Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 977 ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน
- Home
- Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ
- ตอนที่ 977 ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน
มักใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะเปลี่ยนจากการวิจัยพัฒนาไปสู่การผลิต นี่เป็นเรื่องปกติ
แต่สำหรับบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนมักใช้เวลาที่น้อยกว่าปกติ เพราะประสบการณ์และความแข็งแกร่งของหวังเจิงกวง รวมถึงเส้นสายของเขาในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
ถึงเขาจะพบปัญหาที่แก้ไม่ได้ แต่เขาก็สามารถหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าแม้เขาจะมีความสามารถมากกว่านั้น แต่งานดีไซน์ส่วนใหญ่ก็ทำโดยทีมของบี๊บบี๊บชาร์จจิง
นี่คือคำขอของลู่โจว
“… ไม่เลว แค่ทำตามแบบเท่านั้น” นักวิชาการหวังมองการออกแบบอันใหม่และส่งพิมพ์เขียวกลับไปให้หวางเฉียง
ราวกับได้ยกภูเขาออกจากอกของหวางเฉียง เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เดือนที่ผ่านมาถือว่าเป็นนรกสำหรับเขาและทีมวิจัยและพัฒนาของเขา เพราะนอกจากจะขาดกำลังคนแล้วยังต้องจัดการกับผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนอีกด้วย
เหยาซึ่งนักศึกษาของนักวิชาการหวางมักวิพากษ์วิจารณ์งานพวกเขาที่ต้องทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
แม้ว่าเขาอยากจะยอมแพ้แต่เมื่อคิดดูแล้ว เขาตัดสินใจที่จะสู้ต่อไป
นักวิชาการหวังงมองหวางเฉียงและยิ้ม
“ทำได้ดีมาก บอกตามตรง ผมคิดว่าพวกคุณจะยอมแพ้ไปแล้วเสียอีก ผมกำลังจะไปรับคนบางส่วนจากบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีน และมอบโปรเจกต์นี้ให้กับนักวิชาการลู่”
หวางเฉียงถือแบบในมือไว้แน่น จากนั้นเขาก็หายใจเข้าลึกๆ แล้วถามว่า “ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ?”
นักวิชาการหวังจิบชาและพูดกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“เชิญเลยครับ”
“ในเมื่อบรรษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนเก่งขนาดนี้… ทำไมคนที่นั่นถึงไม่ทำโปรเจกต์นี้เองล่ะครับ? ถ้าคุณคิดว่าเราไร้ความสามารถทำไมไม่ไล่เราออกล่ะ? คุณสามารถหาคนที่ดีกว่าพวกเราได้อย่างง่ายดาย”
หวางเฉียงรู้ว่าคำถามของเขาค่อนข้างแปลก
เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่บริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนจะช่วยสตาร์สกายเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตามหัวหน้าวิศวกรนักวิชาการหวังก็ยินดีที่จะแนะนำพวกเขาให้ทำโปรเจกต์นี้
หลังจากได้ยินคำถามของหวางเฉียง หวังเจิงกวงก็ยิ้ม
“เดือนที่แล้วผมโทรถามนักวิชาการลู่ ผมเป็นคนที่ชอบความเพอร์เฟค ผมกลัวว่าพวกคุณจะลาออกเพราะมาตรฐานของผม เดาสิว่านักวิชาการลู่พูดว่ายังไง?
หวางเฉียงคิดอยู่นานและส่ายหัว
“ผมไม่รู้”
นักวิชาการหวังยิ้มและกล่าวว่า “เขาบอกว่าพวกคุณสามารถลาออกตามต้องการ แต่คนอื่นจะมาแทนที่คุณ! แต่ถ้าพวกคุณคนใดคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จมันจะคุ้มค่าพอแล้ว!”
