย์
แน่นอนว่ามีโปรเจ็ควิจัยวิทยาศาสตร์ไม่มากนักในสาขาคณิตศาสตร์ อย่างไรก็ตามความมีประโยชน์ของคณิตศาสตร์ นักศึกษาคณิตศาสตร์จำนวนมากจึงมีโอกาสเข้าร่วมโปรเจ็คจากสาขาอื่นๆ
โปรเจ็คที่มีความต้องการมากที่สุดมาจากสาขาฟิสิกส์
ทุกคนรู้ว่าสาขาฟิสิกส์มหาลัยจินหลิงมีโปรเจ็ควิจัยมากที่สุด และมีเงินทุนมากที่สุด ตั้งแต่ฟิสิกส์นิวเคลียร์ไปจนถึงวัสดุกึ่งตัวนํา ตั้งแต่โปรเจ็ควิจัยระดับประเทศไปจนถึงโปรเจ็คที่ร่วมมือกันของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นโปรเจ็คไหนก็สร้างผลลัพธ์ที่ทรงค่า!
ด้วยเหตุนี้เมื่อนักศึกษาปริญญาโทสองคนได้ยินว่าลู่โจวได้รับเชิญไปร่วมโปรเจ็ควิจัยฟิสิกส์กับศาสตราจารย์หลี่หรงเอิน พวกเขาจึงอิจฉามาก
ทุกคนรู้ว่าศาสตราจารย์หลี่หรงเอินเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันวิจัยนาโนคาร์บอน
สถาบันนี้ถือเป็นสถาบันที่ได้รับเงินทุนมากที่สุดในมหาลัยจินหลิง!
อย่างไรก็ตามเจ้าหนูลู่โจวคนนี้มีคุณสมบัติเกินกว่าที่พวกเขาจะอิจฉาได้
ได้รับข้อเสนอจากมหาลัยนิวยอร์กตั้งแต่ปีหนึ่ง เพราะวิทยานิพนธ์ SCI และยังแก้ไขปัญหาคณิตศาสตร์ระดับโลกได้ตอนปีสอง ลู่โจวนำหน้านักศึกษาปริญญาโททั้งสองไปแล้ว
ศาสตราจารย์หลี่ยิ้มแล้วกล่าว “งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ท่อนาโนคาร์บอน(carbon nanotube)เปลี่ยนแปลงคุณภาพของวัสดุผสมซีเมนเบส! ส่วนใหญ่ใช้ในการควบคุมอุทกภัย ป้องกันภัยพิบัติ การถมดินและแท่นสะพาน เป็นต้น โปรเจ็คนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมณฑลเจียงซูและกองทุนวัสดุศาสตร์ การเข้าร่วมโปรเจ็คนี้จะเป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในอนาคตของเธอมาก”
ใช้ท่อนาโนคาร์บอนเปลี่ยนแปลงคุณภาพของวัสดุผสมซีเมนเบส?
มันฟังดูยอดมาก
ลู่โจว “ศาสตราจารย์หลี่ ผมไม่คุ้นเคยกับวัสดุศาสตร์ ศาสตราจารย์บอกผมได้ไหมว่าผมต้องทำอะไร?”
ศาสตราจารย์หลี่ยิ้มแล้วกล่าว “ไม่ต้องห่วง ทุกคนเริ่มจากศูนย์ ส่วนเธอจะทำอะไร เมื่อถึงเวลาอาจารย์จะแบ่งงานให้เอง ให้พูดเจาะจงก็คือ ส่วนใหญ่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลสเปกตรัมอินฟาเรดฟูเรียร์ที่ถูกเก็บสะสมไว้”
แค่นั้น?
ลู่โจวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นั่นมันง่ายมาก เพราะเขาเชี่ยวชาญการวิเคราะห์หน้าที่
ดังนั้นเขาจึงยิ้มแล้วกล่าว “ไม่มีปัญหา! ผมจะทำ ผมจะรายงานให้อาจารย์ตอนไหน?”
“งั้นมาเริ่มตอนนี้เลย” ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินกล่าวแล้วลุกจากโซฟา จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าวกับศาสตราจารย์ถัง “งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ฉันขอยืมนักศึกษาที่มีค่าของคุณก่อนนะ!”
“ฮ่าๆ ไม่ต้องเกรงใจ เชิญเลย แค่จำไว้ว่าต้องคืนตัวเขากลับมาก็พอ!” ศาสตราจารย์ถังกล่าวด้วยรอยยิ้ม
…..
สถาบันวิจัยนาโนคาร์บอนของมหาลัยจินหลิงถูกตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของวิทยาเขต อยู่ถัดจากเส้นทางที่มีต้นไม้เรียงรายไปหอดูดาว
ใครจะคิดล่ะว่าห้องแล็บที่มีอุปกรณ์หลายร้อยล้านจะอยู่ในอาคารที่น่าเกลียดนี้?
