Silver Overlord - ตอนที่ 155
155 – อนาคตที่สดใส
แม้ว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะพร้อมแล้วที่จะทําความสะอาดห้องน้ําบนยอดเขาเทียนเฉียวในระยะยาว
แต่เขาก็ยังไม่คาดคิดว่าหลังจากทํางานนี้มานานกว่าสามเดือน ในเวลาหนึ่งร้อยวัน งานแรกของเขากับนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ก็จบลงในรูปแบบที่ค่อนข้างน่าตื่นเต้น
หนึ่งร้อยวันไม่นานนัก แต่ก็ไม่ได้สั้นนัก เพียงแต่ว่าวันนี้เมื่อปรมาจารย์ซูกล่าวถึงจํานวนวันที่แน่นอน ย่อมหมายความว่าตั้งแต่วันแรกปรมาจารย์ซูก็ได้ให้ความสนใจกับเขาอย่างจริงจังแล้ว
ในเวลานี้เอี้ยนลี่เฉียงแสดงความยินดีกับตนเองที่ระมัดระวังและมีสติในทุกๆวันของร้อยวันที่ผ่านมา
ด้วยความพิถีพิถันและไม่ผ่อนคลายแม้สักเล็กน้อย เขาทําทุกอย่างที่ทําได้ทุกวันเพื่อทําความสะอาดห้องน้ําบนยอดเขา เทียนเฉียวจนกระทั่งสะอาดเป็นประกายและไม่พบข้อบกพร่องใดๆ
ในวันที่เขาทําน้ําส้มสายดินเสร็จเมื่อสองสามวันก่อน เขาได้ใช้มันทันที หลังจากใช้น้ําส้มสายชูดินมาตรฐานความสะอาดของห้องน้ําบนยอดเขาเทียนเฉียวก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และหลังจากที่เอี้ยนลี่เฉียงทําความสะอาดเสร็จแล้ว กลิ่นแปลกๆทั้งหมดในห้องน้ําก็ดูเหมือนจะหายไปด้วย
แล้วในคืนนี้เมื่อหิมะตกลงมาอย่างรวดเร็วและหนา พื้นก็กลายเป็นน้ําแข็ง ในที่สุดความพากเพียรและความพากเพียรที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเอี้ยนลี่เฉียงก็ได้ผลตอบแทนที่น่าภูมิใจ
ในเวลานี้เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยจากภายใน เขารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าปรมาจารย์ผู้เป็นประมุขขุนเขาเทียนเฉียนจะมอบหมายหน้าที่ให้เขาโดยตรง
กู่เจ๋อซวนรู้สึกตื่นเต้นด้วยเช่นกัน ภายในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์มีเพียงศิษย์ภายในเท่านั้นที่ถือได้ว่าเป็นศิษย์ที่แท้จริงของที่นี่ ตามธรรมดาแล้วศิษย์ภายนอกอย่างเขาถือเป็นเพียงผู้รับใช้
เอี้ยนลี่เฉียงเพิ่งก้าวสู่การเป็นนักรบเมื่อวานนี้ และตอนนี้ ณ วันนี้ เขากําลังจะไปทํางานที่ห้องโถงสีเทาบนยอดเขาเทียนเฉียว มันทําให้เขารู้สึกว่าโชควาสนาของตัวเองกําลังเปลี่ยนไป
“ระวัง…”
เมื่อพวกเขาเดินไปเกือบครึ่งทางกู่เจ๋อซวนที่เดินอยู่ข้างๆเอี้ยนลี่เฉียงก็ลื่นไถลไปบนพื้นและเกือบจะตกลงจากภูเขาโชคดีที่เอี้ยนลี่เฉียงคว้าเขาไว้ทัน
กู่เจ๋อซวนดูเหมือนจะตื่นขึ้นจากสภาพฝันหวาน เขาจับมือเอี้ยนลี่เฉียงและดึงตัวเองขึ้นมาหลังจากนั้นเขาก็กล่าวด้วยน้ําเสียงอ่อนหวานว่า
“น้องชายตอนนี้เจ้าได้ไปทํางานที่ห้องโถงสีเทาแล้ว หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงเจ้าก็ช่วยย้าย พวกเราไปเป็นผู้ช่วยของเจ้าได้หรือไม่
หากมันเป็นคําสั่งของเจ้าต่อให้เจ้าคนแซ่ฮั่วต้องการคัดค้านก็ทําไม่ได้ พี่ชายคนนี้อยู่ที่นี่มานับที่ใกล้จะขึ้นราแล้ว ดูจ้าวฮุ่ยเผิงสิเขาเป็นชายหนุ่มที่ดีไม่เช่นนั้นเขาย่อมไม่สามารถผ่านขั้นตอนท่าม้าได้
ลี่เฉียงเจ้าทนดูอนาคตที่สดใสของจ้าวฮุ่ยเผิงถูกทําลายไปต่อหน้าได้ลงเชียวหรือ เจ้าดูพวกเราสิพวกเราแทบจะไม่ได้กินเนื้อเลยมีแต่ซาลาเปาแข็งๆกับหัวไชเท้าพวกนั้น”
“ภายในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ศิษย์ภายในแต่ละคนสามารถเลือกผู้ติดตามได้สองคน หากเจ้าไม่สะดวกใจจะอย่างไรก็เลือกพวกเราไปสักคนก็ได้”
เอี้ยนลี่เฉียงยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคําพูดของเขา ผู้ติดตามนี้เป็นตําแหน่งผู้ช่วย ทันทีที่เอี้ยนลี่เฉียงเข้าทํางานที่หอเทียนเฉียว เขาก็มีสิทธิ์เลือกผู้ติดตามสองคน
ตามกฎของนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ตราบใดที่ไม่ใช่สาวกหญิง เขาสามารถเลือกใครก็ได้เป็นผู้ติดตามของเขา
“จะทําให้ยุ่งยากทําไมพวกเจ้าก็ตามข้าไปทั้งสองคนเลย” เอี้ยนลี่เฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องชายที่แสนดี” กู่เจ๋อซวนเริ่มหัวเราะอย่างมีความสุขพร้อมกับตบไหล่เอี้ยนลี่เฉียงอย่างแรง
“ฮุ่ยเผิง เจ้าคิดอย่างไร?” เอี้ยนลี่เฉียงถามจ้าวฮุ่ยเผิง
จ้าวฮุ่ยเผิงพยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมกับเกาหัวของตัวเอง
“โอ้….จากนี้ไปพวกเราต้องเรียกเจ้าว่าศิษย์พี่ซะแล้ว…”
“ใช่แล้ว จากนี้ไปเราต้องเรียกเขาว่าศิษย์พี่ ในอนาคตเราจะติดตามศิษย์พี่เอี้ยนเอง” กู่เจ๋อซวนเริ่มวาดฝันถึงอนาคตอีกครั้ง
ลําดับชั้นอาวุโสภายในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์มีความสําคัญเป็นลําดับแรกและสถานะของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของแต่ละคน
กู่เจ๋อซวนและจ้าวฮุ่ยเผิงต่างก็รู้จักเอี้ยนลี่เฉียงมาสองสามเดือนแล้ว แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทําอะไรพวกเขาก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับเอี้ยนลี่เฉียงได้แม้สักทางเดียว
พูดถึงความรู้พวกเขาก็ไม่อาจเทียบได้กับเอี้ยนลี่เฉียง เมื่อพูดถึงความแข็งแกร่งพวกเขาก็รู้สึกว่าเอี้ยนลี่เฉียงจะต้องแข็งแกร่งกว่าอย่างแน่นอน และเมื่อพูดถึงความขยันในการฝึกฝนเอี้ยนลี่เฉียงก็มีความอุตสาหะอย่างยิ่ง
ดังนั้นเมื่อเอี้ยนลี่เฉียงถูกเรียกตัวขึ้นไปทํางานบนห้องโถงสีเทาของยอดเขาเทียนเฉียวพวกเขาจึงให้การยกย่องไม่ได้รู้สึกอิจฉาแม้แต่น้อย
ทั้งสามคนเดินลงมาจากภูเขาท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจ… เมื่อพวกเขามาถึงหุบเขาเล็กๆนั้น ท้องฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้นแล้ว
เมื่อเห็นว่าเอี้ยนลี่เฉียงถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดลงไปในลําธารเพื่ออาบน้ํา ทั้งกู่เจ๋อซวนและจ้าวฮุ่ยเผิงก็เดินตามหลังถอดเสื้อผ้าและกระโดดลงไปเช่นกัน
เมื่อสัมผัสกับน้ํากู่เจ๋อซวนก็รู้สึกหนาวเหน็บแทบจะขาดใจ เขากรีดร้องออกมาเสียงดังและพยายามปีนขึ้นฝั่งแต่ถูกเอี้ยนลี่เฉียงและจ้าวฮุ่ยเผิงรั้งตัวไว้
ในท้ายที่สุดเขาก็ทําได้เพียงกัดฟันและแช่อยู่ในน้ําไปพร้อมกับเอี้ยนลี่เฉียงและจ้าวฮุ่ยเผิง
ในวันที่หิมะโปรยปราย เสียงหัวเราะและพูดคุยอย่างร่าเริงดังไปทั่วหุบเขาเล็กๆใต้ยอดเขาเทียนเฉียว
…..
หลังจากอาบน้ําเสร็จพวกเขาก็ทําความสะอาดเสื้อผ้าก่อนจะย่างมันเทศและไข่สักสองสามฟองเพื่อรับประทานเป็นอาหารเช้า
พวกเขาทําความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยและจัดเตรียมของทุกอย่างเพื่อย้ายออก ในช่วงสายทั้งสามคนได้ไปที่ห้องโถงสีเทาโดยตรงเพื่อทําเอกสารของพวกเขา ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างอารมณ์
เป็นเรื่องบังเอิญมากที่เอี้ยนลี่เฉียงและคณะเพิ่งมาถึงนอกห้องโถงสีเทา หม่าเหลียง ซึ่งพวกเขาไม่ได้เจอกันมาสองสามเดือนก็เดินขึ้นจากเส้นทางอื่น พวกเขาทั้งสี่พบกันในลักษณะนี้นอกห้องโถงสีเทา
เมื่อเห็นเอี้ยนลี่เฉียงใบหน้าของหม่าเหลียงแสดงความประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากนั้น เขาก็ยิ้มอย่างเสแสร้งพร้อมกับพูดว่า
“ไม่เจอกันนานเลยนะลี่เฉียงเจ้าดูดีจริงๆ ดูเหมือนว่าหน้าที่ของเจ้าบนยอดเขาเทียนเฉียวจะทําให้เจ้ามีความสุข ฮ่าฮ่าฮ่า…”