Silver Overlord - ตอนที่ 166
166 – ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คิดฝัน
งวงแหวนดําเป็นงูพิษที่ผิดปกติ ครั้งแรกที่เอี้ยนลี่เฉียงเห็นพลังของพิษงูชนิดนี้มันเกิดขึ้น ระหว่างบทเรียนที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
วันนั้นอาจารย์พิเศษของสถาบันได้นําม้าตัวหนึ่งมาที่นั่นเพื่อทําการทดลองโดยเฉพาะ หลังจากนั้นเขาก็รีดพิษงูวงแหวนดําและแทงเข้าสู่ร่างกายของม้าด้วยเข็ม
ทันทีที่ม้าถูกเข็มทิ่ม ร่างกายของมันก็แข็งที่อก่อนที่จะล้มลงบนพื้นแม้ว่าจะยังไม่ตายทันที แต่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าพิษของมันร้ายแรงแค่ไหน
พิษของงูวงแหวนดําไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่มันจะทําให้คู่ต่อสู้เป็นอัมพาต และทําให้พวกมันขยับไม่ได้
เมื่อเทียบกับมดน้ําแข็งที่เคยกัดเอี้ยนลี่เฉียงมาก่อน ผลกระทบที่ทําให้เป็นอัมพาตจากพิษของงูพิษวงแหวนดํานั้น มากกว่ามดน้ําแข็งอย่างน้อยสิบเท่า
แน่นอน เอี้ยนลี่เฉียงไม่ได้ซื้องูตัวนี้เพื่อการบริโภคหรือเพื่อน้ําดีของงู เขาต้องการพิษของมันแทน
เอี้ยนลี่เฉียงกลับมาที่หมู่บ้านอู่หยางอีกครั้งก่อนเวลาอาหารกลางวัน หลังจากปิดประตูเมื่อก ลับไปที่ลานเล็กๆของเขาแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็เข้าไปในห้องของตัวเอง
ในเวลานี้เขาต้องการจะรีดพิษงูวงแหวนดํา เอี้ยนลี่เฉียงงัดกรามของงูพิษวงแหวนดําแล้วกดเขี้ยวพิษของมันเข้ากับขอบขวด เอี้ยนลี่เฉียงออกแรงบางอย่าง และพิษของงูก็ถูกบีบออกจากต่อมพิษของมัน
งวงแหวนดําตัวนี้ไม่เคยถูกรีดพิษมาเลยสักครั้ง ในครั้งนี้เจี้ยนลี่เฉียงจึงสามารถได้พิษของมันมาครอบครองในปริมาณที่เกินพอ และเขาก็สามารถบีบมันออกมาได้หลายหยดในคราวเดียว
เอี้ยนลี่เฉียงนํางูกลับเข้าไปในกรงไม้ไผ่ จากนั้นเขาก็อาบพิษงูที่เขาเก็บมาในขวดไปบนลูกดอกทั้งสี่ที่เขาสร้างขึ้นอย่างระมัดระวัง หลังจากที่แช่พิษงูใส่ลูกศรสองสามชั้นในที่สุดเขาก็เก็บมันไว้อย่างระมัดระวัง
เมื่อเขาทําทุกอย่างเสร็จแล้ว เอี้ยนลี่เฉียงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ จากนั้นจึงลงมาจากภูเขาเพื่อบะหมี่ชามหนึ่ง เขากลับมาพร้อมกับซาลาเปาสองสามอันที่เขาซื้อมาแล้วเริ่มฝึกเปาลูกดอกให้ชํานาญ
เมื่อพูดถึงการฝึกฝน ประสบการณ์จริงมีประสิทธิภาพมากกว่าทฤษฎีมาก
เพราะการฝึกฝนจะทําให้เกิดความคล่องแคล่วและมีความชํานาญเป็นอย่างมาก ลองคิดดูว่า หากเขาได้ฝึกฝนสิ่งนี้สัก 10 วันอานุภาพของมันจะรุนแรงมากแค่ไหน
เอี้ยนลี่เฉียงรู้ว่าเขามีโอกาสเพียงครั้งเดียวในการใช้ลูกดอก ถ้าเขาต้องการจะฆ่าหวังฮ่าวเฟย เขาต้องทําสําเร็จในครั้งเดียว
ถ้าเขาทําพลาดในครั้งแรก มันคงยากมากสําหรับเขาที่จะหาโอกาสครั้งที่สอง ดังนั้นเขาจึงต้องแน่ใจว่าเขาจะไม่ทําพลาดในโอกาสเดียวที่เขาคว้ามาได้
ดวงตะวันที่แผดเผาอยู่เหนือศีรษะของเขา ปากของเอี้ยนลี่เฉียงแห้งและเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ถึงกระนั้นเขาก็ยังอุตสาหะในการฝึกฝนต่อไป
เขาถือถังไม้ที่เต็มไปด้วยน้ําจากห้องครัว ถ้าเขากระหายน้ํา เขาจะตักน้ําหนึ่งชามจากถังแล้วดื่ม ถ้าเขาร้อน เขาจะเทน้ําหนึ่งชามบนหัวของเขา
ด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เอี้ยนลี่เฉียงเริ่มคุ้นเคยกับการใช้ลูกดอกในที่สุด ดูเหมือนว่าการฝึกฝนเปาลูกดอกก็ไม่ได้แตกต่างจากการฝึกฝนการยิงธนูของเขาสักนิด เอี้ยนลี่เฉียงทําได้อย่างชํานาญอย่างรวดเร็ว
ในตอนเย็นเมื่อเมฆบนท้องฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยเฉดสีพระอาทิตย์ตกและเลี้ยนลี่เฉียงก็จําไม่ได้ว่าเขาฝึกซ้อมไปกี่รอบแล้ว
แสงสีแดงก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเขาในทันใด ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ คลื่นพลังประหลาดที่พุ่งพล่านก็กระแทกเข้าใส่กระหม่อมของเขาจังๆ
พลังแปลกๆที่เข้าสู่ตัวเขาก็แยกออกเป็นสามส่วนภายในร่างกาย หนึ่งในนั้นพุ่งเข้าหาดวงตาของเอี้ยนลี่เฉียงทันทีและทําให้เกิดความรู้สึกเย็นเยียบที่อธิบายไม่ถูกและน่าพอใจในดวงตาของเขา
