Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 926 อย่างหล่อ!
หลังจาก ‘การประชุมอย่างเป็นมิตร’ ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ การประชุมเรื่องเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ก็มาถึงตอนจบ
ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกคนที่พอใจกับผลลัพธ์ ประเทศต่างๆ ก็เสนอแผนการที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้
อย่างน้อยก็ยอมรับได้ในระดับหนึ่ง…
ณ พิธีปิดการประชุม
ผู้อำนวยการคาร์สันแห่งนาซาและผู้อำนวยการองค์การอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนยืนอยู่หน้ากล้องของพวกสื่อ พวกเขาจับมือของอีกฝ่าย
“ยินดีที่ได้พบคุณครับ”
“เช่นกันครับ…”
ผู้อำนวยการคาร์สันพยายามแกล้งยิ้ม แต่เขาดูไม่มีความสุขเลย
มีเสียงปรบมืออย่างยินดีดังมาจากฝูงชน
กล้องของสื่อกำลังจับภาพช่วงเวลาประวัติศาสตร์นี้อยู่
ลู่โจวยืนอยู่ข้างนอกวง ห่างจากกลุ่มคนส่วนใหญ่ เขามองใบหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคาร์สันแล้วรู้สึกแย่เล็กน้อย
“ทำไมผมรู้สึกเหมือนว่าผู้อำนวยการคาร์สันดูจะไม่โอเคมากๆ เลย?”
ผู้อำนวยการหลี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาให้คำตอบว่า “พวกเขาต้องยอมประนีประนอมครั้งใหญ่ตอนเจรจาเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบงบประมาณ ผมมั่นใจว่าถ้าใครมาเป็นเขาก็รู้สึกแบบนั้นกันหมดนั่นแหละ”
ลู่โจวมองผู้อำนวยการหลี่แล้วบอกว่า “อันที่จริงแล้วผมค่อนข้างสงสัยว่าคุณเรียกร้องอะไรจากพวกเขาไป”
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลู่โจวรับผิดชอบงานหลักในด้านเรื่องทางเทคนิค
หรือถ้าพูดให้ชัดกว่าเดิมก็คือเขาพยายามปกป้องแผนออกแบบดั้งเดิมให้อยู่รอดจากพวกคำแนะนำในการพัฒนาอันแสนห่วยแตก และยังต้องพยายามตรวจสอบให้ดีว่าแผนออกแบบนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นจนกว่าถึงสิ้นเดือน
เขาไม่ได้สนใจเรื่องการเจรจาทางการเมืองเลย แต่เขาแค่สงสัย
ผู้อำนวยการหลี่ยิ้มแล้วตอบว่า “พวกเราไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย พวกเราแค่ปฏิเสธคำเรียกร้องส่วนใหญ่ของพวกเขาเฉยๆ “
ลู่โจวประหลาดใจ
“แล้วพวกเขาก็ยอมเหรอครับ?”
“ก็ทำนองนั้น พวกเราถือไพ่เหนือกว่านี่นา อย่างไรก็ไม่สำคัญหรอก ปีหน้าเราก็จะมีประชุมกันอีกรอบ พวกเราจะคงสถานะความได้เปรียบนี้ไว้” ผู้อำนวยการหลี่ตบบ่าของลู่โจวแล้วบอกว่า “การเจรจาทางการทูตเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสารก็จริง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของประเทศอย่างมหาศาล เหตุผลที่พวกเราสามารถทำแบบนี้ได้ก็เป็นเพราะข้อได้เปรียบของพวกเราเอง หวังว่าคุณจะช่วยให้พวกเรารักษาข้อได้เปรียบนี้ต่อไปนะ”
ลู่โจวยิ้มแล้วบอกว่า “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอกครับ”
ผู้อำนวยการหลี่พยักหน้าอย่างตั้งใจแล้วบอกว่า “ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นนะ!”
จากผลสรุปจากการประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ แผนก่อสร้างจึงถูกวางไว้เรียบร้อย อุปกรณ์ทดลองล็อตแรกถูกขนส่งไปที่ศูนย์ปล่อยยานอวกาศของจินหลิง พวกมันกำลังจะถูกส่งไปนอกอวกาศโดยใช้สกายโกลว์ จากนั้นก็ส่งต่อไปวงโคจรของดวงจันทร์โดยใช้สะพานนกกางเขน
นอกจากนี้ทีมวิศวกรรมยังต้องรับผิดชอบการก่อสร้างที่จะถูกส่งไปที่ปราสาทจันทราอีกด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง ศูนย์วิจัยเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ก็กำลังจะถูกสร้างที่เซี่ยงไฮ้
หลังจากได้ยินข่าว ลู่โจวก็รู้สึกอดรู้สึกอินไม่ได้
เขาคิดมาตลอดว่าศูนย์บัญชาการหลักของเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์จะอยู่ที่ปักกิ่ง แต่ดูเหมือนการคาดการณ์ของเฉินยู่ซานจะถูกต้อง มันเป็นที่เซี่ยงไฮ้จริงๆ
เฉินยู่ซานบอกเขาว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการจะโปรโมตเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียง
การที่มี ILHCRC มาตั้งในเซี่ยงไฮ้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกจุดประสงค์ของพวกเขา
ปักกิ่งคืออนาคตของจีน ในขณะที่เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเกียงจะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเอเชีย…
ภาพพิมพ์เขียวอันแสนเลิศล้ำผุดเข้ามาในความคิดของลู่โจว
ถ้าการคาดการณ์ของเฉินยู่ซานถูกต้องแล้วล่ะก็ ลู่โจวจะต้องให้ความสนใจในแผนโปรเจกต์มากกว่านี้จริงๆ
…
หลังจากการประชุมเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ระดับนานาชาติสิ้นสุดลงหนึ่งวัน ก็มีแท็กซี่เรียงเป็นแถวจอดอยู่ข้างนอกโรงแรมปักกิ่งแชงกรีล่า
หลังจากที่อยู่ในจีนมาหนึ่งสัปดาห์ นักวิชาการและนักการเมืองจากทั่วโลกก็เริ่มเดินทางกลับประเทศของตัวเอง
นักวิชาการจางเหวินหลง ประธานสมาคมฟิสิกส์จีน กำลังยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าโรงแรม เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ตื้นตันใจกับนักวิชาการหยางเซียนฝู่ ประธานสถาบันเทคโนโลยีปักกิ่ง
“ผมยังจำตอนที่ไปเซิร์นกับอาจารย์ที่ปรึกษาได้อยู่เลย ตอนนั้นผมได้เจอกับนักฟิสิกส์ระดับตำนานที่เคยอ่านข้อมูลมาในหนังสือเรียน ผมตื่นเต้นมากเสียจนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย
วันต่อมาผมก็ได้ไปที่ห้องเลคเชอร์ฮอลล์ อาจารย์ที่ปรึกษาบอกผมว่า สักวันประเทศจีนก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน ตอนนั้นผมก็ไม่ได้เชื่อเขาหรอก แต่พอมาตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจารย์ที่ปรึกษาผมได้พูดไว้จะถูกต้องแล้ว”
นักวิชาการหยางก็เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ดีเช่นกันตอนที่พูดเสริม “ใช่ ตอนนี้นักฟิสิกส์ที่เก่งระดับโลกครึ่งหนึ่งมารวมตัวกันอยู่ในปักกิ่งแล้ว นี่เป็นเรื่องที่วิเศษมาก! อ้อใช่ นักวิชาการลู่ไปไหนแล้วล่ะ?”
นักวิชาการจางยิ้มแล้วบอกว่า “คุณช้าไปวันหนึ่งแล้ว เขาเก็บข้าวเก็บของเมื่อคืนแล้วกลับไปหลังจากพิธีปิดจบแล้วล่ะ! ผมบังเอิญไปเจอเขาในลิฟต์พอดี เขาบอกว่าเขามีเรื่องด่วนต้องไปจัดการที่จินหลิง”
นักวิชาการหยางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “ทำไมเขาถึงรีบกลับอย่างนั้นล่ะ? ผมว่าจะพาเขาไปทัวร์สถาบันเทคโนโลยีปักกิ่งอยู่พอดีเลย”
นักวิชาการจางยิ้มแล้วบอกว่า “ฮ่าฮ่า คุณน่าจะบอกเขาเร็วกว่านี้นะ นักวิชาการลู่เป็นคนงานยุ่ง ได้ยินมาว่าในที่สุดนักวิชาการหวังซื่อเฉิงก็หาทางให้นักวิชาการลู่ไปหาที่มหาวิทยาลัยเหยียนได้เสียที แต่กลายเป็นว่านักวิชาการลู่กลับไปชิงตัวคนมาคนหนึ่งระหว่างการเยี่ยมเสียอย่างนั้น”
นักวิชาการหยางตกใจ “เป็นไปได้อย่างไรกัน? หวังซื่อเฉิงต้องอายมากแน่ๆ …”
นักวิชาการจางถอนหายใจแล้วกล่าวเห็นด้วย “ใช่เลยล่ะ!”
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกันนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงกระแอมดังขึ้นมา
นักวิชาการจางเหวินหลงหันหลังไปแล้วก็เห็นนักวิชาการหวังซื่อเฉิงยืนอยู่ตรงนั้น
นักวิชาการจางเหวินหลงยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“นักวิชาการหวัง? ยินดีที่ได้เจอนะ…ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
“…ผมมาเข้าร่วมการประชุม”
หวังซื่อเฉิงยังคงแกล้งยิ้มต่อไปและเริ่มคุยกับนักวิชาการทั้งสอง
แต่ไม่ว่าหวังซื่อเฉิงจะคุยเรื่องอะไร เขาก็รู้ว่านักวิชาการทั้งสองคนนั้นทำตัวแปลกๆ
มันเหมือนกับว่า…
พวกเขารู้สึกสงสาร แทบจะเป็นความรู้สึกสมเพชเลยด้วยซ้ำ
หวังซื่อเฉิงโกรธมาก
ทั้งวงการวิชาการได้ยินเรื่องที่ลู่โจวไปชิงตัวคนมีความสามารถมาจากศูนย์คณิตศาสตร์ของเขาแล้ว ยังไม่นับว่าลู่โจวกล้าทำแบบนั้นต่อหน้าต่อตาเขาอีก
หวังซื่อเฉิงกำหมัดแน่น เขาอยากจะถลกหนังลู่โจวออกมา
เวรเอ๊ย!
ไอ้ห่*นั่น!
ที่แย่ที่สุดก็คือเขายังต้องมาแกล้งทำเป็นยิ้มเวลาอยู่ต่อหน้ามันอีก…
แม่*เอ๊ย!
………………………