นักวิชาการหวางมองไปที่หวางเฉียงและพูด
“ดังนั้นผมจึงแปลกใจที่เห็นคุณทั้งห้าคนยังคงทำงานอยู่ที่นี่ สิ่งนี้มันสำคัญยิ่งกว่าสถานีชาร์จไร้สาย
“ในฐานะผู้นำของโปรเจกต์นี้ ผมหวังว่าคุณจะจำได้ว่าเทคโนโลยีนั้นสัมพันธ์กันเสมอ และวันหนึ่งเทคโนโลยีหนึ่งจะล้าสมัย แต่…” นักวิชาการหวางเอื้อมมือไปจิ้มหน้าผากของหวังเฉียงเบา ๆ ก่อนพูดว่า “ความรู้และความคิดสร้างสรรค์เท่านั้นที่คงอยู่ตลอดไป”
เทคโนโลยีจะยังคงอยู่เสมอ…
ในที่สุดหวางเฉียงก็เข้าใจว่าทำไมนักวิชาการลู่ไม่สนใจเรื่องการสูญเสียกำลังคน และเหตุใดนักวิชาการลู่จึงยืนกรานให้พวกเขาทำงานในโปรเจกต์นี้
คนที่ลาออกคือผู้ที่ไม่เหมาะกับงานนี้
เทคโนโลยีสามารถปรับปรุงได้เสมอ
ส่วนสำคัญไม่ใช่ความสามารถของพวกเขาแต่เป็นความมุ่งมั่นที่จะดีขึ้นและฝึกฝนความกล้าหาญเพื่อทำภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ
นักวิชาการลู่รับความช่วยเหลือจากบริษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีนได้อย่างง่ายดาย และอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์ทั้งหมดในประเทศจีนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือเขาในโปรเจกต์นี้
แต่ลู่โจวไม่ได้สนใจแค่เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้น
สิ่งที่เขาต้องการคือทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างสรรค์ได้อย่างต่อเนื่อง!
เช่นเดียวกับวิธีที่เขาฝึกฝนพรสวรรค์สำหรับนิวเคลียร์ฟิวชั่นและอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ แม้ว่าเขาจะทิ้งตัวขับดันไอออนและสนามฟิวชั่นนิวเคลียร์ไปแต่เทคโนโลยีก็ยังได้รับการปรับปรุง
นักวิชาการหวังมองไปที่ชายหนุ่มและพยักหน้า
เขารู้ว่าชายหนุ่มเข้าใจสิ่งที่เขาพูดไป ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นและยิ้ม
“โอเค การดีไซน์สถานีชาร์จไร้สายรุ่นแรกอยู่ในมือคุณแล้ว ผมจะไม่ขอรบกวนอีกแล้ว ผมจะโทรหานักวิชาการลู่คืนนี้และกลับไปที่ปักกิ่งพรุ่งนี้ ผมมีคำแนะนำให้นั่นคือพยายามต่อไปให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์สถานีชาร์จหรืออย่างอื่นก็ตาม อนาคตของคุณจะไร้ขีดจำกัด!”
“ขอบคุณครับ” หวางเฉียงเงียบไปครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็พูดว่า “ผมขอเรียกคุณว่าอาจารย์ได้ไหม?”
นักวิชาการหวางยิ้มและพูด
“ตามสบาย ผมสอนพวกคุณหลายอย่างแล้ว ดังนั้นมันก็คงจะเป็นการดีที่จะเรียกอย่างนั้น อ๋อ แล้วพวกคุณจะเรียกมันว่าอะไร?”
หวางเฉียงหยุดสักครู่แล้วพูด
“บีบี…บีบีชาร์จจิง”
“บีบี?” นักวิชาการหวัง “ผมรู้ว่าบริษัทของคุณชื่อบีบีแต่คุณเรียกผลิตภัณฑ์ว่าบีบีด้วยเหรอ?”
หวางเฉียง “ใช่ครับ… ทำไมเหรอ?”
นักวิชาการหวังถามว่า “นักวิชาการลู่คิดชื่อนี้เองหรือเปล่า?”
“ไม่…” หวางเฉียงเกาหัวและพูดว่า “ซีอีโอหลี่ครับ… เขาเป็นคนคิดชื่อ บี๊บบี๊บชาร์จจิง ครับ รู้ได้เลยว่าลู่โจวนั้นกำลังจะเปลี่ยนชื่อแต่เขาก็ไม่ได้ทำ ชื่อนี้มีปัญหาเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร ผมแค่สงสัย… พวกคุณทำได้แล้ว ดังนั้นผมขอตัวนะ”
นักวิชาการหวังมองไปที่นักเรียนของเขาและส่งสัญญาณให้ตามเขาไป จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ประตูออฟฟิศ
นักวิชาการชรากำลังจะออกจากสำนักงาน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและพูดขึ้น
“คนที่เคยเป็นแบบนั้นถึงจะรู้ว่าต้องทำแบบไหน
“ผมเดาว่าเฒ่าลู่เป็นคนที่ตั้งชื่อสิ่งต่างๆ ได้แย่มาก!”
เหยาหงซึ่งอยู่ถัดจากนักวิชาการหวาง เกือบสะดุดล้มกับพื้น
นักวิชาการหวังหัวเราะและพูด
“ใจเย็นๆ นะ”
เหยาหงมองที่ที่ปรึกษาของเขาและพูด
“อ่า โอเคครับ…”
ฉันเดาว่าความสามารถในการตั้งชื่อและความสามารถทางวิชาการนั้นสัมพันธ์กัน…
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ทำไมฉันไม่ฉลาดเท่าศาสตราจารย์ลู่…
………………….