ในทันใด คลื่นพลังอีกระลอกหนึ่งพุ่งมาที่มือของเขา ทําให้เส้นเอ็นและเส้นเลือดที่มือของเขาเต้นผิดปกติราวกับถูกไฟฟ้าดูด
คลื่นลูกที่สามห่อหุ้มปอดและช่องอกทั้งหมดของเขา ทําให้เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกราวกับว่าปอดของเขาปลอดโปร่งในทันที
มีอยู่ช่วงหนึ่งเอี้ยนลี่เฉียงเกือบจะรู้สึกราวกับว่าปอดของเขากลายเป็นปอดที่ทําด้วยโลหะ ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายไม่ว่าจะถูกขยายออกมากแค่ไหน
แสงสีแดงรอบๆตัวเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เงาของต่อหัวเสือขนาดยักษ์ค่อยๆปรากฏขึ้นจากแสงสีแดง
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเงาของต่อยักษ์ตัวนั้นก็เข้าไปในร่างของเอี้ยนลี่เฉียงห่อหุ้มพลังงานในดวงตา มือ และปอดของเอี้ยนลี่เฉียงก่อนที่มันจะค่อยๆหายไป
เอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขาแทบไม่อยากเชื่อทุกอย่างที่เขาเพิ่งประสบมา
นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์แปลก อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาไม่ได้ฝึกฝนวิชาใดๆ เขาแค่เป่าลูกดอกเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้นเอี้ยนลี่เฉียงยังมองเห็นเงาของต่อตัวนั้นซึ่งปรากฏอยู่ในแสงสีแดง เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับปรากฏการณ์ความก้าวหน้าของวิชาใดๆรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับต่อตัวนี้
ที่สําคัญกว่านั้น เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงสัมผัสได้ถึงสถานะปัจจุบันของร่างกาย เขาก็ตระหนักว่าร่างกายของเขารู้สึกเบาและโปร่งสบายมากมันเป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
ทันทีที่เงาของต่อตัวนั้นเข้าไปในร่างของเอี้ยนลี่เฉียง เอี้ยนลี่เฉียงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาลงราวกับว่าน้ําหนักของเขาลดไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ตามจริงแล้วเอี้ยนลี่เฉียงเพิ่งประสบกับการปรับปรุงในสภาพร่างกายของเขาหลังจากที่ครอบครองร่างนี้เพียงครั้งเดียว และนั่นคือตอนที่เขาผ่านขั้นตอนท่าม้าเป็นครั้งแรก
เมื่อเงาของต่อหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาในตอนนี้ ความรู้สึกสบายที่เขาได้รับนั้นคล้ายคลึงกับตอนที่เขาผ่านขั้นตอนท่าม้าอย่างไม่ผิดเพี้ยน
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น มีเรี่ยวแรงมากขึ้นกว่าเดิม แต่ในครั้งนี้ เขากลับรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองคล่องแคล่วราวกับเป็นคนละคน
ไม่เพียงเท่านั้นเอี้ยนลี่เฉียงยังพบว่าดวงตา มือ และปอดของเขาดูเหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงมองไปทางต้นทับทิมอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็ดูเหมือนจะมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นมาก ก่อนหน้านี้ วิสัยทัศน์ของเขาคล้ายกับกล้องสามเมกะพิกเซลคู่หนึ่ง
ในเวลาเพียงชั่วพริบตา กล้องสามเมกะพิกเซลก็ถูกอัพเกรดเป็นกล้องห้าเมกะพิกเซลทันที เมื่อเขาจ้องมองไปที่ผลทับทิมบนต้นไม้ ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถซูมดวงตาได้ด้วย (เหี้ยยย! เอา มันคักๆโลด)
มันทําให้เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกตกตะลึงที่ได้สัมผัสกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว
เอี้ยนลี่เฉียงทดลองเหวี่ยงแขนของเขา เขาไม่แน่ใจว่าทําไม แต่เขารู้สึกได้ถึงความเร็วของแขนของเขาที่เร็วขึ้นและคล่องตัวกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเทียบกับสภาพปัจจุบัน แขนของเขาก่อนหน้านี้รู้สึกราวกับว่าข้อต่อทั้งหมดไม่ได้รับการหล่อลื่น แต่ตอนนี้ข้อต่อทุกส่วนในร่างกายของเขาคล้ายกับถูกทาจารบีมาใหม่เอี่ยม
เอี้ยนลี่เฉียงรีบสะบัดแขนอีกสองสามครั้ง ความเร็วและความว่องไวของแขนของเขานั้นเร็วเกินไปจนดวงตาของเขาแทบจะตามไม่ทัน
นี่รวมถึงปอดของเขาด้วย เอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกว่าปอดของเขาสามารถกลั้นหายใจได้มากกว่า 5-6 นาทีเสียอีก
เกิดอะไรขึ้น?