อย่างน้อยลู่โจวก็คาดไม่ถึง
เขาไม่เคยมาส่วนนี้ของวิทยาเขต
“นี่คือสถาบันวิจัยนาโนคาร์บอนของมหาลัยเรา ดูจากภายนอกมันค่อนข้างน่าผิดหวังใช่ไหม?” ศาสตราจารย์หลี่พูดติดตรก
ลู่โจวยิ้มแล้วกล่าว “ผมไม่ได้ผิดหวัง แต่ดูจากข้างนอกมันค่อนข้างธรรมดา”
“ความลึกลับที่ไม่ธรรมดามักจะถูกซ่อนอยู่ในสิ่งที่ธรรมดา เช่นเดียวกับสิ่งที่เรากำลังศึกษาอยู่ตอนนี้ เศษกราไฟท์ที่สามารถมองเห็นได้ทุกที่ มันอาจเบากว่าน้ำ มันอาจหนักกว่าเหล็ก…ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการวิจัยของเรา มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะปรับความสัมพันธ์ระหว่างอนุภาคเล็กๆเหล่านั้นอย่างไร”
ขณะที่เดินไปที่ทางเข้าหลักของสถาบัน ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินก็พูดเรื่องฟิสิกส์กับลู่โจว
มันไม่มีความแตกต่างระหว่างการตกแต่งภายในของสถาบันและอาคารเรียนปกติ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือไม่มีห้องเรียน มีแต่ห้องที่มีป้ายต่างๆ และห้องแล็บที่มีอุปกรณ์ต่างๆนาๆ
เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ทดลองที่ทันสมัยที่แสดงอยู่ที่นี่ อุปกรณ์ทดลองที่ลู่โจวเคยเห็นมาเป็นเหมือนของเล่นของเด็ก
หลังจากศาสตราจารย์หลี่หรงเอินพาลู่โจวมาที่ทางเข้า เขาก็พบนักศึกษาปริญญาโทผอมสูงที่กำลังสวมเสื้อโค้ทห้องแล็บ
“เสี่ยวหลิว พาเขาไปเดินรอบๆแล้วช่วยให้เขาคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม อาจารย์ยังมีเรื่องต้องทำ อาจารย์จะกลับไปที่วิทยาเขตก่อน เมื่อเธอได้ข้อมูล เธอก็ส่งมาให้อาจารย์ทางเมลล์”
“ครับ ศาสตราจารย์หลิว” นักศึกษาปริญญาโทที่ชื่อเสี่ยวหลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากศาสตราจารย์หลี่หรงเอินส่งลู่โจวให้เสี่ยวหลิว เขาก็จากไป
เสี่ยวหลิวดันกรอบแว่นแล้วยื่นมือออกมาและกล่าว “ฉันแซ่หลิว ชื่อโป เรียกฉันว่าหลิวโปก็พอ!”
“ลู่โจว” ลู่โจวกล่าวและจับมือ เขาเสริม “หลิวโป ยินดีที่ได้พบ!”
“ฮ่าๆ ลู่โจวใช่ไหม? สวัสดี สวัสดี ฉันเคยได้ยินชื่อนายมาก่อน” หลิวโปกล่าว จากนั้นเขาก็ปล่อยมือแล้วทำท่าทางต้อนรับ “เชิญทางนี้”
ขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ตรงทางเดิน หลิวโปก็เริ่มเล่าเรื่องสถานการณ์ของสถาบันให้ลู่โจวฟัง
มันเป็นเหมือนชื่อที่บอกกลายๆ หัวข้อการวิจัยหลักของสถาบันวิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่วัสดุนาโนคาร์บอน งานวิจัยโปรเจ็คย่อยเช่น ท่อนาโนคาร์บอน ฟูลเลอรีนและแกรฟีน
จากที่หลิวโปกล่าวมา อุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์เป็นอุปกรณ์ตรวจจับโฟโตอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกผลิตมา 99 เครื่อง ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้าแบบพัลส์และความเสียหายของส่วนประกอบ ส่วนข้อมูลเฉพาะ มันเป็นความลับ แม้แต่หลิวโปก็ไม่ทราบ
นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยสาธารณะมากมาย ยกตัวอย่างการวิจัยเกี่ยวกับการยับยั้งเนื้องอกโดยใช้ PFC NP(perfluorocarbon nanoparticles) ไม่นานมันก็ให้ผลลัพธ์ที่ทำให้เกิดแนวคิดใหม่สำหรับการรักษามะเร็ง
ทั้งหมดนี้เป็นโปรเจ็ควิจัยที่ล้ำสมัย
หลิวโปพูดถึงโปรเจ็คของตนอย่างลวกๆ
“โปรเจ็คที่เรากำลังทำอยู่ไม่ได้น่าตกใจเหมือนโปรเจ็คอื่น มันเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ดังนั้นมันจึงสำคัญมาก! แน่นอนนายไม่ต้องกดดันมากไป นายต้องวิจัยด้วยจิตใจที่สงบ นายไม่อาจเร่งรีบได้”
เมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าห้องแล็บ หลิวโปก็มองกลับมาหาลู่โจว จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าว “ถึงแล้ว เราทำงานกันที่นี่แหละ!”